'ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ' ประกาศตั้งคณะอนาคตใหม่ หลังถูกศาลรธน.ยุบพรรค -ตัดสิทธิ์การเมือง 10 ปี ส่งไม้ต่อ 'พิธา ลิ้มเจริญรัตน์' ส่วน 'ปิยบุตร' เย้ยผู้กำกับภาพยนต์เบื้องหลัง หยุดปีศาจไม่ได้ ยันร่วมมือรณรงค์เคลื่อนไหวโลดแล่นการเมืองทั่วปท. ด้าน 'พิธา' ไม่ตอบเรื่องตั้งพรรคใหม่ ดูภารกิจอภิปรายไม่ไว้วางใจก่อน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเวลา 17.44 น. วันที่ 21 ก.พ.2563 ที่ทำการพรรคอนาคตใหม่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ ได้เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ภายหลัง ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นผู้ร้อง ขอให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ กรณีกู้เงินนายธนาธรวงเงิน 191.2 ล้านบาท โดยมีคำสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ พร้อมเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งแก่กรรมการบริหารพรรคที่ดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 2 ม.ค. 2562 หรือ 11 เม.ย. 2562 ซึ่งเป็นวันที่กระทำการอันเป็นเหตุให้ยุบพรรค เป็นเวลา 10 ปี และห้ามมิให้กรรมการบริหารพรรคดังกล่าว จดทะเบียนจัดตั้งพรรคใหม่ หรือกรรมการบริหารพรรค หรือมีส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาใหม่ภายใน 10 ปี (อ่านประกอบ: ยุบพรรคอนาคตใหม่! คำวินิจฉัย ศาล รธน.คดีเงินกู้-เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง กก.บห.10 ปี, เปิดมติศาล รธน. 7:2 ยุบ อนค.คดีกู้เงิน‘ชัช-ทวีเกียรติ’เสียงข้างน้อย)
โดยนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แถลงว่า ผลจากคำตัดสินยุบพรรคอนาคตใหม่ ของศาลรัฐธรรมนูญ ทำให้ตนและกรรมการบริหารพรรค ต้องถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ในวันนี้จึงจะขอประกาศจัดตั้งคณะอนาคตใหม่แทน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการรวมรวมคนที่ยังต้องการทำงานทางการเมืองต่อ และโดยส่วนตัวจะตั้งมูลนิธิเพื่อพัฒนาด้านการศึกษา สิ่งแวดล้อมด้วย
"คณะอนาคตใหม่จะเป็นที่รวมตัวกันของกลุ่มคนที่ต้องการจะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการรวมรวมคนที่ยังต้องการทำงานทางการเมืองต่อ และทำให้ประชาชนเห็นและมีความเชื่อมั่นว่าทางแก้ไขปัญหาของประเทศนั้นก็คือการแก้รัฐธรรมนูญ สร้างรัฐสวัสดิการ ปฏิรูปกองทัพ ถ้าเราทำให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นแบบนี้ได้ การเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคการเมืองที่มีอุดมการณ์แบบนี้ก็จะประสบกับชัยชนะเอง"
นายธนาธร ยังกล่าวด้วยว่า พรรคอนาคตใหม่ นั้นต้องการที่จะยุติการสืบทอดอำนาจคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตลอดการทำเดินทางของพรรคอนาคตใหม่ 1 ปี 4 เดือน 18 วันนั้นเป็นเดินทางที่สวยงาม ต้องขอขอบคุณผู้สนับสนุนทุกโดยตลอดมา และขอโทษประชาชนที่พรรคอนาคตใหม่ไม่สามารถทำตามสัญญาที่หาเสียงไว้กับประชาชน
“แต่ผมเรียนประชาชนว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมา พรรคนั้นทำอย่างเต็มที่แล้วเพื่อให้ได้ในสิ่งเหล่านั้นมา และเราไม่ได้นั่งอยู่เฉยๆรอวันที่สังคมจะลุกเป็นไฟ แต่เราพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลง”นายธนาธรกล่าว
ขณะที่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ระบุว่า ขอใช้สิทธิ์ความเป็นประชาชนคนหนึ่งแสดงความไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ใน 6 ประเด็น คือ 1.ในวันนี้ศาลรัฐธรรมนูญได้ตัดสินให้พรรคการเมืองจากการรวมกลุ่มเพื่อดำเนินกิจกรรมทางการเมืองจากนิติบุคคลเอกชนกลายเป็นนิติบุคคลมหาชนไปแล้ว 2. เงินกู้อาจเป็นเงินบริจาคหากศาลรัฐธรรมนูญตั้งใจวินิจฉัยให้เป็นเช่นนั้น ดังนั้นต้องขอให้พรรคการเมืองที่กู้เงินเกิน 10 ล้านบาทพึงระวังไว้ด้วยว่าจะถูกยุบพรรค 3.การใช้มาตรา 66 เพื่อลงโทษพรรคอนาคตใหม่ในความผิดด้านการเงินนั้นเป็นการขยายความตามมาตรา 72 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ในอนาคตอาจจะส่งผลทำให้พรรคการเมืองนั้นยุบได้ เช่นกรณีที่พรรคการเมืองได้รับเงินบริจาคเกินมา 1 บาท ก็อาจจะถูกยุบพรรคได้ทันที 4.หากกฎหมายไทยต้องการไม่ให้พรรคการเมืองกู้เงินนั้นควรจะมีการตราข้อกำหนดเอาไว้ชัดเจน แล้วพรรคการเมืองจะได้ใช้เสรีภาพในการดำเนินกิจกรรมได้อย่างถูกต้อง ไม่ใช่ปล่อยล่วงให้ศาลรัฐธรรมนูญมาตัดสินถึงขั้นยุบพรรคและเพิกถอนสิทธิกรรมการบริหารพรรค
"5. คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญวันนี้ได้พูดถึงการที่ไม่ต้องการให้นายทุนครอบงำพรรค แต่สิ่งที่เกิดต่อเนื่องก็คือศาลได้ติดสินอย่างยอกย้อน เพราะพรรคอนาคตใหม่นั้นพยายามจะชี้แจงตลอดว่ารายได้มาจากอะไรและใช้ข่ายไปเรื่องใดบ้าง แต่เรากลับถูกยุบพรรค ซึ่งส่วนตัวต้องขอถามไปว่าพรรคการเมืองที่ทำกิจกรรม ตั้งพรรคแล้วลงเลือกตั้งได้ครบทุกจังหวัด ถามว่าเขาเอาเงินมาจากไหน การตัดสินคดีในวันนี้เป็นข้อบ่งชี้ว่าพรรคการเมืองไม่ควรโปร่งใส แต่ควรปกปิดให้มิดชิด แล้วจะไม่ถูกยุบพรรค และ 6.ก่อนหน้านี้เราใช้รัฐธรรมนูญ 2540 และ 2550 เพิกถอนสิทธิกัน 5 ปี แต่ตอนนี้ศาลรัฐธรรมนูญได้อ้างรัฐธรรมนูญ 2560 อ่านคำพิพากษาซึ่งผูกพันทุกองค์กร เพิกถอนสิทธิรับเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคถึง 10 ปี ซึ่งตรงนี้ก็เปรียบเสมือนกับเป็นการประหารชีวิตทางการเมือง" นายปิยบุตร กล่าว
นายปิยุตร ยังกล่าวด้วยว่า หลังจากนี้จะร่วมมือกับนายธนาธร รณรงค์เคลื่อนไหวโลดแล่นการเมืองทั่วประเทศเพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลง อย่างไม่เหน็ดเหนื่อยและไม่หยุดยั้ง
“นี่ไม่ใช่การตัดไฟแต่ต้นลม แต่คือไฟลามทุ่ง หากผู้มีอำนาจคิดว่าประชาชนไม่รู้สึกอะไร ผ่านไปเดี๋ยวก็ลืม ขอยืนยันว่าพวกเขาคิดผิด เพราะนี่คือจุดเริ่มต้นของประชาชนเพื่อได้มาเพื่อประชาธิปไตย ประชาชนจะให้ความสนับสนุนแนวคิดของพรรคอนาคตใหม่ยิ่งกว่าเดิม นี่ไม่ใช่จุดจบแต่คือจุดเริ่มต้น เพราะว่าพวกเราเป็นปีศาจที่โลดแล่นจากโลกเก่าที่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อคอยหลอกหลอนผู้มีอำนาจ และจะไม่มีอะไรหยุดยั้งได้ ผมขอเรียนเชิญพี่น้องประชาชนรวมตัวมายังพรรคอนาคตใหม่เพื่อส่งสัญญาณไปยังผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ” นายปิยบุตรกล่าว
(นายธนาธร ส่งเข็มกลัดพรรคอนาคตใหม่ต่อให้กับนายพิธา, ภาพจาก www.thaipost.net)
@'ธนาธร'ส่งไม้ต่อ! มอบเข็มกลัดพรรคให้ 'พิธา'
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ จะขึ้นพูดต่อ ได้ถอดเข็มกลัดรูปพรรคอนาคตใหม่ส่งต่อให้นายพิธา ลิ้มเจริญรักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นเชิงสัญลักษณ์ว่าให้นายพิธาเป็นผู้นำคนต่อไปของ คณะอนาคตใหม่
โดยนายพิธา กล่าวว่า ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรค ซึ่งเป็นพรรคแรกของตนและอีกหลายๆคน 1 ปีกว่าที่ผ่านมา ทั้งสมหวัง ผิดหวัง ดีใจ เหน็ดเหนื่อย อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และจะไม่มีวันลืม ขอบคุณนายธนาธร ในภาวะผู้นำ ทำให้กระดิ่งในใจของพวกตนดังขึ้น ขอบคุณนายปิยะบุตร ในการบริหารจัดการในการทำงานอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย และคอยปักธงความคิด ขอบคุณกรรมการบริหารให้การตัดสินใจต่างๆ จุดประกายความหวังให้ทุกสาขา กรรมการบริหารเปรียบเสมือนดาวฤกษ์ในสังคมไทยที่มืดมน พวกเราจะคิดถึงพวกเขา แต่เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะอ่อนแอ ซึมเศร้าหรือร้องไห้ แม้พวกเราจะไม่ใช่ดาวฤกษ์ แม้แต่หิ่งห้อยที่รวมกันยังสว่างได้ ถ้าพวกเราถือเทียนคนละเล่มก็คงจะสว่างเช่นกัน
นายพิธา กล่าวอีกว่า ในภาวะผู้นำแม้เราไม่ใช่ดาวฤกษ์แต่พวกเราจะเป็นดาวกระจายในช่วงเวลาสังคมต้องการ พวกเราคือกลุ่มคนที่เป็นครอบครัวเดียวกัน แม้ไม่ใช่สายเลือกเดียวกัน แต่พวกเรามีอุดมการณ์ร่วมกัน ความฝันยิ่งใหญ่แค่ไหนก็คงไม่สำเร็จหากไม่มุ่งมั่น ในวันนี้เราจะไม่ละทิ้งเสารหลักของบ้าน เราจะถอดบทเรียนก้าวในพาหนะใหม่ที่พวกเราจะไปด้วยกัน
“ผมคงสัญญากับพี่น้องประชาชนไม่ได้ว่าพวเราจะไม่ล้มเหลว แต่สัญญาได้ว่า เส้นทางที่จะก้าวไปไม่เป็นเส้นตรง และไม่โด้โรยด้วยกลีบกุหลาบ มีบางครั้งที่ไม่รู้จะไปยังไงต่อ แต่เราไม่มีวันล้มเลิก แม้จะล้มก็ล้มไปข้างหน้า ขับเคลื่อนสังคมให้ก้าวไปข้างหน้า พวกเราต้องก้าวต่อไป ถ้าลูกหลานของท่านยังต้องทำการบ้านในถิ่นทุรกันดาน ไม่มีแสงไฟ นั่นจะเป็นหน้าที่ของเรา หากพ่อแม่ของคุณยังต้องเข้าคิวรักษาตัวที่โรงพยาบาล นั่นจะเป็นหน้าที่ของเรา และหากพี่น้องประชาชนยังโดนกดทับด้วยความยากจน นั่นเป็นหน้าที่ของพวกเรา เราจะต้องก้าวต่อไป ประเทศไทยจะเดินวนเหมือนนาฬิกาไม่ได้ แตค่ต้องก้าวต่อไปให้เหมือนปฏิทิน จะกลัวหรือกล้าอยู่ที่ใจ”
เมื่อถามว่าจะย้ายไปสังกัดพรรคการเมืองใด นายพิธา กล่าวว่า ขอเวลาอีก 1 สัปดาห์ โดยจะให้ความสำคัญกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นอันดับแรก.
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า สำหรับบรรยากาศที่พรรคอนาคตใหม่ ในช่วงเวลา หลังจากศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยคดียุบพรรคอนาคตใหม่ ประชาชนจำนวนมากที่ไปปักหลักรอฟังคำตัดสินคดีได้แสดงความผิดหวังและเสียใจ แต่ก็มีประชาชนบางส่วนแสดงความไม่พอใจต่อคำตัดสิน และประกาศให้มีการนำมวลชนต่อสู้บนท้องถนนต่อไป พร้อมชู 3 นิ้วเป็นเชิงสัญญาลักษณ์ แต่พิธีกรบนเวทีพรรคอนาคตใหม่ ได้ประกาศแสดงจุดยืนของพรรคอนาคตใหม่ ว่า "พร้อมน้อมรับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ แต่ขอให้รู้ว่าพรรคอนาคตใหม่นั้นคือการเดินทางและผู้คน การเดินทางยังไม่จบสิ้น ในขณะนี้ แม้มีคนบอกให้เรารอให้ถึงพ้นระยะเวลาการตัดสิทธิ์ 10 ปี ตามคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ แต่ขอเรียนว่าการพัฒนาประเทศนั้นรอไม่ได้ถึง 10 ปี ทั้งนี้ ต้องขอประชาชนที่มารับฟังคำตัดสินว่าอย่าวิจารณ์ศาลรัฐธรรมนูญและงดเว้นการแสดงความเห็นโดยไม่สุภาพ"
ขณะที่ แฟนเพจพรรค พรรคอนาคตใหม่ - Future Forward Party ได้เปลี่ยนรูปภาพ เพจใหม่ โดยมีการขีดฆ่าคำว่า พรรค ออก เหลือแค่คำว่า อนาคตใหม่ ด้วย
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/