
“…ถ้าเราไม่เริ่มสานต่อตั้งแต่วันนี้ ก็คงชะลอไป เรื่อย ๆ โอกาสก็คงไม่เกิด ในฐานะที่ตัวผมเอง (พิพัฒน์ รัชกิจประการ) เป็นคนใต้ คนจังหวัดสงขลา แต่ที่สำคัญตัวผมเองมีบริษัทเดินเรือระหว่างประเทศ ไม่ได้วิ่งในเมืองไทย เพราะฉะนั้นผมมีความรู้ในระดับหนึ่ง ว่า คำว่าแลนด์บริดจ์คุ้มกับการลงทุนหรือไม่…”
โครงการแลนด์บริดจ์ เมกะโปรเจกต์ที่คาดการณ์ว่า มีมูลค่าการลงทุนไม่ต่ำกว่า 1 ล้านล้านบาท จาก นโยบายเรือธง ตั้งแต่สมัยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จนมาถึงรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล ที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สังกัดพรรคภูมิใจไทย ปลุกปั้น-ใช้หาเสียง หมายมั่นว่าจะปักหมุดให้ได้ภายใน 4 เดือน
อ่านประกอบ : อนาคต ‘แลนด์บริดจ์’ กับชะตากรรม ‘รัฐบาลแพทองธาร’ ไปต่อ หรือ ร่วง?
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี-หัวหน้ารัฐบาล แห่งพรรคภูมิใจไทย ตอบคำถามผู้สื่อข่าวระหว่างพบปะ-หารือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์โครงการแลนด์บริดจ์ในเรื่องการศึกษาผลกระทบของสิ่งแวดล้อม (EIA) และความคุ้มค่า ว่า “พร้อมรับฟังทุกฝ่าย”
อย่างไรก็ตาม นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกฯ-รมว.คมนาคม แถลงระหว่างเปิดพรรคภูมิใจไทย ต้อนรับ นายชุมพล จุลใส หรือ ลูกหมี อดีต สส.ชุมพร พรรคประชาธิปัตย์-นายวิชัย สุดสวาทดิ์ สส.ชุมพร พรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมด้วยนายกอบจ.-ทีมอบจ.ชุมพร ในนาม พลังชุมพร มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ด้วยน้ำเสียงหนักแน่น โดยอ้างคำพูดของนายอนุทินว่า จะเดินหน้าโครงการแลนด์บริดจ์ต่อไป พร้อมทั้งหยิบยกเหตุผลมาสนับสนุนหลายประการ อาทิ สร้างอาชีพและกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะจังหวัดชุมพร และระนอง
“กรณีแลนด์บริดจ์จะเกิดหรือไม่ ท่านอนุทิน นายกรัฐมนตรีได้ให้สัมภาษณ์แล้วว่าเราจะเดินโครงการนี้ต่อไป”
“ถ้ามีการเชื่อมทั้งสองฝั่งได้ จะเป็นการสร้างอาชีพให้กับพี่น้องคนไทยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดชุมพร ระนอง เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ถ้าเรา (ภูมิใจไทยกับกลุ่มพลังชุมพร) จะมีการสานต่อความสำเร็จ เพื่อพัฒนาจังหวัดของเราเองต้องมาช่วยกันคิดและจะทำอย่างไรให้โครงการนี้ราบรื่นไปได้ ซึ่งเป็นที่มาของจุดหนึ่งที่เรามาอยู่ด้วยกัน”
นายพิพัฒน์ท้าวความว่า โครงการแลนด์บริดจ์เริ่มมาในสมัยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีตเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย เป็นรมว.คมนาคม จะมีโครงการสร้างระบบราง ถนนและระบบท่อ สองฝั่งทะเล หรือ สองฝั่งมหาสมุทร ระหว่างมหาสมุทรอินเดียฟากทะเลอันดามัน กับ มหาสมุทรแปซิฟิกฟากทะเลอ่าวไทย
“ถ้าเราไม่เริ่มสานต่อตั้งแต่วันนี้ ก็คงชะลอไปเรื่อย ๆ โอกาสก็คงไม่เกิด ในฐานะที่ตัวผมเอง (พิพัฒน์ รัชกิจประการ) เป็นคนใต้ คนจังหวัดสงขลา แต่ที่สำคัญตัวผมเองมีบริษัทเดินเรือระหว่างประเทศ ไม่ได้วิ่งในเมืองไทย เพราะฉะนั้น ผมมีความรู้ในระดับหนึ่ง ว่า คำว่า แลนด์บริดจ์คุ้มกับการลงทุนหรือไม่”
อ่านข่าวประกอบ :
- ‘อนุทิน’ เผย ทูลเกล้าฯ ‘ครม.ใหม่’ สัปดาห์นี้ - ‘เอกนิติ’ ถก ส.อ.ท. แก้ค่าเงินบาทแข็ง
