"...ทอท.ควรดำเนินการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตามคำแนะนำของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรให้ดำเนินการขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตก และก่อสร้างอาคารโดยสารด้านทิศใต้ เพื่อรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 120 ล้านคนต่อปี เป็นลำดับแรกก่อน แล้วจึงนำโครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ (North Expansion) มาพิจารณาทบทวนอีกครั้งหนึ่ง..."
..................
การผลักดันโครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ (North Expansion) ของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) กำลังเข้าสู่ ‘จุดพลิกผัน’ ครั้งสำคัญ
เมื่อ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริต กรณีการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ (North Expansion) ในโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 ลงวันที่ 15 ม.ค.2564 และส่งไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ขอนำเสนอรายละเอียดหนังสือของ ป.ป.ช. เรื่อง ข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริต กรณีศึกษาโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะที่ 2 กรณีการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ (North Expansion) ลงนามโดย พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. ให้สาธารณชนได้รับทราบที่มาที่ไปของข้อเสนอแนะดังกล่าว ดังนี้
@เหตุผลความจำเป็นที่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ 24 ส.ค.2553 คณะรัฐมนตรี เห็นชอบในหลักการโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ปีงบประมาณ 2554-2559) ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. วงเงินลงทุน 62,503.214 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 โครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออก (East Expansion) โครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานและอาคารจอดรถ โครงการก่อสร้างอุโมงค์ด้านทิศใต้ โครงการจัดหารถไฟฟ้าไร้คนขับและโครงการจัดหาระบบสายพานลำเลียงกระเป๋าสัมภาระ โดย ทอท. ได้ดำเนินการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิตามแผนที่กำหนดไว้ ยกเว้นงานก่อสร้างอาคาร East Expansion ที่ชะลอการดำเนินการ
ต่อมานักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญได้แสดงความเห็นคัดค้านการก่อสร้างอาคาร Multi Terminal ปัจจุบันเรียกว่า ส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ หรือ North Expansion เนื่องจากจะทำให้เกิดปัญหามากกว่าการแก้ไขบัญหา เช่น ปัญหาการจราจรทางอากาศ ปัญหาความไม่สะดวกของผู้ใช้บริการ เป็นต้น
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้มีหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ นร 1115/268 ลงวันที่ 16 ม.ค.2562 ถึงกระทรวงคมนาคม โดยมีข้อสังเกตเกี่ยวกับโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เกี่ยวกับการคาดการณ์ปริมาณผู้โดยสารที่ไม่สอดคล้องกับแผนพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และไม่เชื่อมโยงกับแผนพัฒนาด้านคมนาคมของประเทศ
และได้แนะนำให้ ทอท. ดำเนินการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 120 ล้านคนต่อปี เป็นลำดับแรก ก่อนที่จะนำโครงการก่อสร้างอาคาร North Expansion มาพิจารณาทบทวนอีกครั้ง
คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) จึงเห็นควรให้มีการศึกษาข้อมูล ข้อเท็จจริง เพื่อเสนอให้มีการกำหนดมาตรการหรือข้อเสนอแนะในการป้องกันและแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะที่ 2 กรณีการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ (North Expansion) โดยคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของประเทศเป็นสำคัญ
(ที่มา : บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ขอบคุณเพจ AOT Official)
@ความเร่งด่วนของเรื่อง
เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ (North Expansion) จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องพิจารณาข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริต เพื่อให้มีการปรับปรุงการปฏิบัติราชการ หรือวางแผนงานโครงการของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานของรัฐ เพื่อป้องกันหรือปราบปรามการทุจริต การกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ และเพื่อให้มีการปรับปรุงกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ หรือมาตรการใดที่เป็นช่องทางให้มีการทุจริตหรือประพฤติมิชอบ หรือเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ของรัฐไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ให้เกิดผลดีต่อราชการได้ ต่อไป
@สาระสำคัญ ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย
คณะกรรมการ ป.ป.ช ได้พิจารณาข้อเท็จจริงในการดำเนินโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะที่ 2 กรณีการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ (North Expansion) แล้ว
เห็นควรมีข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริต กรณีศึกษา โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะที่ 2 กรณีการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ (North Expansion) ต่อคณะรัฐมนตรี ตามนัยมาตรา 32 แห่งพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 เพื่อเสนอแนะให้มีการปรับปรุงการปฏิบัติราชการ หรือวางแผนงานโครงการของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานของรัฐ เพื่อป้องกันหรือปราบปรามการทุจริต การกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ และเพื่อให้มีการปรับปรกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ หรือมาตรการใดที่เป็นช่องทางให้มีการทุจริตหรือประพฤติมิชอบ หรือเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ของรัฐมาอาจปฏิบัติหน้าที่ให้เกิดผลดีต่อราชการได้
@ผลกระทบ
การก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ (North Expansion) เพื่อรองรับผู้โดยสารสูงสุด 30 ล้านคนต่อปี ตามที่ ทอท. เสนอนั้น
จะต้องใช้งบประมาณสูงถึง 42,000 ล้านบาท เนื่องจากต้องลงทุนเพิ่มเติม เพื่อเชื่อมต่อระหว่างอาคารส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ กับพื้นที่ของกลุ่มอาคารผู้โดยสารและอาคารเทียบเครื่องบินอื่นๆ เช่น ระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ และระบบลำเสียงกระเป๋าสัมภาระผู้โดยสาร เป็นต้น
ในขณะที่การก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตก (East & West Expansion) ใช้งบประมาณในการก่อสร้างเพียง 12,000 ล้านบาท แต่สามารถรองรับผู้โดยสารได้เช่นเดียวกับอาคาร North Expansion ซึ่งทำให้ประหยัดงบประมาณในการลงทุนถึง 30,000 ล้านบาท
@ข้อเสนอของส่วนราชการ
คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะที่ 2 กรณีการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ (North Expansion) แล้วเห็นควรมีข้อสนอแนะเพื่อปรับปรุงการปฏิบัติรชการ หรือวางแผนงานโครงการของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐ เพื่อป้องกันการทุจริต ตามมาตรา 32 แห่งพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 ดังนี้
1.บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ควรเร่งดำเนินการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออก (East Expansion) ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 ส.ค.2553 ซึ่งอยู่ในแผนงานเดิมโดยเร็ว ให้สอดคล้องกับอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 ที่กำลังจะเปิดให้บริการ ในปี พ.ศ.2565 และควรดำเนินโครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันตก (West Expansion) ในคราวเดียวกัน เพื่อให้สนามบินสุวรรณภูมิสามารถรองรับผู้โดยสารสูงสุด 75 ล้านคนต่อปี เพื่อลดความแออัดของอาคารผู้โดยสารปัจจุบัน
2.บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ควรดำเนินการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตามคำแนะนำของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรให้ดำเนินการขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตก และก่อสร้างอาคารโดยสารด้านทิศใต้ เพื่อรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 120 ล้านคนต่อปี เป็นลำดับแรกก่อน แล้วจึงนำโครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ (North Expansion) มาพิจารณาทบทวนอีกครั้งหนึ่ง
สำนักข่าวอิศราเพิ่มเติมรายงานว่า สำหรับข้อเสนอแนะของป.ป.ช. ที่ขอให้ชะลอการโครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ (North Expansion) ออกไปก่อน และให้ทอท.ดำเนินการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตก และก่อสร้างอาคารโดยสารด้านทิศใต้ เพื่อรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 120 ล้านคนต่อปี เป็นลำดับแรก นั้น
เป็นข้อเสนอแนะที่ ‘ไม่สอดคล้อง’ กับมติของที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาแนวทาง การเพิ่มขีดความสามารถอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ครั้งที่ 1/2564 เมื่อวันที่ 15 ม.ค.2564 ที่มี อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข เป็นประธาน
เนื่องจากที่ประชุมดังกล่าว มีมติ 'เห็นชอบ' ให้ดำเนินการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารด้านทิศตะวันออก (East Expansion) ,ทิศตะวันตก (West Expansion) และทิศเหนือ (North Expansion) ไปพร้อมกัน ซึ่งเมื่อก่อสร้างอาคารทั้ง 3 ส่วน แล้วเสร็จและเปิดบริการในช่วงปี 2568-69 จะทำให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิรองรับผู้โดยสารได้ 120 ล้านคนต่อปี จากปัจจุบันที่รองรับได้ 45 ล้านคนต่อปี ประกอบด้วย
-การก่อสร้าง East Expansion ซึ่งมีขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารภายในประเทศ 15 ล้านคนต่อปี วงเงินงบประมาณ 7,830 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 29 เดือน พื้นที่ 66,000 ตร.ม. และมีสิ่งอำนวยความสะดวก ได้แก่ เคาน์เตอร์เช็คอิน 108 เคาน์เตอร์ สายพานรับกระเป๋า 6 ชุด ช่องตรวจค้น 9 ช่อง
-การก่อสร้าง West Expansion ซึ่งมีขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารระหว่างประเทศ 15 ล้านคนต่อปี วงเงินงบประมาณ 7,830 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 29 เดือน พื้นที่ 66,000 ตร.ม. เคาน์เตอร์เช็คอิน 108 เคาน์เตอร์ สายพานรับกระเป๋า 6 ชุด ช่องตรวจค้น 9 ช่อง ช่องตรวจคนเข้าเมือง ขาออก 34 ช่อง ขาเข้า 56 ช่อง
-การก่อสร้าง North Expansion เพื่อรองรับผู้โดยสารภายในประเทศและระหว่างประเทศ 30 ล้านคนต่อปี วงเงินงบประมาณ 41,260 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 25 เดือน พื้นที่ 348,000 ตร.ม. และมีสิ่งอำนวยความสะดวก อาคารจอดรถ 3,000 คัน หลุมจอดประชิดอาคาร 14 หลุมจอด สายพานรับกระเป๋า 17 ชุด ช่องตรวจค้น 49 ช่อง ช่องตรวจคนเข้าเมือง ขาเข้า 82 ช่อง ขาออก 66 ช่อง รถไฟฟ้าขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (Automated People Mover : APM) ทั้ง Airside และ Landside รวมทั้งมีพื้นที่ถนนรองรับรถหน้าอาคารผู้โดยสาร (Curb Side)
จึงต้องติดตามกันต่อไปว่า ทอท. และ กระทรวงคมนาคม จะเดินหน้าผลักดันการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ (North Expansion) ต่อไปหรือไม่ และอย่างไร
อ่านประกอบ :
ป.ป.ช.เบรกสร้างอาคารผู้โดยสารด้านเหนือสุวรรณภูมิ 4.2 หมื่นล.! ให้’ทอท.’ ยึดมติ ครม.ปี 53
บอร์ดทอท.ไฟเขียว สร้างส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ สนามบินสุวรรณภูมิ
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage