‘อนุทิน’ เผย ทูลเกล้าฯ ‘ครม.ใหม่’ สัปดาห์นี้ - ‘เอกนิติ’ ถก ส.อ.ท. แก้ค่าเงินบาทแข็ง

อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ระบุ รายชื่อรัฐมนตรี 100 % เหลือตรวจสอบประวัติ คาด ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้ เผย ผลหารือสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย-รับฟังปัญหา มอบหมาย เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่รองนายกฯ-รมว.คลัง ถก ส.อ.ท. แก้ค่าเงินบาทแข็ง ลั่น พร้อมรับฟังทุกฝ่าย เดินหน้าโครงการแลนด์บริดจ์ต่อหรือไม่

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 15 กันยายน 2568 ที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการตรวจสอบประวัติผู้ที่จะเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ว่า ใกล้เสร็จแล้ว เรียกว่ารายชื่อ 100 % เหลือแต่การตรวจประวัติ ซึ่งเป็นขั้นตอนปฏิบัติก่อนที่จะนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทูลเกล้าฯรายชื่อรัฐมนตรีภายในสัปดาห์นี้ใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า “โอ้ ต้องสัปดาห์นี้แหละครับ”

นายอนุทินกล่าว่า การเร่งนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทราบบังคมทูลฯ หลังจากนั้นต้องสุดแล้วแต่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ และรอถวายสัตย์ปฏิญาณตนฯ หลังจากนั้นถึงจะปฏิบัติหน้าที่ได้ระดับหนึ่ง เพราะต้องแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาก่อน

เมื่อถามว่า ตอนนี้รายชื่อคณะรัฐมนตรีครบแล้วนิ่งแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ครับ

@ ถก ส.อ.ท.- ยังไม่เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา

นายอนุทินยังให้สัมภาษณ์ถึงผลการหารือกับ ส.อ.ท. ว่า คุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว มาแนะนำตัวเองและรับฟังทั้งสิ่งที่เป็นความต้องการของภาคอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการ รวมถึงข้อกังวลที่ต้องการให้รัฐบาลได้เร่งแก้ไขปัญหา อาทิ ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเรื่องเปิดด่านชายแดนคงจะยังไม่มีการดำเนินการอย่างแน่นอน 

เมื่อถามว่า เรื่องค่าเงินบาทแข็งค่าจนส่งผลกระทบต่อการส่งออกและการท่องเที่ยวมีมาตรการและแนวทางในการแก้ไขปัญหาอย่างไร นายอนุทินกล่าวว่า ต้องเร่งแก้ไข โดยในวันนี้ (15 ก.ย.68) ช่วงบ่ายนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้ที่เข้ามารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง จะหารือกับส.อ.ท.ในรายละเอียด รวมถึงการตรวจสอบและหาข้อเท็จจริงกรณีมีการส่งออกทองคำไปยังประเทศเพื่อนบ้าน หากมีสิ่งปกติก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป 

นายอนุทินกล่าวถึงมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้เข้าไปบริหารประเทศ แต่เป็นสิ่งที่ได้เตรียมพร้อมเมื่อเข้าไปบริหารราชการแผ่นดินได้จะดำเนินการทันที 

เมื่อถามว่า มาตรการรัฐร่วมจ่าย หรือ โครงการคนละครึ่ง และ รัฐจ่าย 60 % ประชา่ชนที่เสียภาษีจ่าย 40 % สามารถเปิดกระเป๋ารอได้เลยหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า “รอได้ครับ” 

นายอนุทินตอบคำถามกรณีมีข้อกังวลเรื่องโครงการแลนด์บริดจ์ซึ่งมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความพร้อมและขอให้ชะลอโครงการ ว่า พร้อมรับฟังทุกฝ่าย เพราะดูมิติของการลงทุนคุ้มค่าหรือไม่อย่างเดียวไม่พอ ต้องมองไปถึงอนาคตด้วย และดูหลายมิติรวมกัน

“เราอยู่ในภูมิรัฐศาสตร์ที่ได้เปรียบอยู่แล้ว ต้องใช้ความได้เปรียบเหล่านี้ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในประเทศของเรา เราอยู่ตรงกลาง เป็นไข่แดงของอาเซียน เรายังมีโอกาสมากมายที่จะใช้ข้อได้เปรียบเหล่านี้ในการขยายตัวทางเศรษฐกิจได้อย่างมากมาย”นายอนุทินกล่าว