“...ข้อเท็จจริงกรณีนี้ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญคือ นายธนาธร ปล่อยกู้แก่พรรคอนาคตใหม่ 191.2 ล้านบาท ขณะที่พรรคอนาคตใหม่มีการชำระคืนแล้วบางส่วน อย่างน้อย 72 ล้านบาท ดังนั้นจะเหลือยอดหนี้ประมาณ 119.2 ล้านบาท ประเด็นคือ ตามมาตรา 126 ตอนท้ายระบุว่า ส่วนเกินที่กำหนดไว้ตกเป็นของกองทุนพรรคการเมือง คำถามคือ ‘ส่วนเกิน’ ตรงนี้คิดอย่างไร คิดรวมยอดทั้งหมดที่กู้เงิน (191.2 ล้านบาท) หรือคิดเฉพาะในส่วนที่เหลือ ไม่นับยอดที่คืนไปแล้ว (คงเหลือ 119.2 ล้านบาท)…”
รูดม่านปิดฉากแรกไปแล้ว!
ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 7 ต่อ 2 วินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ กรณีกู้เงินนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค วงเงิน 191.2 ล้านบาท โดยชี้ให้เห็นว่า การกู้เงินดังกล่าวในสัญญาที่ 2 คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2 ต่อปี ไม่เป็นไปตามปกติทางการค้า แต่เป็นการเอื้อประโยชน์หรือช่วยเหลือพรรคอนาคตใหม่เป็นพิเศษ ดังนั้นจึงเข้าข่ายเป็นการให้ผลประโยชน์อื่นใด นอกจากนี้การที่นายธนาธรให้เงินกู้ยืม 191.2 ล้านบาท ขณะที่บริจาคเงินด้วยอีก 8.5 ล้านบาท ย่อมชัดแจ้งว่าเป็นกรณีการบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดที่มีมูลค่าเกิน 10 ล้านบาท/พรรค/ปี
นอกจากนี้การที่นายธนาธรให้พรรคกู้เงินยืมเงินจำนวนมาก กรรมการบริหารพรรคควรจะรู้ว่าการเป็นหนี้จำนวนมากต่อบุคคลใด ย่อมก่อให้เกิดการครอบงำ สามารถอาศัยอำนาจมูลหนี้ หรืองดเว้นการอันใดอันหนึ่งตามสัญญาก็ได้ ก่อให้เกิดความได้เปรียบทางการเงินมาเป็นผู้บงการพรรคแต่เพียงผู้เดียว ส่งผลให้พรรคการเมืองเป็นธุรกิจการเมือง การกู้ยืมเงินดังกล่าวจึงหลีกเลี่ยงการรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดตามมาตรา 66 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 จึงต้องห้ามตามมาตรา 66 และเป็นการรับประโยชน์อื่นใดโดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมายตามมาตรา 72 แห่ง พ.ร.บ.พรรคการเมืองฯ เป็นเหตุให้ยุบพรรคตามมาตรา 92 แห่ง พ.ร.บ.พรรคการเมืองฯ (อ่านประกอบ : ฉบับเต็ม! คำวินิจฉัยศาล รธน.ฟัน อนค.ทำพรรคเป็นธุรกิจการเมือง-บงการเพียงผู้เดียว)
แต่ฝ่ายพรรคอนาคตใหม่ ยังเดินหน้าลุยต่อทางการเมืองเปลี่ยนชื่อเป็น ‘คณะอนาคตใหม่’ นัยว่าล้อกับ ‘คณะราษฎร’ ผู้ก่อการอภิวัฒน์สยามเมื่อ พ.ศ. 2475 โดยนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ถอดเข็มกลัดพรรค มอบให้กับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ส่งไม้ต่อผู้นำ ส.ส. ของคณะอนาคตใหม่ต่อไป โดยจำนวน ส.ส. ขณะนี้เหลืออยู่ 65 ราย เพราะกรรมการบริหารพรรคที่เป็น ส.ส. 11 รายถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปี (อ่านประกอบ : 'ธนาธร'ประกาศตั้งคณะอนาคตใหม่ลุยการเมือง- 'ปิยบุตร'เย้ยผกก.เบื้องหลังหยุดปีศาจไม่ได้)
ฉากต่อไปของคณะอนาคตใหม่ในทางการเมือง เอาเหตุการณ์เฉพาะหน้าคือการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ‘นอกสภา’ นำโดยแกนนำคณะอนาคตใหม่ เช่น นายธนาธร นายปิยบุตร แสงกนกกุล น.ส.พรรณิการ์ วานิช เป็นต้น โดยการอภิปรายนี้จะไม่ได้รับเอกสิทธิ์การคุ้มครองแบบ ส.ส. ในสภาแต่อย่างใด
ส่วนระยะยาว รัฐธรรมนูญมาตรา 101 บัญญัติให้ ส.ส. ที่ขาดจากการเป็นสมาชิกพรรคเนื่องจากถูกยุบพรรค ให้หาสังกัดพรรคใหม่ภายใน 60 วัน มิฉะนั้นสถานภาพ ส.ส. จะสิ้นสุดลง ดังนั้นต้องรอดูว่า 65 ส.ส. ‘สีส้ม’ ที่ยังเหลืออยู่ จะไปล่มหัวจมท้ายกับพรรคไหน จะมีใคร ‘แหกคอก’ ไปร่วมกับฝ่ายรัฐบาลเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ?
