‘หมอตุลย์’ บุก ป.ป.ช. ขอให้สอบ รมว.ยุติธรรม กรณีเอื้อประโยชน์ให้ ‘ทักษิณ’ ได้รับพักโทษ จี้เร่งตรวจสอบให้เสร็จก่อนวันที่ 27 มี.ค.นี้เพราะครบ 6 เดือนที่ต้องรวบรวมพยานหลักฐาน ด้านป.ป.ช.ชี้กำหนดดังกล่าวขอขยายเวลาได้ เปล่านิ่งเฉย ติดตามตรวจสอบต่อเนื่อง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ อดีตแกนนำเสื้อหลากสี นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) นายอานนท์ กลิ่นแก้ว ประธานศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) กองทัพธรรม พร้อมคณะ เข้ายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ผ่าน นายศรชัย ชูวิเชียร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ขอให้ตรวจสอบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และพวกในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้นายทักษิณ ชินวัตร อีตนายกรัฐมนตรี ได้รับการพักการลงโทษไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ และเร่งรัดให้มีการตั้งคณะกรรมการไต่สวนโดยให้ ป.ป.ช.เชิญแพทย์ผู้เชียวชาญเฉพาะทางที่เกี่ยวข้องกับโรคประจำตัวของนายทักษิณมาสอบสวนเพิ่มเติม
นพ.ตุลย์ กล่าวว่า การพิจารณาพักโทษนายทักษิณ โดยอ้างว่า เพราะมีอายุ 70 ปี ถ้าเป็นกรณีพิเศษคือต้องช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แต่ภาพที่คนทั้งประเทศเห็นนายทักษิณ ยังสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ส่วนกรณีอ้างโรคร้ายแรงก็ต้องเป็นระดับโรคเอดส์ ไตวายเรื้อรังต้องมีการฟอก ไม่ใช่โรคอะไรก็ได้ ที่สำคัญต้องติดเตียง แต่ 2 วันที่ผ่านมาคนทั้งประเทศก็เห็นว่า นายทักษิณ เป็นอย่างไร จึงมองว่าเป็นเรื่องที่คาใจคนทั้งประเทศที่รักความเป็นธรรม
“ที่อยู่โรงพยาบาลมาตั้งแต่ ก.ย. 66 แล้ว มีการปกปิดข้อมูล แต่มาถึงวันนี้ที่เราเห็นภาพของนายทักษิณ มันเหมือนกับเป็นการแฉตัวเองว่าแท้จริงเป็นอย่างไร ฉะนั้น คณะกรรมการของ ป.ป.ช.น่าจะทำงานง่าย ซึ่งเราก็ได้เตรียมเอกสารของกรมราชทัณฑ์ที่เปิดเผยต่อสาธารณะเอามาเทียบเคียงว่าแล้วข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ความจริงก็จะได้ปรากฏต่อคนทั้งประเทศ” นพ.ตุลย์กล่าวอีกตอน
นายพิชิต กล่าวว่า ได้ยื่นเรื่องขอให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบเรื่องนี้ตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย. 66 ซึ่งในวันที่ 27 มี.ค.นี้จะครบกรอบเวลา 180 วันตามที่กฎหมายกำหนดให้ ป.ป.ช.ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงให้เสร็จสิ้นจึงต้องการมาเร่งรัด เพราะจากการให้สัมภาษณ์ของบุคคลต่างๆ และภาพนายทักษิณที่ปรากฎวันนี้ชัดเจนว่าไมได้ป่วยตามที่มีการกล่าวอ้าง
@ป.ป.ช.เปล่านิ่งเฉย ตรวจสอบตลอด
ด้าน นายศรชัย กล่าวว่า ระยะเวลาตามระเบียบกฎหมายกำหนด เป็นกรอบเบื้องต้นที่จะต้องรวบรวมพยานหลักฐานภายใน 180 วัน แต่หากดำเนินการไม่แล้วเสร็จก็สามารถขยายเวลาในแต่ละขั้นตอนได้ หลัง ป.ป.ช.รับเรื่องนี้ในช่วงเดือน ก.ย. 66 เจ้าหน้าที่ไม่ได้นิ่งเฉย อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบ ณ วันนี้มีการขอเอกสาร หลักฐาน จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งราชทัณฑ์ เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ รพ.ตำรวจ รวมถึงเชิญผู้เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคำ มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็ได้ข้อมูลมาแล้วส่วนหนึ่ง แต่การทำงานของ ป.ป.ช.มีขั้นตอนกระบวนการอยู่ เมื่อรับเรื่องแล้วก็ต้องตรวจดูพยานหลักฐาน ไปหาพยานหลักฐานว่าจะตั้งไต่สวนได้เมื่อไร ยืนยันว่า ถ้าข้อเท็จจริงพยานหลักฐานในส่วนที่เกี่ยวข้องพร้อมและมีมูลความผิดก็จะมีการตั้งคณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงต่อไป
ที่มาภาพปก: คปท.