"...สำหรับการตรวจสอบคดีของ นายสิทธิชัย ทั้ง 2 คดี เป็นการดำเนินการของ ป.ป.ช.ส่วนกลาง แม้ในปัจจุบัน นายสิทธิชัย จะเกษียณราชการไปแล้ว แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคในการตรวจสอบคดีปัจจุบันของ ป.ป.ช. และที่ผ่านมา ป.ป.ช.ได้มีการแจ้งเรื่องการลงโทษทางวินัยไปให้หน่วยงานต้นสังกัดดำเนินการแล้ว..."
นายสิทธิชัย พรหมชาติ อดีตเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต ส่วนแยกถลาง จังหวัดภูเก็ต
ล่าสุด ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการเกี่ยวกับการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินเพิ่มขึ้นอีก 1 คดี
ทำให้จนถึงปัจจุบัน นายสิทธิชัย มีคดีความที่ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดแล้วรวมจำนวน 2 คดี และกำลังถูกเสนอเรื่องตรวจสอบเบื้องต้น ในคดีการเอกสาร น.ส.3 ก บริเวณแหลมยามู ตำบลป่าคลอก อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ตด้วย
ภาพจาก https://mgronline.com/south/detail/9570000082433
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำรายละเอียดทั้งหมด มานำเสนอ ณ ที่นี้
คดีแรก
กรณีออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3 ก.) เลขที่ 3977 ตำบลป่าคลอก อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต โดยมิชอบ นายสิทธิชัย พรหมชาติ ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติความผิดพร้อมพวกหลายคน (แต่ไม่มีการเปิดเผยรายชื่อ) เมื่อวันที่ 16 ม.ค.2566
หลังพิจารณาสำนวนไต่สวนคดีวินิจฉัยว่าการกระทำของ นายสิทธิชัย พรหมชาติ มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาล ฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ทำเอกสาร รับเอกสารหรือกรอกข้อความลงในเอกสาร กระทำการรับรองเป็นหลักฐานว่า ตนได้กระทำการอย่างใดขึ้น หรือว่าการอย่างใดได้กระทำต่อหน้าตนอันเป็นความเท็จ และกระทำรับรองเป็นหลักฐานซึ่งข้อเท็จจริงอันเอกสารนั้น มุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นความเท็จ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 มาตรา 157 และมาตรา 162 (1)(4) และความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบัน พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 มาตรา 172) และมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 82 (2) ประกอบมาตรา 85 (7) และมาตรา 85 (1)(4)
เบื้องต้น ป.ป.ช.มีมติให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีและเพื่อขอให้ศาลเพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 3977 ตำบลป่าคลอก อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต แจ้งกรมที่ดิน ดำเนินการเพิกถอนดังกล่าว ตามประมวลกกฎหมายที่ดินมาตรา 61
ขณะที่ผลสืบเนื่องในคดีนี้ คณะกรรมการธุรกรรมในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) ยังมีคำสั่งเมื่อวันที่ 27 มี.ค.2562 อายัดทรัพย์ ประกอบด้วย บัญชีเงินฝาก 10 รายการ รวมมูลค่าทั้งสิ้น 4,131,102.18 บาท อยู่ในชื่อของ นายสิทธิชัย พรหมชาติ 2 บัญชี ด้วย
คดีสอง
กรณีร่วมกันออกโฉนดที่ดินเลขที่ 34149, 35264, 34112, 34111, 37440 และ 37441 ตำบลป่าคลอก อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ตั้งอยู่ในพื้นที่เกาะแรด จังหวัดภูเก็ต สภาพที่ดินเป็นป่าเต็มทั้งแปลง ไม่มีการครอบครองและทำประโยชน์ ในที่ดิน แต่อย่างใด อันเป็นการออกโฉนดที่ดินโดยมิชอบด้วยกฎหมายและระเบียบของทางราชการ เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ นายสิทธิชัย พรหมชาติ ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติความผิดพร้อมพวก
ในรายงานผลการไต่สวนคดีของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ระบุว่า ในการเดินสำรวจรังวัดเพื่อออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3 ก.) (เลขที่ 2444-2453, 1042, 1045, 1046, 1032, 920, 921, 922, 923, 1033 และ 1034) เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2521 กรณีไม่มีหลักฐานการแจ้งการครอบครอง มีเพียง น.ส. 3 ก.เลขที่ 920,921, 922, 923, 1033 และ 1034 (ออกเป็นโฉนดที่ดินเลขที่ 37441) เท่านั้นที่ปรากฏร่องรอยการทำประโยชน์เกือบเต็มพื้นที่
ส่วนที่ดินตามโฉนดที่ดินอีก 5 แปลง คือ
(1) น.ส. 3 ก. 2444 – 2453 ซึ่งแบ่งแยกออกจาก น.ส. 3 ก. เลขที่ 1042 (โฉนดที่ดินเลขที่ 34111)
(2) น.ส. 3 ก. เลขที่ 1042 (โฉนดที่ดินเลขที่ 34112)
(3) น.ส. 3 ก.เลขที่ 1045 (โฉนดที่ดินเลขที่ 34149)
(4) น.ส. 3 ก.เลขที่ 1046 (โฉนดที่ดินเลขที่ 35264)
(5) น.ส. 3 ก. เลขที่ 1032 (โฉนดที่ดินเลขที่ 37440)
ในช่วงปี พ.ศ. 2510, 2519 ซึ่งเป็นเวลาก่อนการเดินสำรวจในปี พ.ศ. 2521 ไม่มีการทำประโยชน์ในพื้นที่ เนื่องจากเป็นป่าดิบชื้น ป่าดิบชื้นทุติยภูมิ ทุ่งหญ้าธรรมชาติ/ไม้พุ่ม และพื้นที่แผ้วถาง
จึงเป็น น.ส. 3 ก. ที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และไม่ได้มีการครอบครองและทำประโยชน์มาก่อนประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 58 ทวิ มาตรา 27 ตรี และกฎกระทรวงฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2497)ฯ ข้อ 3 ข้อ 4 และกฎกระทรวงฉบับที่ 5 (พ.ศ. 2497)ฯ ข้อ 8 และจะต้องเพิกถอนให้สิ้นสิทธิต่อไป
ส่วนโฉนดที่ดินเลขที่ 34111, 34112, 34149, 35264, 37440
ผลการรังวัดและสอบสวนสิทธิ และการตรวจสอบเรื่องราวข้างต้นที่ระบุว่ามีการทำประโยชน์เป็นที่สวนทั้งแปลง ขัดแย้งกับผลการอ่านแปลฯ ก่อนและหลังการรังวัดสอบสวนสิทธิ ในปี พ.ศ. 2549 ที่ระบุว่าไม่มีการทำประโยชน์ ถึงร้อยละ 83.37 และปี พ.ศ. 2552 ไม่มีการทำประโยชน์ร้อยละ 83.22 ไม่ตรวจสอบการทำประโยชน์ได้จากภาพถ่ายออโธสีที่ใช้สร้างระวางแผนที่ (สำหรับออกโฉนดที่ดิน)
รวมทั้งเรื่องราวหลักฐานเดิมในชั้นออก น.ส. 3 ก. และรูปถ่ายทางอากาศที่ใช้จัดสร้างระวางรูปถ่ายทางอากาศ (สำหรับออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์) ของแปลงที่ขอออกโฉนดที่ดินรวมทั้งแปลงข้างเคียงทั้งสี่ด้านประกอบการตรวจสอบถึงข้างเคียงที่เปลี่ยนแปลงไปและสามารถพบเห็นลวดลายในพื้นที่ที่ขอออก น.ส. 3 ก. และโฉนดที่ดินว่ามีการทำประโยชน์หรือไม่ แต่ได้เจตนาที่จะไม่ตรวจสอบเพื่อหลีกเลี่ยงการพบความไม่ชอบของการออก น.ส. 3 ก. ที่ใช้เป็นหลักฐานในการออกโฉนดที่ดินและการไม่ทำประโยชน์ในพื้นที่เป็นเจตนาทุจริตเอื้อประโยชน์ให้กับเจ้าของที่ดินที่มิได้ทำประโยชน์ในที่ดิน
คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ชี้ความผิด นายสิทธิชัย พรหมชาติ พร้อมพวก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง
ส่วนผู้ถูกกล่าวหาที่ไม่ใช่ข้าราชการ และถูกชี้มูลความผิดด้วย ได้แก่ บริษัท ทีจีอาร์ เอสเตท จำกัด ผู้ถูกกล่าวหาที่ 10 บริษัท ทีจีอาร์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้ถูกกล่าวหาที่ 11 บริษัท ทีจีอาร์ บีช จำกัด ผู้ถูกกล่าวหาที่ 12 นางสาวธิดารัตน์ ตั้งจิตเจริญ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 13 นางสาวไรลา หรือนางสาวบุษบา ถิ่นเกาะยาว ผู้ถูกกล่าวหาที่ 14 นางสาวกรสิธร เปรมกุลนนท์ หรือนางเปรมวรา ณ นคร ผู้ถูกกล่าวหาที่ 15 และนายธนเดช หรือดิลกพล สุนทรเวช ผู้ถูกกล่าวหาที่ 18 มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 86
นายสุวัฒน์ เสาวรัญ
ขณะที่ นายสุวัฒน์ เสาวรัญ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดภูเก็ต ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศรา ว่า นอกจาก 2 คดีดังกล่าว ที่ นายสิทธิชัย พรหมชาติ ถูกชี้มูลความผิดไปแล้ว ปัจจุบันสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดภูเก็ต อยู่ระหว่างการเสนอเรื่องต่อ ป.ป.ช.ส่วนกลาง เพื่อตั้งตรวจสอบเบื้องต้น กรณีการเอกสาร น.ส.3 ก บริเวณแหลมยามู ตำบลป่าคลอก อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต หลังเกิดเหตุ นายอูรส์ บีท เฟอร์ หรือ “เดวิด” ชาวสวิตเซอร์แลนด์ เจ้าของพูลวิลล่าและเจ้าของศูนย์อนุรักษ์ช้าง ถูกแจ้งความดำเนินคดีข้อหาทำร้ายร่างกาย แพทย์หญิงโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต ซึ่ง นายสิทธิชัย เป็นผู้ที่เซ็นออกเอกสารสิทธิ์ น.ส.3 ก. บริเวณนี้ด้วย
นายสุวัฒน์ กล่าวด้วยว่า สำหรับการตรวจสอบคดีของ นายสิทธิชัย ทั้ง 2 คดี เป็นการดำเนินการของ ป.ป.ช.ส่วนกลาง แม้ในปัจจุบัน นายสิทธิชัย จะเกษียณราชการไปแล้ว แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคในการตรวจสอบคดีปัจจุบันของ ป.ป.ช. และที่ผ่านมา ป.ป.ช.ได้มีการแจ้งเรื่องการลงโทษทางวินัยไปให้หน่วยงานต้นสังกัดดำเนินการแล้ว
"เกี่ยวกับปัญหาการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินโดยมิชอบในจังหวัดภูเก็ต สำนักงาน ป.ป.ช.ภูเก็ต ให้ความสำคัญ และจริงจังในการตรวจสอบข้อมูลเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เราจะไม่ยอมปล่อยให้เป็นเรื่องไฟไหม้ฟางอย่างแน่นอน" นายสุวัฒน์ระบุ
อย่างไรก็ดี ปัจจุบันคดีความเกี่ยวกับ นายสิทธิชัย ทั้ง 2 คดี ศาลยังไม่ได้มีคำพิพากษาชี้ขาดว่ามีการกระทำความผิด นายสิทธิชัย และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่
ผลการต่อสู้คดีในชั้นศาล จะออกมาเป็นอย่างไร ต้องคอยติดตามดูกันต่อไป
อ่านประกอบ :