‘คลัง’ คาดเศรษฐกิจไทยปี 66 โต 3.8% พร้อมประเมินนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย 27.5 ล้านคน หลังจีนเปิดประเทศ จับตา 3 ปัจจัยเสี่ยง ‘เศรษฐกิจโลกชะลอ-ความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์-การฟื้นตัวเศรษฐกิจจีน’
.....................................
เมื่อวันที่ 27 ม.ค. นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง แถลงผลการประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2565 และ 2566 ว่า เศรษฐกิจไทยปี 2565 คาดว่าจะขยายตัวที่ 3% (ช่วงคาดการณ์ 2.8-3.3%) โดยคาดว่าปริมาณการส่งออกสินค้าและบริการจะขยายตัวที่ 8.2 (ช่วงคาดการณ์ 8-8.5%) ขณะที่ปริมาณการนำเข้าและบริการคาดว่าจะขยายตัวที่ 7.1% (ช่วงคาดการณ์ 6.9-7.4%)
ทั้งนี้ การผ่อนปรนมาตรการการเดินทางระหว่างประเทศของประเทศต่างๆ ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดภายในประเทศที่ปรับดีขึ้น ส่งผลให้ภาคการท่องเที่ยวทั้งต่างชาติและภายในประเทศสามารถฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้คาดว่าการบริโภคภาคเอกชนจะขยายตัวที่ 6.9% (ช่วงคาดการณ์ 6.7-7.2%) และการลงทุนภาคเอกชนจะขยายตัวที่ 4.2% (ช่วงคาดการณ์ 4-4.5%)
สำหรับในปี 2566 กระทรวงการคลังคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัว 3.8% (ช่วงคาดการณ์ 3.3-4.3%) จากแรงสนับสนุนของการฟื้นตัวจากภาคการท่องเที่ยวและอุปสงค์ภายในประเทศที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคเอเชียที่จะเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่าในปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเดินทางเข้ามาในประเทศไทย 27.5 ล้านคน ขยายตัวที่ 147% ต่อปี ส่งผลให้รายได้จากภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องเพิ่มสูงขึ้น
ขณะที่ปริมาณการส่งออกสินค้าจะชะลอลงตามการชะลอลงของอุปสงค์ประเทศคู่ค้าสำคัญ โดยคาดว่าการส่งออกสินค้าในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐจะขยายตัวที่ 0.4% (ช่วงคาดการณ์ -0.1-0.9%) ส่วนการบริโภคภาคเอกชนคาดว่าจะขยายตัวที่ 3.5% (ช่วงคาดการณ์ 3-4%) ตามรายได้ภาคประชาชนที่เพิ่มขึ้น โดยบทบาทของนโยบายการคลังจะยังมีส่วนช่วยบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์ต่างๆได้อย่างต่อเนื่อง
สำหรับการลงทุนภาคเอกชนคาดว่าจะขยายตัวที่ 3.6% (ช่วงคาดการณ์ 3.1-4.1%) จากความเชื่อมั่นของเศรษฐกิจภายในประเทศที่เริ่มกลับมาดีขึ้น
ด้านเสถียรภาพภายในประเทศ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะอยู่ที่ 2.8% (ช่วงคาดการณ์ 2.3-3.3%) และปรับเข้าสู่กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 1-3% เนื่องจากราคาพลังงานโลกที่ลดลง สำหรับเสถียรภาพภายนอกประเทศ ส่วนดุลบัญชีเดินสะพัดคาดว่าจะกลับมาเกินดุล 3.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 0.5% ของ GDP (ช่วงคาดการณ์ 0-1% ของ GDP)
นายพรชัย ระบุว่า ในส่วนปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยและต้องติดตามอย่างใกล้ชิด มีทั้งปัจจัยสนับสนุน อาทิ ภาคการท่องเที่ยวที่มีโอกาสที่จะฟื้นตัวได้มากกว่าที่คาดการณ์ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน ตามแนวทางการเปิดประเทศและผ่อนคลายมาตรการจำกัดการเดินทางของรัฐบาลจีน
ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม ได้แก่ 1.ทิศทางเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและความผันผวนของตลาดการเงินโลกจากการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดของประเทศคู่ค้าหลัก โดยเฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป 2. ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์โลกในภูมิภาคต่างๆ ซึ่งอาจส่งผลต่อความมั่นคงระหว่างประเทศและปัจจัยการผลิตต่าง ๆ และ 3.การฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศจีนภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
อ่านประกอบ :
มติเอกฉันท์! กนง.ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สกัดเงินเฟ้อ-มองศก.ไทยฟื้นต่อเนื่อง แม้ส่งออกแผ่ว
EIC คาดเศรษฐกิจปี 66 โต 3.4%-นักท่องเที่ยว 28.3 ล. ห่วง‘เลือกตั้ง’กระทบเสถียรภาพการเมือง
ส่องเศรษฐกิจไทยปี 66 ‘ท่องเที่ยว-บริโภค’หนุนจีดีพีโต 3-3.8%-ห่วงโลกเสี่ยงฉุดส่งออก‘ติดลบ’