ป.ป.ช. เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา 'ไทยสมุทร สมงาม' อดีตนายก อบต.คำเขื่อนแก้ว อำนาจเจริญ เรียกเงินจาก พนง.ที่ได้รับโบนัส ประจำปี 56 -57 ล่าสุด ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนโทษ จำคุก 2 กระทง 10 ปี ไม่รอลงอาญา
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา นายไทยสมุทร สมงาม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) คำเขื่อนแก้ว อำเภอชานุมาน จังหวัดอำนาจเจริญ เรียกรับเงินจากพนักงานส่วนตำบล และพนักงานจ้างที่ได้รับเงินโบนัส ประจำปีงบประมาณ 2556 และ 2557
ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 และ 187 ประกอบมาตรา 90 และ 91 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2562
ล่าสุด เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2564 ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน ตามศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 ที่พิพากษาว่า จำเลย มีความผิดตามมาตรา 149 การกระทำของจำเลยเป็นคามผิดหลายกรรมต่างกัน ให้เรียงกระทงลงโทษ ตามมาตรา 91
ลงโทษจำคุกกระทงละ 5 ปี รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 10 ปี
อย่างไรก็ดี สำหรับคดีนี้ ยังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมลงมติ เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2564 เห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่ฎีกาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือประหารชีวิต