นายกรัฐมนตรี สั่งตรวจสอบขบวนการแอบอ้างเรียกเก็บค่าหัวคิวโรงแรมที่เข้าร่วมเป็นสถานกักกันตัวคนไทยที่กลับจากต่างประเทศ ด้าน โฆษก ศบค.ย้ำ ใครพบเห็น แจ้งจับได้ทันที
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 23 พ.ค. นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม สั่งตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีมีผู้แอบอ้างเรียกเก็บเงินค่าหัวคิว สำหรับผู้ประกอบการโรงแรมที่เสนอให้ใช้สถานที่สำหรับกักตัวคนไทยที่กลับจากต่างประเทศ (State Quarantine) โดยนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ยืนยัน จะไม่ปล่อยให้มีการกระทำดังกล่าวเกิดขึ้น พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด เพราะเป็นช่วงเวลาที่ประชาชนกำลังประสบกับปัญหาผลกระทบจากโควิด ไม่ควรที่จะมีผู้ใดมาใช้ความเดือดร้อนของประชาชนเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ ไม่ว่าจะในลักษณะใดก็ตาม
ด้าน นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. กล่าวว่า ได้รับทราบจากข่าวว่ามีกลุ่มบุคคลต่างๆ ไม่ทราบว่าจากหน่วยงานใด เข้าไปเรียกรับเงิน หักหัวคิวกับโรงแรมต่างๆ พร้อมยืนยันว่าจากการตรวจสอบจากศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงที่รับผิดชอบเรื่องสถานที่กักตัว และสอบถามไปยังกระทรวงการต่างประเทศ ยังไม่พบว่าผู้ที่มีพฤติการณ์ดังกล่าว เพราะเราเห็นตรงกันว่า โรงแรมต่างๆได้เข้ามาช่วยกันดูแลคนไทย จะไม่มีการเอารัดเอาเปรียบใดๆทั้งสิ้น ทั้งนี้หากใครพบพฤติการณ์เรียกรับหัวคิว ขอให้รีบแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจได้ทันที
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา ตัวแทนจากองค์กรภาคธุรกิจท่องเที่ยวในเมืองพัทยา อาทิ สมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก , สมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา รวมถึงสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรี ออกมาให้ข้อมูลว่า มีกลุ่มบุคคลไม่ระบุหน่วยงาน เข้ามาติดต่อไปยังโรงแรมต่างๆ ในพื้นที่เมืองพัทยา และ จ.ชลบุรี เพื่อขอเก็บค่าหัวคิวแลกกับการได้คัดเลือกให้เป็นสถานที่กักตัวคนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ โดยเรียกเก็บในอัตรา 40% จากค่าใช้จ่ายที่ภาครัฐกำหนดไว้ที่คนละ 1,000 บาทต่อวัน จึงเป็นที่มาให้ ศบค.ต้องออกมายืนยันว่า ภาครัฐไม่มีการเรียกเก็บค่าหัวคิวในลักษณะดังกล่าว พร้อมสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบรายละเอียดแล้ว (ที่มาข่าว : เว็บไซต์ผู้จัดการ)
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/