แต่เส้นทางการเมืองของนายธนาธร และอดีตกรรมการบริหารพรรคที่กำลัง ‘เดินทาง’ อยู่ ‘นอกสภา’ อาจไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบนัก ?
เพราะเหตุใด สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) มีคำตอบ ดังนี้
@คดีอาญาหุ้นสื่อของนายธนาธร
คดีอาญาถือครองหุ้นสื่อบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ที่แม้ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยเมื่อปลายปี 2562 ว่า นายธนาธร ถือครองหุ้นสื่ออยู่ในตอนสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. และมีคำสั่งให้พ้นสภาพ ส.ส. นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ (วันที่ 23 พ.ค. 2562)
แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า กรณีดังกล่าวคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ดำเนินการไต่สวนคดีอาญาด้วย โดยอาศัย พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 151 ระบุว่า ผู้ใดรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ได้สมัครรับเลือกตั้งหรือทำหนังสือยินยอมให้พรรคการเมืองเสนอรายชื่อเพื่อสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี
ในกรณีที่ผู้กระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นผู้ซึ่งได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้นั้นคืนเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่ได้รับมาเนื่องจากการดำรงตำแหน่งดังกล่าวให้แก่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรด้วย
ความคืบหน้ากรณีนี้ กกต. อยู่ระหว่างการพิจารณาคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม หากท้ายที่สุด กกต. ลงความเห็นว่า นายธนาธร มีความผิดตามมาตรา 151 ดังกล่าว จะต้องนำเรื่องส่งฟ้องศาลอาญา เพื่อให้มีคำพิพากษาต่อไป
@คดีอาญากู้เงิน ‘ธนาธร-กก.บห.อนาคตใหม่’ รวม 16 ราย
คดีอาญาบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดเกิน 10 ล้านบาท/พรรค/ปี โดยกรณีนี้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า นายธนาธร และอดีตกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ รวม 16 ราย มีความผิดตาม พ.ร.บ.พรรคการเมืองฯ มาตรา 66 และมาตรา 72
มาตรา 66 ระบุว่า บุคคลใดจะบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดให้แก่พรรคการเมืองมีมูลค่าเกิน 10 ล้านบาท/พรรคการเมือง/ปีมิได้ และในกรณีที่บุคคลนั้นเป็นนิติบุคคล การบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดให้แก่พรรคการเมืองไม่ว่าพรรคเดียวหรือหลายพรรคเกินปีละ 5 ล้านบาท ต้องแจ้งให้ที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นทราบในการประชุมใหญ่คราวต่อไปหลังจากบริจาคแล้ว
พรรคการเมืองจะรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดซึ่งมีมูลค่าเกินวรรคหนึ่งมิได้
โดยบทกำหนดโทษของมาตรานี้อยู่ในมาตรา 124 ระบุว่า ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา 66 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 5 ปี
ในกรณีที่ผู้กระทำผิดตามวรรคหนึ่งเป็นนิติบุคคล ถ้าการกระทำความผิดดังกล่าวเกิดจากการสั่งการหรือการกระทำของบุคคลซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของนิติบุคคล ให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของบุคคล ซึ่งสั่งการหรือรับผิดชอบในการดำเนินงานของนิติบุคคลนั้นด้วย
