ก.ล.ต.ลงโทษทางแพ่ง ‘เพ็ญประภา ศิริสรรพ์-พวก’ รวม 3 ราย ใช้ข้อมูลภายใน-ช่วยเหลือ เทขายหุ้น SQ ปี 62 สั่งปรับรวม 3.9 ล้านบาท ห้ามเป็น ‘กรรมการ-ผู้บริหาร บจ.’ 8-12 เดือน
..............................
เมื่อวันที่ 9 ก.ค. สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยการดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 3 ราย ได้แก่ (1) นางเพ็ญประภา ศิริสรรพ์ (2) นางสาวสาธิดา ศิริสรรพ์ และ (3) นายสุรพล อ้นสุวรรณ กรณีขายหุ้นบริษัท สหกลอิควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (SQ) โดยเป็นบุคคลซึ่งรู้หรือครอบครองข้อมูลภายใน และกรณีช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการขายหุ้น SQ แก่บุคคลซึ่งรู้หรือครอบครองข้อมูลภายใน โดยให้ผู้กระทำความผิดชำระเงินรวม 3,954,801 บาท และกำหนดระยะเวลาห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารกับผู้กระทำความผิดทั้ง 3 ราย
ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลาดหลักทรัพย์ฯ) พบบุคคลที่กระทำการเข้าข่ายเป็นความผิดเกี่ยวกับการขายหุ้น SQ โดยรู้หรือครอบครองข้อมูลภายในเกี่ยวกับผลขาดทุนจากการดำเนินงานของ SQ ในไตรมาส 3 ปี 2562 ซึ่งขาดทุนสุทธิเป็นจำนวน 266.30 ล้านบาท โดยเป็นการขาดทุนมากที่สุดตั้งแต่ SQ ได้นำหลักทรัพย์เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2559 เนื่องจากรายได้จากการให้บริการลดลง และต้นทุนการให้บริการสูงขึ้น
จากการตรวจสอบเพิ่มเติมของ ก.ล.ต. พบว่า ในช่วงระหว่างวันที่ 8 ตุลาคม 2562 ถึงวันที่ 4 พฤศจิกายน 2562 นางเพ็ญประภา ซึ่งเป็นภรรยาของผู้บริหารและกรรมการของ SQ และในขณะนั้นมีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาฝ่ายพัฒนาองค์กรและบุคลากรที่ SQ จึงเข้าข่ายเป็นบุคคลที่รู้หรือครอบครองข้อมูลภายในดังกล่าว ได้ขายหุ้น SQ ของตนรวมจำนวน 3,853,600 หุ้น ในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของนางสาวสาธิดาซึ่งเป็นบุตรสาว
โดยนางสาวสาธิดาได้ให้ความช่วยเหลือหรือให้ความสะดวก โดยยินยอมให้นางเพ็ญประภาใช้บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ขายหุ้น SQ รวมทั้งพบว่า ในช่วงระหว่างวันที่ 7-8 พฤศจิกายน 2562 นายสุรพล ซึ่งเป็นเลขานุการบริษัทและผู้อำนวยการฝ่ายงบประมาณจัดหาเงินทุนของ SQ จึงเข้าข่ายเป็นบุคคลที่รู้หรือครอบครองข้อมูลภายในดังกล่าว ได้ขายหุ้น SQ รวมจำนวน 39,000 หุ้น ในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของตน
ดังนั้น การกระทำดังกล่าวเป็นผลให้นางเพ็ญประภาและนายสุรพลสามารถหลีกเลี่ยงผลขาดทุนจากราคาหุ้น SQ ที่ลดลงภายหลังที่ SQ เปิดเผยข้อมูลภายในเกี่ยวกับผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 3 ปี 2562 ที่มีผลขาดทุนสุทธิต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2562 เวลา 8.10 น.
การกระทำของนางเพ็ญประภาเป็นความผิดตามมาตรา 242(1) ประกอบมาตรา 244(5) ส่วนการกระทำของนางสาวสาธิดาเป็นความผิดตามมาตรา 315 ประกอบมาตรา 242(1) และการกระทำของนายสุรพลเป็นความผิดตามมาตรา 242(1) ประกอบมาตรา 243(2) ซึ่งบุคคลทั้งสามรายมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 296 วรรคหนึ่ง และมาตรา 296/2 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2559
คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับ* กับผู้กระทำความผิดทั้ง 3 ราย ดังกล่าว โดยกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่ง ได้แก่ ค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ ชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์ ดังนี้
(1) ให้นางเพ็ญประภา ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 2,423,419 บาท และกำหนดมาตรการห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร เป็นเวลา 12 เดือน
(2) ให้นางสาวสาธิดา ชำระค่าปรับทางแพ่ง และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 760,714 บาท และกำหนดมาตรการห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร เป็นเวลา 8 เดือน
(3) ให้นายสุรพล ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 770,668 บาท และกำหนดมาตรการห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารเป็นเวลา 12 เดือน
การกำหนดระยะเวลาห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารดังกล่าวข้างต้นจะมีผลนับตั้งแต่วันที่ผู้กระทำความผิดลงนามในบันทึกการยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด หากผู้กระทำความผิดไม่ยินยอม ก.ล.ต. จะมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลแพ่งเพื่อกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่งในอัตราที่อัตราสูงสุดที่กฎหมายบัญญัติโดยไม่ต่ำกว่าอัตราที่ ค.ม.พ. กำหนด
ทั้งนี้ เงินค่าปรับทางแพ่งและเงินชดใช้คืนผลประโยชน์ที่ได้รับจากการกระทำความผิดเป็นรายได้แผ่นดินที่นำส่งกระทรวงการคลั
อ่านประกอบ :
ก.ล.ต.สั่ง ‘SBNEXT-บอร์ดบริษัทฯ’ ชี้แจงปมนำ‘เงินกู้’ซื้อหุ้น-ค้ำประกันบุคคลเกี่ยวโยงกัน
ปรับ 426 ล.! ‘ก.ล.ต.’ลงโทษทางแพ่ง 6 รายปั่นหุ้น PRINC-มีชื่อ‘ศิริวัฒน์ แซนด์วิช’ร่วมก๊วน
ก.ล.ต.สั่ง NEX แจงปม‘คณิสสร์’แจ้งข้อมูลซื้อขายหลักทรัพย์ล่าช้า-จัดสรรหุ้น PP ให้‘ซีอีโอ’
ปรับ 275 ล้าน! ก.ล.ต.ลงโทษทางแพ่ง'บุญชัย จิระพงษ์ตระกูล-พวก'รวม 14 ราย ปั่นหุ้น THE
ก.ล.ต.สั่ง‘ณุศาศิริ’แจงปมขายที่ดินโครงการ‘มายโอโซน’ต่ำกว่าราคาประเมินอย่างมีนัยสำคัญ
ก.ล.ต.ลงโทษทางแพ่งผู้กระทำผิด 6 ราย ปั่นหุ้น BM สั่งปรับ 8 ล.-ห้ามนั่งกก.-ผู้บริหาร บจ.
สั่งปรับรวม 28.2 ล้าน! 'ก.ล.ต.'ลงโทษทางแพ่ง‘ชนน วังตาล-พวก’ 12 ราย สร้างราคาหุ้น SCN
มีพยานหลักฐานสนับสนุน! ก.ล.ต.กล่าวโทษผู้กระทำผิดเพิ่มอีก 8 ราย ร่วมกันปั่นหุ้น MORE
สั่งปรับ 65 ล้าน! ก.ล.ต.ลงโทษทางแพ่ง ‘บล.บียอนด์-พวก’ รวม 15 ราย ร่วมกันปั่นหุ้น STAR
ปรับ 4.6 ล้าน-ห้ามบริหาร บจ.! ก.ล.ต.ลงโทษฯ‘ภาสิตา ลี้สกุล-พวก’ใช้ข้อมูลภายในขายหุ้น TRC
ก.ล.ต.กล่าวโทษ‘เอกลาภ ยิ้มวิไล’อดีตซีอีโอZipmex ต่อ‘บก.ปอศ.’ปมแสดงข้อความเท็จหลอกลวงปชช.
ก.ล.ต.สั่ง Zipmex ระงับให้บริการ‘ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ฯ’-ขีดเส้น 15 วันแก้ไขฐานะการเงิน
ก.ล.ต.กล่าวโทษ‘มรกต ฉายทองคำ’ต่อ'บก.ปอศ.' ปมประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ โดยไม่ได้รับใบอนุญาต
สั่งปรับ 33 ล้าน! ก.ล.ต.ลงโทษทางแพ่งผู้กระทำผิด 9 ราย ปั่นหุ้น NMG-EIC-TH