‘รองอธิบดีอัยการสอบสวน’ เผยพฤติกรรม ‘มงคล ปรีสุขเกษม’ อัยการเก๊ มีเรื่องร้องเรียนเพียบ เคยขู่จะตบตำรวจโดนศาลสั่งจำคุก 15 วัน แต่รับสารภาพให้ ‘รอลงอาญา’ พบเคยตามตื๊อ ‘อัยการหญิง’ ส่งรูปใส่เครื่องแบง ‘เต็มยศ’ จีบ ‘ตำรวจหญิง’ อ้างเป็นอัยการชั้น 5
......................................
เมื่อวันที่ 30 ก.ค. นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด ในฐานะรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานการสอบสวน ได้ดำเนินคดีกับนายมงคล ปรีสุขเกษม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน กรณีแอบอ้างเป็นข้าราชการฝ่ายอัยการ และปรากฎภาพหนังสือแต่งตั้งนายมงคล เป็นที่ปรึกษาอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน ว่า หนังสือดังกล่าวเป็นหนังสือจริง โดยเป็นหนังสือที่ออกในสมัยนายอุทัย อาทิเวช ดำรงตำแหน่งเป็นอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน
อย่างไรก็ดี เมื่อนายอุทัย พ้นจากตำแหน่งเป็นอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน และเข้าดำรงตำแหน่งรองอัยการสูงสุดในวันที่ 1 ต.ค.2565 นั้น ทำให้นายมงคล ต้องพ้นจากตำแหน่งที่ปรึกษาฯด้วย แต่นายมงคลกลับนำหนังสือแต่งตั้งดังกล่าวไปแอบอ้างเรื่อยมา
“เท่าที่ทราบ นายอุทัย นอกจากเป็นอัยการแล้ว ยังเป็นนักวิชาการ สอนหนังสือมีลูกศิษย์เป็นจำนวนมาก ซึ่งนายอุทัย ก็จะมีความเมตตากับลูกศิษย์ โดบย้อนไปเมื่อช่วงปี 2565 นั้น นายมงคลขณะที่ยังบวชเป็นพระอยู่ ได้ไปหานายอุทัย พร้อมกับร้องขอบิณฑบาตให้นายอุทัยแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาฯ เพื่อที่จะได้เป็นโปรไฟล์ สร้างความน่าเชื่อถือเวลาทำงาน ด้วยความที่นายอุทัยเป็นอาจารย์ และมีความเมตตาต่อลูกศิษย์ จึงคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาใดๆตามมา จึงออกหนังสือแต่งตั้งที่ปรึกษาฯฉบับดังกล่าวออกไปเมื่อวันที่ 25 ส.ค.2565
แต่ก็เป็นที่สังเกตได้อีกว่า นายอุทัย จะดำรงตำเเหน่งอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวนได้อีกไม่กี่เดือน เพราะต้องขึ้นไปดำรงตำแหน่งรองอัยการสูงสุดในวันที่ 1 ต.ค.2565 ซึ่งเป็นปีเดียวกัน จึงเท่ากับว่า ถ้ายึดตามหนังสือแต่งตั้งแล้ว นายมงคลจะเป็นที่ปรึกษาฯเพียงแค่ 2 เดือน คือ ช่วง ส.ค.-ก.ย.2565 เท่านั้น และนายมงคล จะต้องพ้นตำแหน่งที่ปรึกษาตามการโยกย้ายตำแหน่งของนายอุทัยไปแล้ว แต่ปรากฏว่านายมงคล ยังเอาหนังสือแต่งตั้งดังกล่าวยึดถือไว้แล้วไปแอบอ้างเรื่อยมา” นายวัชรินทร์ กล่าว
ส่วนพฤติการณ์นายมงคล ที่มักจะไปกล่าวบรรยายปาฐกถาตามหน่วยงานราชการที่สำคัญ นั้น นายวัชรินทร์ กล่าวว่า นายมงคล ก็จะเอาหนังสือแต่งตั้งที่ปรึกษาฯฉบับดังกล่าว ไปเป็นหลักฐานให้กับหน่วยงานราชการ หรือเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูง รวมไปถึงตำแหน่งหรือคุณวุฒิต่างๆ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้ตนเอง และต่อมาเริ่มมีการร้องเรียนเข้ามายังสำนักงานอัยการถึงพฤติกรรมของนายมงคล พร้อมทั้งเรียกร้องให้มีการตรวจสอบว่า บุคคลดังกล่าวมีที่มาที่ไปอย่างไร ซึ่งได้มีการแจ้งเรื่องนี้ให้นายกุลธนิต มงคลสวัสดิ์ ที่เข้ามาดำรงตำแหน่งอธิบดีสำนักงานอัยการสอบสวน รับทราบแล้ว
นายวัชรินทร์ กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนและรับเรื่องราวร้องเรียนทราบว่า นายมงคลมีพฤติกรรมแอบอ้างมากมาย ยกตัวอย่างเมื่อวันที่ 25 เม.ย.2566 นายมงคลใส่ชุดเครื่องแบบราชการเต็มยศขึ้นไปแอบอ้างเบ่งใส่ ตำรวจที่ สภ.ธัญบุรี โดยอ้างว่าเป็นที่ปรึกษาอัยการสูงสุด และเคยแอบอ้างว่าได้รับแต่งตั้งจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้สอนนายพล เเละทำท่าจะเข้าไปตบตำรวจคนดังกล่าว จนนำมาสู่การดำเนินคดีนายมงคลในข้อหาข่มขู่รังแก ทำให้ผู้เสียหายอับอาย ซึ่งนายมงคลให้การรับสารภาพ ศาลฯลงโทษจำคุก 15 วัน แต่รอลงอาญา 2 ปี
นอกจากนี้ เมื่อ 24 มิ.ย.2567 นายมงคลใส่ชุดสีกากีชุดอัยการใส่หมวกช่อชัยพฤกษ์ ใส่เครื่องแบบใหม่ของอัยการ เดินขึ้น สน.สำราญราษฎร์ เพื่อไปมอบใบอนุโมทนาบัตรให้กับ ผกก.สน.สำราญราษฎร์ เเละเมื่อไปเจอตำรวจสาวหน้าห้อง นายมงคลก็มีการขอแลกไลน์ หลังจากนั้นนายมงคลก็ส่งรูปภาพการแต่งกายอัยการและอ้างว่าเป็นอัยการชั้น 5 ซึ่งเป็นถึงระดับอัยการจังหวัดหรืออัยการผู้เชี่ยวชาญให้กับตำรวจหญิงคนดังกล่าว ทาง ผกก.สน.สำราญราษฎร์ จึงสอบถามมายังสำนักงานอัยการสูงสุดว่าเป็นอัยการจริงหรือไม่ ซึ่งนี่เป็นอีกหนึ่งคดีที่กำลังจะดำเนินคดีกับนายมงคล
นายวัชรินทร์ ยังกล่าวถึงพฤติกรรมของนายมงคลที่อวดเก่งแอบอ้างข่มขู่บุคคลอื่น ว่า มีอัยการหญิง ซึ่งหลานนายพลตำรวจตรีชื่อดังคนหนึ่ง ได้มาร้องเรียนว่าถูกนายมงคล ติดตามคุกคามเชิงชู้สาว ซึ่งอัยการหญิงท่านนี้ คิดว่าเป็นอัยการรุ่นพี่ จึงไม่ตอบโต้อะไร แต่ก็ร้องเรียนมาที่สำนักงานอัยการแล้ว นอกจากนี้ จากการตรวจสอบยังพบว่านายมงคล ใส่เครื่องเเบบอัยการที่มีเครื่องหมายพระไพศรพณ์ ถึง 16 ครั้ง ซึ่งได้มีการเเจ้งความดำเนินคดีต่างกรรมต่างวาระ ทางอัยการจึงดำเนินคดีและออกหมายจับ จนนำมาสู่การจับกุมนายมงคล ขณะบรรยายที่โรงเรียนย่านนนทบุรีเมื่อเร็วๆนี้
ส่วนกรณีที่ว่าตำรวจให้ประกันตัวนายมงคล หลังถูกจับนั้น นายวัชรินทร์ ระบุว่า เป็นดุลพินิจของตำรวจ แต่ต้องไม่ลืมว่า นายมงคลยังมีคดีอีกหลายคดี และในฐานะรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ขอฝากประชาชนหรือข้าราชการระดับสูง หากถูกนายมงคลหรอกข่มขู่คุกคาม ขอให้มาแจ้งที่สำนักงานอัยการการสอบสวน ถนนบรมราชชนนี ใกล้กับ สน.ตลิ่งชัน เพื่อนำเสนออัยการสูงสุดดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดต่อไป ขณะที่นายอุทัย อดีตรองอัยการสูงสุดได้ทราบเรื่องแล้ว ก็ได้สั่งการมาว่า ขอให้ดำเนินคดีไปตามกฎหมาย และไม่เกี่ยวว่าจะเป็นลูกศิษย์ลูกหากันมาก่อน
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้ สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด ได้มีการดำเนินคดีกับนายมงคล ปรีสุขเกษม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน ในความผิดฐานกระทำความผิดฐานกระทำโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่สำนักงานอัยการสูงสุด พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550
และสวมเครื่องแบบหรือประดับเครื่องหมายของเจ้าพนักงาน สำนักงานอัยการสูงสุดโดยไม่มีสิทธิ เพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่าตนมีสิทธิ และ พ.ร.บ.เครื่องหมายราชการ พ.ศ.2482 ตามความในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 146 กรณีนายมงคล มีพฤติการณ์โพสต์ภาพตนเองขณะแต่งกายเครื่องแบบปกติขาวของข้าราชการฝ่ายอัยการประดับเครื่องหมายคล้ายเครื่องหมายของสำนักงานอัยการสูงสุด ในลักษณะเผยแพร่โดยสาธารณะ ซึ่งบุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ เพื่อเข้าใจได้ว่านายมงคล เป็นข้าราชการฝ่ายอัยการ โดยมีลักษณะการกระทำแอบอ้างในลักษณะดังกล่าวหลายครั้ง
อ่านประกอบ :