มาตรา 72 ห้ามมิให้พรรคการเมืองและผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด โดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
สำหรับบทกำหนดโทษของมาตรานี้อยู่ในมาตรา 126 ระบุว่า ผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 72 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้น
ความผิดทางอาญาของมาตรา 66 และมาตรา 72 กกต. มีอำนาจฟ้องในศาลอาญา โดยในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมีการกล่าวถึงเช่นกัน โดยสำนวนนี้เสร็จสิ้นในขั้นตอนคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาหรือข้อโต้แย้ง สำนักงาน กกต. แล้ว จึงอยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้น กกต. ดังนั้นต้องรอดูว่าท้ายที่สุด กกต. จะมีบทสรุปออกมาเป็นเช่นไร
(นายธนาธร และแกนนำคณะอนาคตใหม่ ร่วมงานบริเวณหน้าตึกไทยซัมมิท หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรค)
@โทษสูงสุดอาญา ‘ธนาธร’ อาจสูงถึง 18 ปี-อดีต กก.บห.พรรค 3 ปี
หากนับรวมความผิดทางอาญาทั้ง 2 คดีดังกล่าวแล้ว โทษจำคุกสูงสุดของนายธนาธรอาจสูงถึง 18 ปี เพราะรวมความผิด 3 กรณี ได้แก่ กรณีรู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิแต่ยังสมัครลงเลือกตั้ง (ตามมาตรา 151 พ.ร.บ.เลือกตั้งฯ) กรณีให้ประโยชน์อื่นใดเกิน 10 ล้านบาท/พรรค/ปี (ตามมาตรา 66 ประกอบมาตรา 124 พ.ร.บ.พรรคการเมืองฯ) และกรณีรับประโยชน์อื่นใดโดยรู้หรือควรรู้ว่าได้มาโดยมิชอบ (ตามมาตรา 72 ประกอบมาตรา 126 พ.ร.บ.พรรคการเมืองฯ)
ส่วนอดีตกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่อีก 15 รายที่เหลือ อาจมีโทษจำคุกสูงสุด 3 ปี เพราะมีความผิดกรณีเดียวคือ กรณีรับประโยชน์อื่นใดโดยรู้หรือควรรู้ว่าได้มาโดยมิชอบ (ตามมาตรา 72 ประกอบมาตรา 126 พ.ร.บ.พรรคการเมืองฯ)
@เงินกู้ส่วนเกินที่บังคับคืนกองทุน กกต. ต้องจ่ายเท่าไหร่?
ท้ายที่สุดยังมีประเด็นที่น่าสนใจตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ นั่นคือ ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า นายธนาธร และอดีตกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่รวม 16 ราย กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.พรรคการเมืองฯ มาตรา 66 นอกจากฐานความผิดทางอาญาในมาตรา 126 แล้ว
ยังมีฐานความผิดในมาตรา 125 คือ พรรคการเมืองใดรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดมีมูลค่าเกินที่กำหนดไว้ในมาตรา 66 วรรคสอง ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของหัวหน้าพรรคการเมือง และกรรมการบริหารพรรคการเมืองมีกำหนด 5 ปี และให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด ส่วนที่เกินมูลค่าที่กำหนดไว้ตามมาตรา 66 ตกเป็นของกองทุน (กองทุนพรรคการเมืองของ กกต.)
ข้อเท็จจริงกรณีนี้ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญคือ นายธนาธร ปล่อยกู้แก่พรรคอนาคตใหม่ 191.2 ล้านบาท ขณะที่พรรคอนาคตใหม่มีการชำระคืนแล้วบางส่วน อย่างน้อย 72 ล้านบาท ดังนั้นจะเหลือยอดหนี้ประมาณ 119.2 ล้านบาท
ประเด็นคือ ตามมาตรา 125 ตอนท้ายระบุว่า ส่วนเกินที่กำหนดไว้ตกเป็นของกองทุนพรรคการเมือง คำถามคือ ‘ส่วนเกิน’ ตรงนี้คิดอย่างไร คิดรวมยอดทั้งหมดที่กู้เงิน (191.2 ล้านบาท) หรือคิดเฉพาะในส่วนที่เหลือ ไม่นับยอดที่คืนไปแล้ว (คงเหลือ 119.2 ล้านบาท)
กรณีเช่นนี้คงต้องรอดูท่าทีจากฝ่าย (อดีต) พรรคอนาคตใหม่ และฝ่าย กกต. ว่า จะดำเนินการอย่างไร แต่คาดว่าคงไม่มีใครยอมใครเป็นแน่ อาจถึงขั้นฟ้องร้องขึ้นโรงขึ้นศาลกันอีกคดีก็เป็นไปได้ ?
หมายเหตุ : ภาพประกอบจากทีมโฆษกคณะอนาคตใหม่
อ่านประกอบ :
@คดีกู้เงินพรรคอนาคตใหม่
ฉบับเต็ม! คำวินิจฉัยศาล รธน.ฟัน อนค.ทำพรรคเป็นธุรกิจการเมือง-บงการเพียงผู้เดียว
เปิดมติศาล รธน. 7:2 ยุบ อนค.คดีกู้เงิน‘ชัช-ทวีเกียรติ’เสียงข้างน้อย
ยุบพรรคอนาคตใหม่! คำวินิจฉัย ศาล รธน.คดีเงินกู้-เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง กก.บห.10 ปี
‘ธนาธร-แกนนำ อนค.’ไม่ไปฟังคำวินิจฉัยคดีกู้เงิน-ปัดกดดันศาล รธน.แต่ต้องพิสูจน์ว่าอิสระ
กาง 4 แนวทางคำวินิจฉัยศาล รธน. คดีเงินกู้ อนค.-ชี้ชะตา'ส.ส.สีส้ม'ถ้าโดนยุบเอาไงต่อ?
ไทม์ไลน์ 10 เดือนคดีเงินกู้ อนค.จากคำพูด‘ธนาธร’ถึงศาล รธน.-21 ก.พ. รอดหรือยุบ?
ศาล รธน.ไร้อำนาจยุบพรรค!‘ปิยบุตร’ แจงคดีกู้เงิน-รับความสามารถระดมทุนไม่เท่ากัน
รอศาล รธน.วินิจฉัยก่อน!ปธ.กกต. ชี้เงินกู้ อนค.-พรรคอื่นต่างกัน-คดีอาญา‘ธนาธร’งวดแล้ว
กกต.โดนอีก! ‘ธนาธร’จ่อฟ้องรายคนปมชงศาล รธน.ยุบ อนค.-ท้าสอบเงินกู้ได้มามิชอบอย่างไร
อนค.โต้ศาล รธน.! ไม่เปิดไต่สวนเป็นธรรมหรือไม่-หลังตีตกคำร้องแต่ขยายเวลายื่นคำให้การ
‘ปิยบุตร’ค้านคำสั่งศาล รธน.ขอให้เปิดไต่สวนพยาน-อ้างสื่อตีข่าวตุลาการฯเก่าตัดสินทิ้งทวน
มั่นใจไม่ถูกยุบ! ‘ปิยบุตร’แถลงแจงปมร้อนศาล รธน.นัดวินิจฉัยคดีกู้เงิน 21 ก.พ.
ศาล รธน.นัดชี้ชะตา! วินิจฉัยคดียุบ อนค. กู้เงิน 21 ก.พ.-ปมเสียบบัตร 7 ก.พ.
ขอศาล รธน.เปิดไต่สวนพยาน!โฆษก อนค. เผยส่งเอกสารเพิ่มคดีกู้เงินครบ-มั่นใจทำถูกต้อง
‘จารุวรรณ’ร้องสอดศาล รธน.ขอขยาย 30 วันแจง อนค.คดีกู้เงิน-ชี้ กกต.ยังไม่เปิดสำนวน
ทำตามขั้นตอน! กกต.แจงปมเอกสารลับยกคำร้องคดี อนค.กู้เงิน-สั่งสอบคนปล่อยหลุด
ศาล รธน.นัดวินิจฉัยคดี อนค.ล้มล้างการปกครอง 21 ม.ค. 63-สั่งแจงปมกู้เงินใน 15 วัน
อนค.เผยศาล รธน.ไม่รับคำร้องไต่สวนพยานคดีล้มล้างการปกครอง-รอนัดฟังคำวินิจฉัย
ปัดใช้เวลา 89 วันชงยุบพรรค! กกต.แจงรับคำร้องสอบ อนค.กู้เงิน'ธนาธร'ตั้งแต่ พ.ค.62
กกต.ยื่นศาล รธน.วินิจฉัยยุบ อนค.แล้ว-ลุ้น 18 ธ.ค.เข้าที่ประชุมตุลาการฯหรือไม่
เผยเหตุผล กกต.ชงศาล รธน.ยุบ อนค. ชี้ข้อเท็จจริงยุติแล้วเหลือแค่ตีความ กม.
กาง กม.ค้นเบื้องหลัง! กกต.ฟัน อนค. คดีกู้เงิน-จับตา 3 เส้นทาง(หาก)พรรคถูกยุบ?
คำต่อคำ 'ปิยบุตร' : กกต.ลงมติส่ง ศาลรธน.ยุบอนาคตใหม่ ..วันนี้เป็นวันอัปยศอีกครั้งหนึ่ง
กฎหมายไม่เปิดช่องให้ทำ! มติ กกต.ชงศาล รธน.ยุบอนาคตใหม่ปมกู้เงิน'ธนาธร'
ปัดมีใบสั่งการเมือง! กกต.โต้‘พรรณิการ์’ คดี อนค.กู้เงิน ยันเลขาฯมีสิทธิเสนอความเห็น
‘ปิยบุตร’โต้ กกต.คดี อนค.กู้เงิน ยันส่งหลักฐานสำคัญไปหมดแล้ว-ขู่ฟ้องใช้อำนาจมิชอบ
กกต.ตัดหลักฐานที่เหลือคดี อนค.กู้เงิน ‘ธนาธร’ 191 ล.เหตุส่งช้า-ชงที่ประชุม 11 ธ.ค.
กกต.ขยายให้แค่ 6 วัน! ขีดเส้น 2 ธ.ค. อนค.ต้องส่งเอกสารเพิ่มปมกู้เงิน‘ธนาธร’
กกต.เรียกหลักฐานเพิ่มจาก อนค.ปมกู้เงิน'ธนาธร' 191 ล.-ก่อนนี้อนุฯขอแล้วไม่ส่งให้
กาง กม.พรรคการเมือง ชำแหละปม ‘ธนาธร’ปล่อยกู้อนาคตใหม่ได้ไหม-ใช้คืนอย่างไร?
ปมใหม่‘ธนาธร’ปล่อยกู้ อนค.191 ล.รับคืนแล้วบางส่วน ไฉน! ไม่แจ้งรายได้กับ ป.ป.ช.?
โชว์ละเอียดสัญญาปล่อยกู้‘ธนาธร-อนค.’ 2 ครั้ง 191 ล.-คิดดอกเบี้ยไม่เท่ากัน?
‘ธนาธร’ตั้งข้อสังเกต 5 ปมถูกศาล รธน. ฟันพ้น ส.ส.ยันหลักฐานโอนหุ้นเป็นไปตาม กม.
4 ข้อสังเกต‘อิศรา’คดีหุ้น‘วี-ลัค มีเดีย’ สอดคล้อง คำวินิจฉัยศาล รธน.-หลักฐานเชิงประจักษ์
@32 พรรคอื่นปมกู้เงิน
ขมวดข้อเท็จจริง 8 พรรคแจ้งกู้เงินจาก หัวหน้า-กก.-คนนอก มิใช่เงินทดรองจ่าย?
เจออีก! 9 พรรคเล็กแจ้งมีเงินกู้-ทดรองจ่าย กกต.ลุยสอบ-ยอดพุ่ง 32 พรรค
อย่างน้อย 23 พรรคแจ้งกู้เงิน! ชัด ๆ รายละเอียดสัญญา-วัดบรรทัดฐาน กกต.?
อนค.เอฟเฟกต์! กกต.แจงสอบอยู่ปมพรรคการเมืองอื่นกู้เงิน-พบฝ่าฝืน กม. ดำเนินการแน่
ซ้ำรอยอนาคตใหม่! ‘ศรีสุวรรณ’ลุยร้อง กกต.สอบ 16 พรรคการเมืองปมกู้เงิน
คุ้ยเจออีก 7 พรรคเล็ก! แจ้งหนี้สินมีเงินกู้ยืม-ทดรองจ่าย? ยอดรวม 15 พรรค
ไม่ตรงตามธงเลยหาช่อง! ‘ปิยบุตร’แจงปม อนค.กู้เงิน-จี้ กกต.ต้องมีบรรทัดฐานให้ชัด
ไม่ใช่แค่ อนค.! เปิดอีก 7 พรรคกู้ยืมเงิน กก.บริหารฯหลักสิบล.-ใช้เป็นเงินทดรองจ่าย?
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/