‘วิทัย’ เผยออมสินอยู่ระหว่างคัดเลือกพันธมิตรเข้าร่วมลงทุนธุรกิจ ‘จำนำทะเบียนรถ’ เข้ารอบสุดท้าย 3 ราย ก่อนคัดเลือกให้เหลือ 1 ราย เสนอบอร์ดฯเห็นชอบ พร้อมเปิดตัว ‘สินเชื่อขายฝากที่ดิน’ วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท ไถ่ถอนภายใน 3 ปี หวังเพิ่มสภาพคล่องให้เอสเอ็มอี ลดการถูกเอาเปรียบดอกเบี้ย-สุ่มเสี่ยงที่ดิน
................
เมื่อวันที่ 27 ต.ค. นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยถึงความคืบหน้าการคัดเลือกพันธมิตรเพื่อเข้าร่วมลงทุนในธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถทีเสนอตัวเข้ามาทั้งหมด 8 ราย ว่า ได้คัดเลือกเอกชนเหลือ 3 ราย จากนั้นคัดเลือกให้เหลือ 1 รายพร้อมเงื่อนไขที่ออมสินจะเข้าลงทุน ก่อนเสนอให้บอร์ดออมสินเห็นชอบต่อไป
“เราได้ให้ที่ปรึกษาทางการเงินฯของธนาคารทหารไทยคัดเลือกผู้ที่เสนอตัวร่วมทุนที่เข้ารอบสุดท้าย รวมทั้งจะให้อีวายเข้าตรวจสอบด้านบัญชี และให้สำนักงานกฎหมายแคปปิตอลตรวจสอบในข้อกฎหมายต่างๆ จากนั้นจะสรุปให้เหลือเพียงรายเดียว พร้อมทั้งเงื่อนไขที่ออมสินควรเข้าไปลงทุน และจะนำเสนอให้บอร์ดออมสินพิจารณาต่อไป” นายวิทัยกล่าว
สำหรับการเข้าลงทุนในธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถของธนาคารออมสินดังกล่าว เป็นไปตามนโยบายของนายวิทัยที่ได้กำหนดวิสัยทัศน์ของธนาคารออมสินเป็น ‘ธนาคารเพื่อสังคม’ โดยออมสินจะคิดดอกเบี้ยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถที่ 16-18% ต่อปี จากปัจจุบันสินเชื่อดังกล่าวคิดดอกเบี้ย 24-28% ต่อปี และนายวิทัยหวังว่าการลดดอกเบี้ยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถดังกล่าว จะทำให้ดอกเบี้ยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถในตลาดลดลง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน 3 ล้านคน
นายวิทัย ยังกล่าวว่า วันนี้ ธนาคารออมสินได้เปิดตัวสินเชื่อใหม่ คือ ‘สินเชื่อ SMEs มีที่ มีเงิน’ กรอบวงเงิน 1 หมื่นล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ที่ไม่สามารถกู้เงินจากสถาบันการเงินได้ เพราะติดปัญหาธุรกิจขาดรายได้และมีภาระหนี้เดิม จึงต้องหันไปพึ่งการกู้นอกระบบ โดยเฉพาะการ “ขายฝากที่ดิน” และถูกเอารัดเอาเปรียบด้วยดอกเบี้ยเงินกู้ที่สูงมาก วงเงินกู้ต่ำกว่าราคาประเมินมาก รวมทั้งมีความเป็นไปได้สูงที่จะต้องสูญเสียที่ดินอย่างไม่เป็นธรรม
“เพื่อเป็นการปลดล็อกให้ SMEs ได้มีทางออกท่ามกลางวิกฤติรุนแรงครั้งนี้ ธนาคารออมสินจึงออกสินเชื่อใหม่ นั่นคือ สินเชื่อ SMEs มีที่ มีเงิน ที่มีแนวคิดในการเป็นตัวเลือกที่ยุติธรรมแก่ผู้ประกอบการ ให้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่เป็น SMEs สามารถใช้โฉนดที่ดินมาเป็นหลักประกันการกู้เงิน วงเงินกู้สูงสุด 50 ล้านบาท เพื่อนำเงินไปเสริมสภาพคล่องให้กับกิจการ หรือนำไปไถ่ถอนจากสัญญาขายฝากที่ทำไว้” นายวิทัยกล่าว
สำหรับเงื่อนไขการปล่อย ‘สินเชื่อ SMEs มีที่ มีเงิน’ ธนาคารออมสินจะพิจารณาให้กู้ได้สูงถึง 70% ของราคาประเมินที่ดินของราชการ ไม่พิจารณาภาระผู้กู้และไม่วิเคราะห์รายได้ คิดอัตราดอกเบี้ย 5.99% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา และผู้กู้สามารถนำเงินต้นมาไถ่ถอนที่ดินคืนได้เมื่อพร้อมภายในระยะเวลา 3 ปี ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไป สถานการณ์มีความผ่อนคลายและธุรกิจมีความเข้มแข็งมากขึ้นแล้ว ก็จะมีความสามารถในการชำระหนี้คืนตามกำหนดเวลา
“ด้วยเงื่อนไขผ่อนปรนให้ลูกค้าได้กู้ง่าย ๆ เช่นนี้ เชื่อว่าสินเชื่อ SMEs มีที่มีเงิน จะช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ให้สามารถประคับประคองธุรกิจเดินหน้าต่อท่ามกลางความยากลำบากได้” นายวิทัยย้ำ
ทั้งนี้ ธนาคารออมสินเปิดให้บริการยื่นขอ ‘สินเชื่อ SMEs มีที่ มีเงิน’ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 30 มิ.ย.2564 หรือจนกว่าวงเงินจะหมด โดยผู้สนใจสามารถลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ยื่นขอสินเชื่อได้ที่เว็บไซต์ www.gsb.or.th หรือติดต่อที่ธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศ
นายวิทัย ระบุด้วยว่า ที่ผ่านมาธนาคารออมสินได้ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับความเดือดร้อนเพราะผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 มาอย่างต่อเนื่อง โดยออกสินเชื่อเงื่อนไขพิเศษต่าง ๆ ที่เน้นช่วยลดภาระและเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้ประชาชน และผู้ประกอบการรายย่อย ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อเพื่อช่วยกลุ่มฐานราก หรือ Soft Loan ช่วยเหลือ SMEs กลุ่มท่องเที่ยว กลุ่มธุรกิจประมง รวมไปถึง SMEs ทั่วไปที่ได้รับความเดือดร้อนจากผลกระทบจากโควิด-19
อ่านประกอบ :
วิทัย รัตนากร:ดัน‘ออมสิน’สู่โซเชียลแบงก์ ภารกิจช่วยชาวบ้าน‘จำนำทะเบียนรถ-ขายฝากที่ดิน'
ทรัพย์สิน 397 ล.‘วิทัย รัตนากร’ผอ.แบงก์ออมสินป้ายแดง-สมเด็จวัดระฆัง 5 องค์ 9.5 ล.
เปิดยื่นกู้รอบสอง! สินเชื่อฉุกเฉิน ‘ออมสิน’ รายละ 5 หมื่นบาท-ดอกเบี้ย 0.35% ต่อเดือน
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage