เปิดเอกสารที่มากรณี สนง.อัยการพิเศษฯ ส่งหนังสืออธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจฯ ขอให้ระงับขีดชื่อออกจากทะเบียนนิติบุคคลราย บ.จูบีลี่ไลน์-เบนซ์นครินทร์ คดีนำเข้ารถหรู เหตุบังคับคดีตามคำพิพากษาศาลอาญาสั่งปรับเงินรวม 130.4 ล.
ความคืบหน้าคดีสำแดงนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศที่สำแดงต่ำกว่าความเป็นจริงหรือสำแดงเท็จ (คดีรถหรู) ในส่วนของการไต่สวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการป.ป.ช.) นั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดในคดีกล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐให้การช่วยเหลืออกชน จำนวน 2 สำนวน ผู้ถูกกล่าวหาเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ จำนวน 9 ราย และ กลุ่มเอกชนทั้งบุคคลและนิติบุคคล รวม 11 ราย
ในรายของนิติบุคคลมีจำนวน 4 ราย ประกอบด้วย
กลุ่มนำเข้ารถยนต์ยี่ห้อมาเซราติ (MASERATI) ได้แก่ บริษัท เฟอร์ม่า มอเตอร์ จำกัด นำเข้ารถยนต์ยี่ห้อ MASERATI จำนวน 8 คัน
กลุ่มนำเข้ารถยนต์ยี่ห้อลัมโบร์กินี (LAMBORGHINI) ได้แก่ บริษัท จูบิลี่ไลน์ จำกัด ,บริษัท เบนซ์นครินทร์ ออโต้ กรุ๊ป จำกัด และ บริษัท นิช คาร์ จำกัด (ร่วมกับกรรมการ) นำเข้ารถยนต์ LAMBORGHINI จำนวน 35 คัน ,34 คัน และ 1 คัน ตามลำดับ ทำให้กรมศุลกากร กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต ได้รับความเสียหายไม่ได้รับค่าภาษีอากรนำเข้าที่ถูกต้องครบถ้วนเป็นจำนวนไม่น้อยกว่า 560ล้านบาท
- ป.ป.ช.ชี้มูลนักวิชาการกรมศุลฯ-พวก ช่วยเอกชนนำเข้ารถหรู 62 คัน รัฐเสียหาย 897 ล.
- รัฐเสียหาย 600 กว่าล.! ป.ป.ช.ชี้มูลคดีนำเข้ารถหรูสำนวน 2 'ลูกชาย' เสรี ชินบารมี โดนด้วย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำข้อมูลมารายงานแล้วว่า สถานะล่าสุดของนิติบุคคล 4 ราย ที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูล 5 หน่วยงานได้แก่ กรมศุลกากร กรมสรรพากร ,กรมสรรพสามิต , สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายการบังคับคดี 1 สำนักงานการบังคับคดี, และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ขอให้ระงับการขีดชื่อนิติบุคคล ,ระงับการจดทะเบียนเลิก เสร็จการชำระบัญชี และจัดส่งเอกสารของนิติบุคคล และอื่นๆ รวมอย่างน้อย 218 ครั้ง
จากการตรวจสอบล่าสุดพบว่าในจำนวนนี้ 2 ราย ได้แก่ บริษัท จูบิลี่ไลน์ จำกัด และบริษัท เบนซ์นครินทร์ ออโต้ กรุ๊ป จำกัด ที่ถูกสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายการบังคับคดี 1 ขอให้อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระงับการขีดชื่อออกจากทะเบียนไว้ก่อนและจัดส่งเอกสาร นั้นเป็น มีที่มาจากกรณีถูกศาลอาญาพิพากษาลงโทษปรับเป็นเงิน รวม 2 บริษัท 130,425,450 บาท ดังนี้
1. ราย บริษัท จูบิลี่ไลน์ จำกัด
สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายการบังคับคดี 1 สำนักงานการบังคับคดี สำนักงานอัยการสูงสุด ทำหนังสือลงวันที่ 2 พฤษภาคม 2566 ถึงอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ขอให้ระงับการขีดชื่อและจัดส่งเอกสารของนิติบุคคลผู้ต้องลงโทษปรับ ตามหมายบังคับคดีของศาลอาญา ในคดีหมายเลขดำที่ อ 942/2564 คดีหมายเลขแดงที่ อ 3212 /2565 ระหว่าง พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 4 สำนักงานอัยการสูงสุด โจทก์ บริษัท จูบิลี่ไลน์ จำกัด ที่ 1 กับพวก รวม 4 คน ลงโทษปรับจำเลยที่ 1 เป็นเงินจำนวน 65,448,427.80 บาท
สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายการบังคับคดี 1 สำนักงานการบังคับคดี ขอให้ระงับการขีดชื่อ บริษัท จูบิลี่ไลน์ จำกัด จำเลยที่ 1 ออกจากทะเบียนไว้ก่อนจนกว่า บริษัท จูบิลี่ไลน์ จำกัด จะได้ชำระค่าปรับตามคำพิพากษาครบถ้วน หรือพ้นระยะเวลาการบังคับคดี (วันที่ 15 ธันวาคม 2570) (ดูเอกสาร)
2. ราย บริษัท เบนซ์นครินทร์ ออโต้ กรุ๊ป จำกัด
สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายการบังคับคดี 1 สำนักงานการบังคับคดี สำนักงานอัยการสูงสุด ทำหนังสือลงวันที่ 27 มิถุนายน 2566 ถึงอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ขอให้ระงับการขีดชื่อและจัดส่งเอกสารของนิติบุคคลผู้ต้องลงโทษปรับ ตามหมายบังคับคดีของศาลอาญา ในคดีหมายเลขดำที่ อ 91 /2564 คดีหมายเลขแดงที่ อ 934 /2566 ระหว่าง พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 4 สำนักงานอัยการสูงสุด โจทก์ บริษัท จูบิลี่ไลน์ จำกัด โดย น.ส.เสาวลักษณ์ จันทมี กรรมการผู้มีอำนาจ ที่ 1 กับพวก รวม 3 คน เพื่อดำเนินการบังคับโทษปรับจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 (บริษัท เบนซ์นครรินทร์ จำกัด) รวมเป็นเงินจำนวน 64,977,022.52 บาท
สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายการบังคับคดี 1 จึงขอให้ระงับการขีดชื่อ บริษัท เบนซ์นครินทร์ จำกัด จำเลยที่ 2 ออกจากทะเบียนไว้ก่อนจนกว่า บริษัท เบนซ์นครินทร์ จำกัด จะได้ชำระค่าปรับตามคำพิพากษาครบถ้วน หรือพ้นระยะเวลาการบังคับคดี ( วันที่ 27 เมษายน 2571) (ดูเอกสาร)
สำหรับนิติบุคคลอีก 2 ราย คือ บริษัท เฟอร์ม่า มอเตอร์ จำกัด และ บริษัท นิช คาร์ จำกัด จากการตรวจสอบข้อมูลกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ไม่พบการร้องขอจากสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายการบังคับคดี 1ให้อายัดการจดทะเบียนขีดชื่อออกจากทะเบียนแต่อย่างใด