‘ศรีสุวรรณ’ บุกยื่นทวงถาม ‘บิ๊กตู่’ ดำเนินมาตรการทางวินัย ‘นิพนธ์ บุญญามณี’ เมื่อครั้งนั่งนายก อบจ.สงขลา ปมถูก ป.ป.ช.ชี้มูลผิดไม่เบิกจ่ายซื้อรถอเนกประสงค์ 50 ล้าน-ถูก สตง.สอบปมเบิกจ่ายงบอุดหนุนสมาคมกีฬาฯ
............................................
เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ฯ ทำเนียบรัฐบาล นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย มายื่นคำร้องทวงถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้ดำเนินการพิจารณาลงโทษนายนิพนธ์ บุญญามณี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สงขลา (ปัจจุบันเป็น รมช.มหาดไทย) ใน 2 กรณี ได้แก่
1.กรณีสำนักตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) สงขลา ตรวจสอบการเบิกจ่ายเงิน อบจ.สงขลา เมื่อครั้งนายนิพนธ์ เป็นนายก อบจ.สงขลา และอดีตนายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดสงขลา ที่นำไปอุดหนุนให้กับสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดสงขลา ประจำปีงบประมาณ 2558-59 โดยมิชอบนั้น
ต่อมาคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) มีมติเมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2560 ว่าเป็นการอุดหนุนเงินงบประมาณเกินอำนาจหน้าที่และเบิกจ่ายไม่เป็นไปตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงิน การจ่ายเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2543 และผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา มีหนังสือเห็นพ้องด้วยกับข้อทักท้วงของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน โดยสรุปว่า อบจ.สงขลา ที่มีนายนิพนธ์ เป็นนายก อบจ.สงขลา ตั้งงบประมาณเงินอุดหนุนสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดสงขลาเกินอำนาจหน้าที่และการใช้จ่ายไม่ถูกต้อง เรื่องดังกล่าวสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เคยมีหนังสือของสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เมื่อ 17 มิ.ย. 2562 แจ้งนายกรัฐมนตรีเพื่อเป็นข้อมูล-หลักฐาน ประกอบการพิจารณาตัดสินใจไม่เสนอชื่อบุคคลบางคนให้พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี ตามมาตรา 158 แห่งรัฐธรรมนูญ 2560 แล้วด้วย
หลังจากนั้นสำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 9 มีหนังสือแจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ระบุว่า ได้ส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชา หรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งหรือถอดถอนของผู้ถูกร้อง ดำเนินการทางวินัยไปตามหน้าที่และอำนาจ ตามมาตรา 64 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย. 2563 ที่ผ่านมา กระทั่งจนบัดนี้ยังไม่ปรากฏความคืบหน้าในการปฏิบัติให้เป็นไปตามมติของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่า นายนิพนธ์ จะถูกลงโทษหรือดำเนินการทางวินัยตามที่กฎหมายกำหนดแต่อย่างใด
2.กรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิด นายนิพนธ์ ว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในขณะดำรงตำแหน่งนายก อบจ.สงขลา หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด และมีพฤติการณ์ฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชนตาม พ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัดฯ พ.ศ.2540 และที่แก้ไขเพิ่มเติม กรณีไม่เบิกจ่ายเงินค่าจัดซื้อรถอเนกประสงค์ 50 ล้านบาท ปัจจุบันสำนวนอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานอัยการปราบปรามคดีทุจริต ภาค 9
นายศรีสุวรรณ ระบุว่า รัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 160 (4)(6) และ(8) บัญญัติไว้ชัดเจนว่า รัฐมนตรีจะต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และต้องไม่มีประวัติหรือกระทำการอันมีลักษณะการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรม โดยนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรม (ก.ม.จ.) ตาม พ.ร.บ.มาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ.2562 มีอำนาจตามมาตรา 13 ประกอบ มาตรา 19 ของกฎหมายดังกล่าว จะต้องดำเนินการลงโทษนายนิพนธ์ ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติได้ส่งเรื่องมาให้ดำเนินการทางวินัย แต่หากยังเพิกเฉย นายกรัฐมนตรีอาจเข้าข่ายการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ได้ และหรืออาจถูกฝ่ายค้านนำไปอภิปรายในญัตติไม่ไว้วางใจที่จะเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ได้
“เมื่อความปรากฏเช่นนั้น ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงใคร่กราบเรียนมายังนายฯเพื่อสอบถามว่าในฐานะผู้บังคับบัญชาดำเนินการลงโทษนายนิพนธ์ ตามครรลองของกฎหมายที่ ป.ป.ช.แจ้งมาแล้วหรือไม่ อย่างไร และถือว่านายนิพนธ์ มีคุณสมบัติการเป็นเป็นรัฐมนตรีไม่เป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 160 บัญญัติหรือไม่ รวมทั้งขัดต่อมาตรฐานทางจริยธรรมหรือไม่” นายศรีสุวรรณ ระบุ
อ่านประกอบ :
หลังฉาก!คำสั่ง มท.‘บิ๊กท้องถิ่น’โดน ป.ป.ช. ฟันไม่ต้องสอบซ้ำ-จับตากรณี‘นิพนธ์-พิบูลย์’?
ถอดถอนภายใน 30 วัน! มท.แจ้งคำสั่ง ผู้บริหารท้องถิ่น โดน ป.ป.ช.ชี้มูลผิดไม่ต้องสอบสวนซ้ำ
สนง.อัยการปราบทุจริตฯภาค 9 ตั้งคณะทำงานพิจารณาคดี‘นิพนธ์’-ขีดเส้นเสร็จใน 90 วัน
ป.ป.ช.ส่งคดี‘นิพนธ์’เบิกงบอุดหนุน ส.กีฬาฯ 63 ล.แก่ผู้บังคับบัญชาดำเนินทางวินัยแล้ว
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage