สำนักงาน ก.ล.ต. หนุนนโยบาย ‘ศบศ.’ ไฟเขียวหลักการปรับปรุง Smart Visa เปิดทางนักลงทุนต่างชาติซื้อกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และ REIT ชี้ช่วยเพิ่มสภาพคล่องในระบบ เตรียมขอความร่วมมือ บจ.เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับ ‘credit term’
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เผยแพร่เอกสารข่าวว่า ตามที่การประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบศ. เมื่อวันที่ 16 ก.ย.2563 มีมติเห็นชอบในหลักการการปรับปรุงหลักเกณฑ์การอนุญาตให้ถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร (Permanent Resident Permit)
พร้อมทั้งเห็นชอบปรับปรุงมาตรการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษ (Smart Visa) ให้เชื่อมโยงกับการลงทุน อาทิ การซื้ออาคารชุดและกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ เพื่อดึงดูดกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ นักลงทุน ผู้บริหาร และผู้ประกอบการวิสาหกิจ รวมถึงเห็นชอบข้อเสนอแนะการกำหนดเกณฑ์มาตรฐานระยะเวลา (credit term) ในประเทศไทย เพื่อเสริมสภาพคล่องสำหรับการดำเนินธุรกิจของกลุ่ม SMEs ที่เป็นผู้จัดส่งสินค้าและวัตถุดิบการผลิตแก่ธุรกิจขนาดใหญ่ นั้น
น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวจะช่วยสร้างสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มธุรกิจ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ โดยช่วยให้กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์หรือทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ที่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในประเทศ สามารถขยายฐานผู้ลงทุนต่างประเทศเพิ่มได้
“มาตรการดังกล่าวยังช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และ REIT ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ราคาตลาดของกองทุนดังกล่าวสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงมากขึ้น โดยตั้งแต่ต้นปีราคากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และ REIT ลดลงเฉลี่ย 17% เมื่อเทียบกับปีก่อน” น.ส.รื่นวดีกล่าว
นอกจากนี้ การกำหนดเกณฑ์มาตรฐานระยะเวลา credit term ยังช่วยให้กลุ่มธุรกิจ SMEs มีสภาพคล่องมากขึ้นและสามารถลดภาระในการหาสินเชื่อเพิ่มได้ โดย ก.ล.ต. จะขอความร่วมมือจากบริษัทจดทะเบียนให้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับ credit term ซึ่งอาจเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในแบบแสดงรายการข้อมูลประจำปีต่อไป
น.ส.รื่นวดี ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศราเพิ่มเติมว่า การที่ศบศ. เห็นชอบแนวทางการเปิดให้นักลงทุนต่างชาติซื้อกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ หรือทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ได้ตามมูลค่าที่กำหนด จากเดิมที่ให้ซื้อได้ไม่เกิน 50% และห้ามจำนอง จำหน่าย โอน ภายในระยะเวลา 5 ปี รวมทั้งยกเว้นหลักเกณฑ์การกำหนดระยะเวลาการพำนักในประเทศไทยไม่น้อยกว่า 3 ปีก่อนยื่นคำขอนั้น จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการได้อย่างมาก
อ่านประกอบ :
ขอ ครม. 5 หมื่นล.แจกเงินผ่านบัตรคนจน-โครงการคนละครึ่งมี 24 ล้านคนได้รับสิทธิ์
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่https://www.facebook.com/isranewsfanpage