- 'ชุมพล-วิชัย-นพพร' นำ 'กลุ่มชุมพร' ย้ายพรรคสมัครสมาชิก 'ภูมิใจไทย'

@ เปิดรายละเอียด บริษัทเดินเรือ-อาม่า มารีน จำกัด
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) สืบค้นข้อมูลจากฐานข้อมูลบนเว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) บริษัทเดินเรือ ของนายพิพัฒน์ พบว่ามีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
นายพิพัฒน์ แจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อครั้งพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในรัฐบาลน.ส.แพทองธาร ชินวัตร เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2568 นายพิพัฒน์ และนางนาที รัชกิจประการ คู่สมรส แจ้งมีทรัพย์สินทั้งสิ้น 1,475,132,390 บาท แจ้งมีหนี้สินทั้งสิ้น 742,996 บาท
อ่านข่าวประกอบ : เปิดละเอียดทรัพย์สิน 'พิพัฒน์ รัชกิจประการ' พ้นรมว.แรงงาน 1,475 ล. แจ้งมีรายได้ 94 ล./ปี
โฟกัสไปที่ ‘บริษัทเดินเรือ’ ของนายพิพัฒน์ที่ชื่อ ‘บริษัท อาม่ามารีน จำกัด’ ซึ่งนายพิพัฒน์แจ้งไว้ในบัญชีทรัพย์สินฯ ในส่วนของรายการเงินลงทุน มีจำนวน 30,280,000 หุ้น คิดเป็นมูลค่า 121,725,600 บาท โดยระบุไว้ในหมายเหตุว่า ได้มีการโอนหุ้นบางส่วนไปให้กับบริษัทจัดการแล้วตามสัญญาจัดการหุ้นส่วนหรือหุ้นของรัฐมนตรี
ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ณ วันที่ 19 ก.ย.68 ระบุว่า บริษัท อาม่า มารีน จำกัด จดทะเบียนจัดตั้ง วันที่ 10 พ.ค.2539 ทุนจดทะเบียน 161,800,000 บาท
ประเภทธุรกิจตอนจดทะเบียน การขนส่งสินค้าทางทะเลและตามแนวชายฝั่งทะเล วัตถุประสงค์ ขนส่ง ขนถ่าย น้ำมันเชื้อเพลิง และก๊าซ ประเภทธุรกิจที่ส่งงบการเงินปีล่าสุด การขนส่งสินค้าทางทะเลและตามแนวชายฝั่งทะเล วัตถุประสงค์ เรือบรรทุกน้ำมัน
กรรมการลงชื่อผูกพัน นายชูศักดิ์ ภูชัชวนิชกุล หรือ นายพิศาล รัชกิจประการ (ลูกพี่ลูกน้องกับนางสาวภัคจิรา) หรือ นางสาวภัคจิรา รัชกิจประการ (น้องสาวนายพิพัฒน์) หรือ นายธาตรี เกิดบุญส่ง กรรมการสองในสี่คนนี้ลงลายมือชื่อร่วมกันและประทับตราสำคัญของบริษัท
โดยมีรายชื่อกรรมการบริษัท อาม่า มารีน จำกัด ดังนี้
1.นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ
2.นายพิศาล รัชกิจประการ
3.นายชูศักดิ์ ภูชัชวนิชกุล
4.นางสาวภัคจิรา รัชกิจประการ
5.นายฉัตรชัย ศรีทิพยราษฎร์
6.นางทิพวรรณ โพธยาภรณ์
7.นายกุศล เวชศิลป์
8.นายธาตรี เกิดบุญส่ง
9.นายชัยทัศน์ วันชัย
10.นายรังสรรค์ พวงปราง
@ งบดุลย้อนหลัง กำไรติดต่อกัน 5 ปี
งบกำไรขาดทุน ข้อมูลปีงบการเงิน 2554 - 2558
2554
-
รายได้ 260,277,090 บาท
-
กำไร 4,335,344 บาท
2555
-
รายได้ 306,260,468 บาท
-
กำไร 54,618,684 บาท
2556
-
รายได้ 427,356,071 บาท
-
กำไร 16,899,274 บาท
2557
-
รายได้ 506,604,016 บาท
-
กำไร 86,581,094 บาท
2558
-
รายได้ 506,195,644 บาท
-
กำไร 92,783,791 บาท

@ แปรสภาพเป็น บริษัทมหาชน
ปัจจุบัน บริษัท อาม่า มารีน จำกัด ระบุสถานะนิติบุคคลของว่า ‘แปรสภาพ’ เป็น บริษัทมหาชนจำกัด ชื่อ ‘บริษัท อาม่า มารีน จำกัด (มหาชน)’ หรือ ‘AMA’ จดทะเบียนจัดตั้ง วันที่ 18 พ.ค.2559 (จดทะเบียนกับตลท. วันที่ 22 ธ.ค.59) ทุนจดทะเบียน (ชำระแล้ว) 258,958,386 บาท
ประเภทธุรกิจตอนจดทะเบียน ประเภทธุรกิจ การขนส่งและขนถ่ายสินค้า รวมถึงคนโดยสาร วัตถุประสงค์ ประกอบกิจการขนส่ง ขนถ่ายสินค้าโดยเรือทะเล ทั้งภายในและต่างประเทศ ประเภทธุรกิจที่ส่งงบการเงินปีล่าสุด ประเภทธุรกิจ การขนส่งสินค้าทางทะเลและตามแนวชายฝั่งทะเล วัตถุประสงค์ เรือขนส่งน้ำมันทางทะเล
กรรมการลงชื่อผูกพัน นายชูศักดิ์ ภูชัชวนิชกุล หรือ นายพิศาล รัชกิจประการ หรือ นางสาวภัคจิรา รัชกิจประการ หรือ นายรังสรรค์ พวงปราง กรรมการสองในสี่คนนี้ลงลายมือชื่อร่วมกันและประทับตราสำคัญของบริษัท
รายชื่อกรรมการ
1.นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ประธานกรรมการ,กรรมการอิสระ (อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม ยุคนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เป็นรมว.คมนาคม)
2.นายชูศักดิ์ ภูชัชวนิชกุล
3.นายพิศาล รัชกิจประการ กรรมการผู้จัดการ,กรรมการ
4.นางสาวภัคจิรา รัชกิจประการ
5.นายรังสรรค์ พวงปราง
6.นายชัยวัฒน์ เลิศวนารินทร์
7.นายมานิต นิธิประทีป กรรมการอิสระ,ประธานกรรมการตรวจสอบ
8.นายอัฌษไธค์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต กรรมการอิสระ,กรรมการตรวจสอบ
9.นายศักดิ์ชัย รัชกิจประการ
10.นางภิตติมาศ สงวนสุข กรรมการอิสระ,กรรมการตรวจสอบ
@ เปิดรายชื่อผู้ถือหุ้น 10 รายแรก
ข้อมูลจาก ตลท. ระบุมีรายชื่อผู้ถือหุ้น 10 รายแรก รวมถึงผู้ถือหุ้นตั้งแต่ร้อยละ 0.5 ของทุนชำระแล้ว ประกอบด้วย
1.บริษัท รัชกิจ โฮลดิ้ง จำกัด 130,100,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 25.12
2.บริษัท พีทีจี โลจิสติกส์ จำกัด 124,320,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 24.00
3.นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ 20,280,000 หุ้น คิดเป็น 3.92
4.บลจ.เกียรตินาคินภัทร (รับโอนจากรมต.พิพัฒน์ รัชกิจประการ เพื่อการจัดการหุ้นของรมต.ฯ) 15,000,000 หุ้น คิดไปร้อยละ 2.90
5.นายพิศาล รัชกิจประการ 13,725,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 2.65
6.นางกชกรณ์ พิบูลธรรมศักดิ์ 9,969,760 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 1.92 (น้องสาวนายพิพัฒน์)
7.น.ส.จันทวรัจฉร์ จันทรศารทูล 7,440,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 1.44
8.นายสุนทร รัชกิจประการ 7,000,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 1.35
9.น.ส.ปุญญา ภูชัชวนิชกุล 6,403,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 1.24
10.นายเตชัส ภูชัชวนิชกุล 6,301,680 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 1.22
11.นายสุทธิวุฒิ รัชกิจประการ 4,972,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 0.96
12.น.ส.จันทรา พงศ์ศรี 4,882,720 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 0.94
13.บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 4,280,193 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 0.83
14.นาย ธนัท รัชกิจประการ 4,254,720 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 0.82
15.น.ส. ภัคจิรา รัชกิจประการ 3,664,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 0.71 (น้องสาวพิพัฒน์)
16.นายพิทูร กมลสุโกศล โดย บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) 3,259,800 0.63
17.นายเขมภพ คชเสนี 3,039,140 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 0.59
18.นาง ฉัตรแก้ว คชเสนี 2,744,900 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 0.53 (น้องสาวนายพิพัฒน์)
@ AMA เข้าตลาดหลักทรัพย์ รายได้พุ่งหลักพันล้าน
งบกำไร-ขาดทุน บริษัท อาม่า มารีน จำกัด (มหาชน) ข้อมูลปีงบการเงิน 2563 – 2567
2563
-
รายได้ 1,189,881,647 บาท
-
กำไร 93,925,206 บาท
2564
-
รายได้ 1,169,006,006 บาท
-
กำไร 33,638,764 บาท
2565
-
รายได้ 1,933,386,761 บาท
-
กำไร 370,380,421 บาท
2566
-
รายได้ 1,697,126,598 บาท
-
กำไร 220,542,087 บาท
2567
-
รายได้ 1,657,858,917 บาท
-
กำไร 209,244,355 บาท
@ เจาะผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 อันดับแรก ‘ตระกูลรัชกิจประการ’
เจาะไปที่รายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 อันดับแรก ของ บริษัท อาม่า มารีน จำกัด (มหาชน) พบว่า เป็นนิติบุคคลที่มีนายพิพัฒน์ถือหุ้นและคนในตระกูลรัชกิจประการ เป็นกรรมการ อาทิ บุตรชาย-น้องชายและน้องสาวนายพิพัฒน์
ผู้ถือหุ้นอันดับที่ 1 บริษัท รัชกิจ โฮลดิ้ง จำกัด ถือหุ้น 130,100,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 25.12 ซึ่งเป็นบริษัทที่นายพิพัฒน์แจ้งต่อ ป.ป.ช.ในการยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ ครั้งล่าสุดว่า ถือหุ้นอยู่ 6,542,610 หุ้น มูลค่า 632,016,126 บาท (โอนหุ้นบางส่วนไปให้กับบริษัทจัดการแล้วตามสัญญาจัดการหุ้นส่วนของรัฐมนตรี) โดยมีคนในตระกูลรัชกิจประการเป็นกรรม อาทิ นายปกเขตร รัชกิจประการ บุตรชาย และนางสาวภัคจิรา รัชกิจประการ น้องสาวนายพิพัฒน์
ผู้ถือหุ้นอันดับที่ 2 บริษัท พีทีจี โลจิสติกส์ จำกัด 124,320,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 24.00 จดทะเบียนจัดตั้งวันที่ 20 ส.ค.58 ทุนจดทะเบียน 400 ล้านบาท มีนายพิทักษ์ รัชกิจประการ น้องชายเป็นกรรมการ
ประเภทธุรกิจตอนจดทะเบียน การขนส่งและขนถ่ายสินค้า รวมถึงคนโดยสาร วัตถุประสงค์ การขนส่งและขนถ่ายสินค้า รวมถึงคนโดยสาร ประเภทธุรกิจที่ส่งงบการเงินปีล่าสุด การขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมทางถนน วัตถุประสงค์ การขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมทางถนน ส่งงบการเงินปี 67 มีรายได้ 2,140,710,544 บาท กำไร 209,640,776 บาท
ผู้ถือหุ้นอับดับที่ 3 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ 20,280,000 หุ้น คิดเป็น 3.92
ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นอันดับ 4 ตามข้อมูลตลาดหลักทรัพย์ ระบุไว้ว่า คือ บลจ.เกียรตินาคินภัทร ซึ่งรับโอนจากรมต.พิพัฒน์ รัชกิจประการ เพื่อการจัดการหุ้นของรมต.ฯ เมื่อครั้งเข้ารับตำแหน่งรมว.แรงงาน ในรัฐบาลเศรษฐาและแพทองธาร1 จำนวน 15,000,000 หุ้น คิดไปร้อยละ 2.90

ทั้งหมด คือ โครงสร้างผู้ถือหุ้นของบริษัท อาม่า มารีน จำกัด และ บริษัท อาม่า มารีน จำกัด (มหาชน) ภายหลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ - บริษัทเดินเรือ ‘กึ่งบริษัทกงสี’ ของนายพิพัฒน์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคม ผู้ประกาศจะใช้ประสบการณ์การทำธุรกิจเดินเรือ เดินหน้าโครงการแลนด์บริดจ์เต็มสูบให้แจ้งเกิดจนได้

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา