‘สามารถ’ จับตา ‘ผู้สังเกตการณ์’ ส่งรายงานการเปิดประมูลรถไฟฟ้าสายสีม่วง ‘เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ’ ให้ ACT ทราบ หลังพบยังมีกติกาที่กีดกันการแข่งขัน 'รับเหมาต่างชาติ'
................................
จากกรณีที่เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดซองข้อเสนอซองที่ 3 (ด้านราคา) การประกวดราคาจ้างก่อสร้างงานโยธา โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) โดยการประกวดราคานานาชาติ ผลปรากฏว่า กลุ่ม CKST-PL JOINT VENTURE (ประกอบด้วย บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)) ชนะประมูล 2 สัญญา
บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และพันธมิตร ชนะประมูล 3 สัญญา และบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จํากัด (มหาชน) ชนะประมูล 1 สัญญา นั้น (อ่านประกอบ : ‘อิตาเลียนไทย-พันธมิตร’คว้า 3 สัญญา ประมูลสายสีม่วงใต้-‘ช.การช่าง-ซิโนไทย’ชนะ 2 สัญญา)
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 7 ก.พ. นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ‘ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ - Dr.Samart Ratchapolsitte’
โดยตั้งคำถามว่า ก่อนหน้านี้ คณะผู้สังเกตการณ์จากองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT ไม่เห็นด้วยกับการที่ รฟม. กำหนดให้ผู้เข้าร่วมประมูลงานโยธาโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) โดยการประกวดราคานานาชาติ ต้องแสดงผลงานที่มีรัฐบาลไทยเท่านั้น เนื่องจากจะทำให้เกิดการกีดกันการแข่งขันอย่างเป็นธรรม และเสี่ยงที่จะเกิดการสมยอมราคาได้
แต่ปรากฏว่าในการประมูลครั้งดังกล่าว รฟม. ไม่ยอมผู้เข้าร่วมประมูลใช้ผลงานที่มีในต่างประเทศได้ แต่ให้ใช้ผลงานเฉพาะกับรัฐบาลไทยเท่านั้น จึงต้องติดตามว่า หลังจากนี้คณะผู้สังเกตการณ์จะดำเนินการอย่างไรต่อไป และจะรายงานต่อ ACT เพื่อให้ ACT รายงานต่อฝ่ายเลขานุการคณะอนุกรรมการในคณะกรรมการความร่วมมือป้องกันการทุจริต (ค.ป.ท.) เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไปหรือไม่
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า ในการเปิดประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) ครั้งที่ 1 เมื่อเดือน ต.ค.2564 ที่ผ่านมา คณะผู้สังเกตการณ์ของ ACT ได้จัดทำรายงานการสังเกตการณ์ (ฉบับที่ 3) ลงวันที่ 22 ก.ย.2564 โดยตั้งข้อสังเกตในเรื่องการแข่งขันนานาชาติ ว่า
การที่ รฟม.กำหนดให้ใช้ผลงาน/ประสบการณ์ งานก่อสร้างให้เหลือเฉพาะที่เป็นผลงานกับหน่วยงานของรัฐในประเทศไทยเท่านั้น นับเป็นประเด็นหลักเรื่องแรกที่ทำให้เกิดการกีดกันการแข่งขันและตัดโอกาสที่จะมีผู้ประกอบการที่มีความสามารถ ประสบการณ์จากทั่วโลกจำนวนมากเข้ามาแข่งขันในโครงการ
คณะผู้สังเกตการณ์จึงมีข้อสังเกตว่า การเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการต่างชาตินำผลงาน/ประสบการณ์จากต่างประเทศมาใช้ได้ จึงจะเป็นการแข่งขันประกาดราคานานาซาติที่ถูกต้อง เหมาะสม เปิดกว้างอย่างแท้จริง ทำให้เกิดการแข่งชันอย่างเป็นธรรม กระตุ้นให้ผู้ประกอบการไทยปรับตัวให้มีความเข้มแข็งหากต้องการเป็นผู้ชนะในการเสนอราคา เป็นผลดีแก่การประมูลแข่งขันกันในโครงการของ รฟม. ในทางตรงกันข้าม หากปล่อยให้มีการกีดกันการแข่งขันตามข้อกำหนดข้างต้น จะทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดคอร์รัปชันในเรื่องการสมยอมราคาในการแข่งขันประกวดราคานานาชาติครั้งนี้ได้
(ที่มา : รายงานการสังเกตการณ์ (ฉบับที่ 3) การประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 22 ก.ย.2564)
นอกจากนี้ คณะผู้สังเกตการณ์ยังตั้งข้อสังเกตในหลายประเด็น เช่น การตัดสินผู้ชนะการเสนอราคาโดยใช้ เกณฑ์ทางด้านเทคนิคควบคู่กับเกณฑ์ทางด้านราคา มีจุดบกพร่องอยู่มาก เพราะการประเมินด้านเทคนิคมักเกิดความไม่เป็นธรรมอันเกิดจากการใช้ดุลยพินิจ และพบว่าระบบการให้คะแนนและกลไกกับวิธีการในการลงคะแนนของคณะกรรมการตัดสินยังไม่ชัดเจนเหมาะสม ท้ายที่สุดอาจทำให้มีความเสี่ยงที่จะนำไปสู่ข้อครหาถกเถียงกันได้มาก
ขณะเดียวกัน คณะผู้สังเกตการณ์ไม่สบายใจ ในการที่ รฟม.กำหนดให้นำเกณฑ์ ทางด้านเทคนิค 30% และเกณฑ์ทางด้านราคา 70% มาใช้ เพราะสุ่มเสี่ยงที่จะถูกกล่าวหาว่าทำให้รัฐเสียประโยชน์และหมิ่นเหม่ที่จะถูกครหาว่าการประกวดราคาโครงการนี้มีการเอื้อประโยชน์ให้ผู้ประกอบการ
ต่อมา รฟม. ยกเลิกการประมูลครั้งที่ 1 และเปิดประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) เป็นครั้งที่ 2 และเปิดให้เอกชนยื่นซองประมูลเมื่อเดือน ธ.ค.2564 แต่ปรากฎว่า ทีโออาร์เปิดประมูลครั้งที่ 2 นั้น รฟม.เปลี่ยนหลักเกณฑ์การตัดสินผู้ชนะประมูลจากเดิมที่ใช้เกณฑ์พิจารณาด้านเทคนิคควบคู่กับเกณฑ์ทางด้านราคา เป็นให้เปิดซองเทคนิค (ซองที่ 2) ก่อน หากผ่านเกณฑ์จึงจะเปิดซองราคา (ซองที่ 3) ตามที่คณะผู้สังเกตการณ์มีข้อสังเกตุ อย่างไรก็ตาม รฟม.ไม่ได้มีการปรับปรุงเงื่อนไขที่จะเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการต่างชาตินำผลงาน/ประสบการณ์จากต่างประเทศ มาใช้ในการประมูลครั้งนี้แต่อย่างใด
สำหรับเนื้อหาที่นายสามารถโพสต์ มีดังนี้
“รถไฟฟ้าสายไหนจะได้ลอดเจ้าพระยาก่อน ? สายสีม่วงใต้ VS สายสีส้มตะวันตก
เมื่อเร็วๆ นี้ รฟม. ได้เปิดประมูลหาผู้รับเหมาก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ในขณะที่การประมูลครั้งใหม่ของรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมฯ ยังไม่เกิดขึ้น หลังจากการประมูลครั้งแรกถูกล้มไปเมื่อต้นปี 2564 รถไฟฟ้าทั้ง 2 สายนี้ มีเส้นทางลอดเจ้าพระยา จึงน่าติดตามว่าสายไหนจะได้ลอดเจ้าพระยาก่อน ?
1.รถไฟฟ้าสายไหนลอดเจ้าพระยาเป็นสายแรก ?
รถไฟฟ้าสายแรกที่วิ่งลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยาคือรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงสนามไชย-ท่าพระ รถไฟฟ้าช่วงนี้ได้รับการออกแบบ “เบื้องต้น” ซึ่งเป็นแบบที่ไม่มีรายละเอียดเพียงพอที่จะนำไปใช้ก่อสร้างได้ โดยกลุ่มบริษัท บีเอ็มทีซี (BMTC) มี Dr. H. Wagner วิศวกรชาวออสเตรีย ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบอุโมงค์เป็นแกนนำในการออกแบบ
ส่วนแบบ “รายละเอียด” ซึ่งเป็นแบบที่สามารถนำไปใช้ในการก่อสร้างได้นั้น ได้รับการออกแบบโดยบริษัท AECOM หรือเออีคอม (ประเทศไทย) จำกัด ทั้งนี้ รถไฟฟ้าช่วงนี้ได้เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2562
2.รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้จะได้ลอดเจ้าพระยาเป็นสายที่ 2 ?
ตามแผนของ รฟม. รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ จะได้ลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยาเป็นสายที่ 3 ต่อจากรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก แต่เพราะความล่าช้าในการประมูลสายสีส้มตะวันตก อาจเป็นไปได้ที่สายสีม่วงใต้จะได้ลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยาก่อน
รฟม. ได้เปิดประมูลครั้งใหม่หาผู้รับเหมาก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ไปแล้วเมื่อเร็วๆ นี้ หลังจากล้มการประมูลครั้งแรกเมื่อปลายเดือนสิงหาคม 2564
ในการประมูลครั้งแรก ผมได้ท้วงติงเกณฑ์ประมูลที่ผมไม่เห็นด้วย 2 ประการ ดังนี้
(1) เกณฑ์การตัดสินผู้ชนะการประมูล รฟม. ใช้ “เกณฑ์เทคนิคประกอบเกณฑ์ราคา” โดยให้คะแนนด้านเทคนิค 30% และคะแนนด้านราคา 70% ซึ่งผมไม่เห็นด้วยเพราะล็อกผู้รับเหมาได้ง่ายกว่า ทำให้ประชาชนและประเทศชาติไม่ได้ประโยชน์สูงสุด จึงได้เสนอให้ รฟม. ใช้ "เกณฑ์ราคา" แต่ต้องผ่าน “เกณฑ์เทคนิค” มาก่อน เพราะประชาชนและประเทศชาติจะได้ประโยชน์สูงสุด ซึ่งในที่สุด รฟม. ได้กลับมาใช้ "เกณฑ์ราคา" ในการประมูลครั้งใหม่
(2) รฟม. ประมูลรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ในรูปแบบ “การประกวดราคานานาชาติ” โดยผู้เข้าประมูลจะต้องมีผลงานกับรัฐบาลไทยเท่านั้น นั่นหมายความว่าผู้รับเหมาต่างชาติที่มีขีดความสามารถในการออกแบบและก่อสร้างสูงแต่ไม่มีผลงานกับรัฐบาลไทย จะไม่สามารถเข้าประมูลได้ ซึ่งในความเป็นจริงผู้รับเหมาต่างชาติที่มีประสบการณ์งานออกแบบและก่อสร้างรถไฟฟ้าในต่างประเทศ ย่อมมีความสามารถที่จะออกแบบและก่อสร้างรถไฟฟ้าในประเทศไทยได้เช่นเดียวกัน
แม้ผมเห็นว่างานก่อสร้างที่ผู้รับเหมาไทยสามารถทำได้ ควรใช้ผู้รับเหมาไทย ไม่จำเป็นต้องใช้ผู้รับเหมาต่างชาติ เพื่อสนับสนุนผู้รับเหมาไทย แต่เมื่อ รฟม. จัดประมูลแบบนานาชาติก็ต้องให้ความเป็นธรรมต่อผู้รับเหมาต่างชาติด้วย
ที่สำคัญ พรบ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 มาตรา 8(2) บัญญัติไว้ว่า “ต้องเปิดโอกาสให้มีการแข่งขันอย่างเป็นธรรม มีการปฏิบัติต่อผู้ประกอบการทุกรายโดยเท่าเทียมกัน” และระเบียบการทรวงการคลัง ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ข้อ 45 ระบุชัดไว้ว่า “ต้องไม่มีการกำหนดเงื่อนไขที่เป็นการขัดขวางการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม”
ดังนั้น รฟม. ควรเปิดโอกาสให้ผู้รับเหมาต่างชาติใช้ผลงานในต่างประเทศมาอ้างอิงได้ แต่อย่างไรก็ตามในการประมูลครั้งใหม่ รฟม. ไม่ยอมให้ใช้ผลงานในต่างประเทศ ให้ใช้ผลงานเฉพาะกับรัฐบาลไทยเท่านั้น
อนึ่ง ผมทราบมาว่าคณะผู้สังเกตการณ์จากองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT ตามข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact) ภายใต้โครงการความร่วมมือป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐก็ไม่เห็นด้วยที่ รฟม. กำหนดให้ใช้ผลงานกับรัฐบาลไทยเท่านั้น เนื่องจากจะทำให้เกิดการกีดกันการแข่งขันอย่างเป็นธรรม และเสี่ยงที่จะเกิดการสมยอมราคาได้
แต่หลังจาก รฟม. จัดให้มีการประมูลผ่านไปแล้วโดยไม่ยอมแก้ไขเกณฑ์ผลงาน “คณะผู้สังเกตการณ์จะดำเนินการอย่างไรต่อไป ? จะรายงานต่อ ACT เพื่อให้ ACT รายงานต่อฝ่ายเลขานุการคณะอนุกรรมการในคณะกรรมการความร่วมมือป้องกันการทุจริต (ค.ป.ท.) พิจารณาดำเนินการต่อไปหรือไม่ ? จะต้องติดตาม”
หากคณะผู้สังเกตการณ์ปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไป ก็มีความเป็นไปได้ที่รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้จะได้ลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยาเป็นสายที่ 2
3.รฟม. จะเปิดประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกเมื่อไหร่ ?
รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมฯ มีการเปลี่ยนเกณฑ์ประมูลกลางอากาศ ทำให้บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส เห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนรายใดรายหนึ่งหรือไม่ จึงได้ฟ้องต่อศาลปกครอง
แต่ก่อนที่ศาลปกครองสูงสุดจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด รฟม.ได้ยกเลิกการประมูลในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นผลให้บีทีเอสฟ้องต่อศาลคดีอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลฯ ทำให้เกิดความไม่แน่นอนว่า รฟม. จะสามารถเปิดประมูลครั้งใหม่ได้เมื่อไหร่ ด้วยเหตุนี้ รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกอาจไม่ได้ลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยาเป็นสายที่ 2 ตามที่ รฟม. วางแผนไว้ก็ได้
4.สรุปทั้งหมดนี้ ด้วยความหวังที่อยากให้รถไฟฟ้าทุกสายได้รับการก่อสร้างตามกำหนดเวลาในแผนแม่บท เพื่อประโยชน์ของชาวกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งประเทศชาติโดยส่วนรวมที่จะได้รับประโยชน์จากการประหยัดเวลาการเดินทาง ลดการใช้พลังงานน้ำมันเชื้อเพลิง และลดมลพิษโดยเฉพาะฝุ่น PM 2.5 ที่เป็นอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพของทุกคน
อ่านประกอบ :
‘อิตาเลียนไทย-พันธมิตร’คว้า 3 สัญญา ประมูลสายสีม่วงใต้-‘ช.การช่าง-ซิโนไทย’ชนะ 2 สัญญา
5 บิ๊กรับเหมาฯ ยื่นซองประมูลรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ‘เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ’ 7.8 หมื่นล้าน
‘ศักดิ์สยาม’ ปัดแทรกแซง‘บอร์ดคัดเลือกฯ’ กำหนดเกณฑ์ประมูลรถไฟฟ้า‘สายสีส้ม-สายสีม่วง’
‘รฟม.’เปิดฟังความเห็นร่าง TOR ‘สายสีม่วงใต้’ กลับลำใช้‘เกณฑ์ราคา’คัดเลือกผู้ชนะประมูล
ร้องส่ง ‘ป.ป.ช.’ สอบ! 'รฟม.' ล้มประมูลรถไฟฟ้า ‘สายสีม่วง’ หนีอภิปรายไม่ไว้วางใจ
‘รฟม.’ ประกาศล้มประมูลรถไฟฟ้าสายสีม่วง ‘เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ’ 7.8 หมื่นล.
ยกหลักฐานสู้! ‘สามารถ’ โต้กลับ ‘รฟม.’ กีดกัน ‘รับเหมาต่างชาติ’ แข่งประมูลสายสีม่วงใต้
ส่อ‘ล็อก’ ผู้รับเหมาง่าย! ชำแหละเกณฑ์ประมูล สายสีม่วง ‘เตาปูน–ราษฎร์บูรณะ’
รฟม.เปิดขายซองประมูลรถไฟฟ้าสายสีม่วง 'เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ' 5 ก.ค.-7 ต.ค.นี้
แบ่ง 6 สัญญา! รฟม.เปิดฟังความเห็นร่าง TOR สายสีม่วง ‘เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ’ 7.8 หมื่นล.