เปิดคำพิพากษาศาลฎีกาฉบับเต็มคดีออกโฉนด 33 แปลงรุกป่าอ่าวนาง-หางนาค จ.กระบี่ นายช่างสำรวจ สำนักฟื้นฟูพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ กรมอุทยานแห่งชาติฯ ผิด ม.157 แก้โทษชั้นอุทธรณ์จากจำคุก 10 ปี เหลือ 5 ปี ชี้หนักเกินไป ไม่มีหน้าที่โดยตรง เหมาะสมแก่พฤติการณ์ ปิดฉากในส่วน จนท. เหลือ เอกชนสนับสนุน 23 ราย
คดีทุจริตออกโฉนดที่ดินบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ป่าอ่าวนาง – หางนาค จ.กระบี่ จำนวน 33 แปลง เนื้อที่รวมประมาณ 200 ไร่ มูลค่านับพันล้านบาท (ออกไปแล้ว 33 แปลง , อยู่ระหว่างดำเนินการออก 6 แปลง และแบ่งแยกจากเดิม 3 แปลง รวมทั้งสิ้น 42 แปลง) ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ
มีเจ้าหน้าที่ถูกอัยการสั่งฟ้อง 4 คน ได้แก่ นายสถาพร โกมาศ จำเลยที่ 1 นายอำนาจ เลิศไกร จำเลยที่ 2 นางสาวศศิธร หรือ วรกร สมสะอาด จำเลยที่ 3 นายสมมาศ ประดับเพชร จำเลยที่ 4
ล่าสุด ศาลฎีกามีคำพิพากษาที่ 4229/2566 วันที่ 12 ตุลาคม 2566
พิพากษาว่า แก้โทษจำเลยที่ 1 ส่วนที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำคุก 10 ปี เป็นเวลา 5 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ตามข่าวที่สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานแล้ว
ล่าสุดสำนักข่าวอิศราเรียบเรียงคำพิพากษาศาลฎีกามารายงาน
โจทก์ฎีกา โดยได้รับอนุญาตจากศาลฎีกา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ข้อเท็จจริงที่มิได้โต้เถียงกันในชั้นนี้ รับฟังได้ว่า เมื่อปี 2510 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 และ 6 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 ออกกฎกระทรวงฉบับที่ 211 (พ.ศ. 2510) กำหนดให้ป่าอ่าวนาง - หางนาค ในท้องที่ตำบลหนองทะเล อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ ในแนวเขตแผนที่ท้ายกฎกระทรวงเป็นป่าสงวนแห่งชาติ โดยด้านทิศตะวันตกจดทะเลอันดามันตลอดแนว ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 รัฐบาลมีโครงการเร่งรัดการออกโฉนดที่ดินทั่วประเทศตามนโยบายแปลงสินทรัพย์เป็นทุน ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีคำสั่งที่ 16/2547 ให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมปฏิบัติงานกับกรมที่ดิน ตามโครงการดังกล่าว ดังนี้
-
ขีดเขตและลงนามรับรองแนวเขตป่าสงวนแห่งชาติ อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและเขตห้ามล่าสัตว์ป่า
-
ระวังชี้และลงนามรับรองแนวเขตป่าสงวนแห่งชาติ อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ตามสำเนาคำสั่งเอกสารหมาย จ.54
ไม่เดินสำรวจลงพื้นที่จริง
กรมที่ดินมีคำสั่งแต่งตั้งให้ จำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 นายธวัชชัย ทับทิมทอง เจ้าหน้าที่ที่ดิน 4 และนายนิคม หิรัญโรจน์ นายช่างรังวัด 5 ประจำสำนักมาตรฐานการออกหนังสือสำคัญ ไปปฏิบัติหน้าที่ประจำศูนย์อำนวยการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน จังหวัดกระบี่ พังงา และในเขตหมู่ที่ 3 ตำบลหนองทะเล อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ กรมที่ดินได้จัดทำระวางแผ่นที่รูปถ่ายทางอากาศ หมายเลข 4725 ||| 7294, 7296 มาตรเสวน 1 : 4000 ซึ่งมีพื้นที่ทับซ้อนกับป่าสงวนแห่งชาติป่าอ่าวนาง - หางนาค ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 211 (พ.ศ. 2510) และแผ่นที่ท้ายกฎกระทรวงกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จึงมีคำสั่งให้จำเลยที่ 1 น่ายช่างสำรวจ 4 สำนักฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ ไปร่วมดำเนินการรังวัดระวังชี้และรับรองแนวเขตป่าไม้ลงในระวางแผนที่รูปถ่ายทางอากาศ มาตราส่วน 1 : 4000 ของกรมที่ดิน เพื่อป้องกันการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินบุกรุกล้ำเข้าไปในเขตป่า ตั้งแต่วันที่ 3 มิถุนายน 2548 เวลา ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2548 ตามสำเนาบันทึกข้อความในราชการสำนักฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ ที่ ทส 1906/504 ลงวันที่ 25 พฤษภาคม 2548 เรื่อง ให้ข้าราชการไปปฏิบัติราชการรังวัดระวังชี้และลงนามรับรองแนวเขตป่า เอกสารหมาย จ.58 ซึ่งตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 58, 58 ทวิ และกฎกระทรวง ฉบับที่ 43 (พ.ศ. 2537) ห้ามออกโฉนดที่ดินในที่ดินที่ไม่ได้มีการครอบครองทำประโยชน์ พื้นที่ป่าไม้ถาวร ป่าสงวนหวงห้าม ที่ภูเขาหรือที่มีความลาดชันเกินกว่าร้อยละสามสิบห้า แต่ในการระวังชี้ขีดเขตและรับรองเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าอ่าวนาง - หางนาค ในระวางแผนที่รูปถ่ายทางอากาศ หมายเลข 4725 ||| 7294, 7296 มาตราส่วน 1 : 4000 ของกรมที่ดิน จำเลยที่ 1 ดำเนินการโดยนำแผนที่ท้ายกฎกระทรวง 1 ฉบับที่ 211 (พ. ศ.2510) มาถ่ายทอดในแผนที่ภูมิประเทศ มาตราส่วน 1 : 5000 โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ออโต้แคด (AUTOCAD) แล้วนำมาถ่ายทอดลงบนแผ่นใส มาตราส่วน 1 : 4000 บริเวณหลักเขตที่ 27 ไปจนถึงหลักเขตที่ 1 บ้านคลองทราย โดยไม่มีการเดินสำรวจพื้นที่จริง ไม่เป็นไปตามแนวทางปฏิบัติ และในสมุดลงรายงานการรังวัดระบุว่า หลักเขตที่ 23 ไปจนถึงหลักเขตที่ 1 บ้านคลองทราย ใช้แนวธรรมชาติชายฝั่งทะเล แนวเขตป่าสงวนแห่งชาติตามที่จำเลยที่ 1 ระวังชี้ขีดเขตและรับรองบางส่วนล้ำเข้าไปในฝั่งบนภูเขาประมาณ 200 เมตร บางส่วนล้ำเข้าไปในทะเลและบางส่วนตัดบริเวณกลางแหลมโต๊ะครอกออก ทำให้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าอ่าวนาง – ทางนาค ขาดหายไปจากแผนที่ท้ายกฎกระทรวง ฉบับที่ 211 (พ.ศ. 2510) ประมาณ 200 ไร่
2 จนท. ไต่สวนสิทธิ รังวัด อกโฉนดโดยมิชอบ 33 แปลง
หลังจากนั้น จำเลยที่ 3 และที่ 4 กับพวกร่วมกันไต่สวนสิทธิ รังวัดและออกโฉนดที่ดินในพื้นที่นอกส่วนที่จำเลยที่ - ระวังชี้ขีดเขตและรับรองว่าเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าอ่าวนาง - หางนาค เลขที่ 39183 ถึง 39188, 39195 ถึง 39202 และ 39636 ถึง 39654 รวม 33 แปลง ให้แก่ผู้มีชื่อโดยมิชอบ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ไม่เคยมีการทำประโยชน์มาก่อน เป็นที่เขามีความลาดชันเกินกว่าร้อยละสามสิบห้า อยู่ในเขตป่าไม้ถาวรและป่าสงวนแห่งชาติป่าอ่าวนาง - บางนาค ตามรายงานผลการอ่าน แปล ตีความและวิเคราะห์ภาพถ่ายทางอากาศระวางที่ดิน หมายเลข 4725 ||| 7294, 7296 เอกสารหมาย จ.51 โดยคดีสำหรับจำเลยที่ 2 ที่ศาลชั้นตันพิพากษายกฟ้องโดยไม่มีคู่ความอุทธรณ์ จึงยุติไป ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ส่วนคดีสำหรับจำเลยที่ 3 และที่ 4 นั้น โจทก์ จำเลยที่ 3 และที่ 4 ไม่ฎีกา จึงยุติไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ตั้งประเด็นวินิจฉัย จำเลยที่ 1 ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 หรือไม่
คดีคงมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 หรือไม่
โจทก์ฎีกาว่า การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นการแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายและมีเจตนาทุจริตเพื่อให้มีการนำที่ดินไปออกโฉนดโดยมิชอบ จำเลยที่ 1 จึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 เห็นว่า องค์ประกอบความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ผู้กระทำผิดต้องเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น
ชี้ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
การที่สำนักฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช มอบหมายให้จำเลยที่ 1 ไปร่วมดำเนินการรับรองแนวเขตที่ดิน ด้วยการระวังชี้ขีดเขตและรับรองแนวเขตป่าไม้ลงในระวางแผนที่รูปถ่ายทางอากาศ มาตราส่วน 1 : 4000 ของกรมที่ดินซึ่งทับซ้อนกับป่าสงวนแห่งชาติป่าอ่าวนาง - หางนาค ตามโครงการเร่งรัดการออกโฉนดที่ดินตามนโยบายแปลงสินทรัพย์เป็นทุนของรัฐบาล จำเลยที่ 1 ขีดและรับรองแนวเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าอ่าวนาง - หางนาค บางส่วนออก โดยที่จำเลยที่ 1 ไม่ได้มีการตรวจสอบให้แน่ชัดไม่ได้ลงพื้นที่จริงในการระวังชี้แนวเขต เพียงแต่ถือเอาแผนที่แนบท้ายกฎกระทรวง ฉบับที่ 211 (พ.ศ. 2510) ซึ่งไม่มีความชัดเจนเพียงพอ ทั้งที่จำเลยที่ 1 มีหน้าที่โดยตรงในการระวังชี้แนวเขตเพื่อรักษาเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติมิให้ต้องตกไปอยู่ในเงื่อนไขการออกโฉนดโดยมิชอบ การกระทำของจำเลยที่ ย่อมเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมป่าไม้ และพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ
ไม่มีหน้าที่โดยตรงในการออกโฉนดที่ดิน
แต่เมื่อจำเลยที่ 1 มิได้มีหน้าที่โดยตรงในการออกโฉนดที่ดิน และพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบ ไม่อาจฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต กระทำไปเพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือบุคคลอื่นตามที่โจทก์ฎีกา การกระทำของจำเลยที่ 1 ยังไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 (เดิม) แต่คงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 (เดิม) เท่านั้น ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยที่ 1 มีความผิดเฉพาะมาตรา 157 (เดิม) นั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น ส่วนที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำคุก จำเลยที่ 1 ในความผิดฐานนี้ 10 ปี นั้น หนักเกินไป ศาลฎีกาเห็นสมควรกำหนดโทษจำเลยที่ 1 ใหม่ให้เหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งความผิด
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำคุกจำเสียที่ 1 เป็นเวลา 5 ปี นอกจากที่แก้ ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.
พลิกปูม จำเลยทั้ง 4 มีตำแหน่งอะไร?
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า ขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าพนักงานตำแหน่งนายช่างสำรวจ 4 สำนักฟื้นฟูพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้รับมอบหมายให้ชี้กันแนวเขตป่าสงวนแห่งชาติและเขตอุทยานแห่งชาติเพื่อสนับสนุนหน้าที่โครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินตามแผนปฎิบัติการแปลงสินทรัพย์เป็นทุนประจำปีงบประมาณ 2548 ระยะ2 ปฎิบัติหน้าที้ทำการรังวัด ระวังชี้รับรองแนวเขตป่าไม้ลงในระวางรูปถ่ายทางอากาศมาตราส่วน 1 ต่อ 4,000 ของกรมที่ดิน
จำเลยที่ 2 เป็นเจ้าหน้าที่บริหารที่ดิน 7 สำนักมาตรฐานการออกหนังสือสำคัญ สังกัดกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย ปฎิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์เดินสำรวจการออกโฉนดที่ดินจังหวัดกระบี่ มีหน้าที่ออกโฉนดที่ดินตามโครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินจังหวัดกระบี่
จำเลยที่ 3 เป็นเจ้าพนักงานตำแหน่งเจ้าหน้าที่ที่ดิน 5 สำนักมาตรฐานการออกหนังสือสำคัญ สังกัดกรมที่ดิน ปฎิบัติหน้ารที่ผู้กำกับการเดินสำรวจ มีหน้าที่ตรวจสอบการสอบสวนสิทธิลงนามในใบไต่สวนสิทธิ
จำเลยที่ 4 เป็นเจ้าหน้าที่ ตำแหน่งนายช่างรังวัด 4 สำนักมาตราการออกหนังสือสำคัญ สังกัดกรมที่ดิน ปฎิบัติหน้าที่ผู้กำกับการเดินสำรวจมีหน้าที่ตรวจสอบการสอบสวนสิทธิ์ลงนามในใบไต่สวนสิทธิ์นายธวัชชัย ทับทิมทอง และนายนิคม หิรัญโรจน์ เป็นเจ้าพนักงานตำแหน่ง เจ้าหน้าที่ที่ดิน 4 สำนักมาตรฐานการออกหนังสือสำคัญ สังกัดกรมที่ดิน ปฎิบัติหน้าที่สอบสวนสิทธิลงนามในใบไต่สวนสิทธิ ตรวจสอบเจ้าของที่ดินข้างเคียงและสอบสวนผู้ปกครองท้องที่ในการเดินสำรวจเพื่อออกโฉนดที่ดิน ศูนย์การเดินสำรวจการออกโฉนดที่ดินจังหวัดกระบี่
คำพิพากษาศาลชั้นต้น
คดีนี้ในศาลชั้นต้น เมื่อวันที่ 24 ก.ย.2563 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 มีคำพิพากษา ว่า
จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 (เดิม) จำคุก 15 ปี
จำเลยที่ 3 และ 4 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 (เดิม) ประกอบมาตรา 83 การกระทำของจำเลย ที่ 3 และที่ 4 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษ
ทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 จำคุกกระทงละ 5 ปี รวม 33 กระทง เป็นจำคุกคนละ 165 ปี แต่รวมทุกกระทงแล้วให้จำคุกคนละ 50 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 (3)
ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 2 เนื่องจาก จำเลยที่ 2 พ้นจากราชการเนื่องจากอายุครบ 60 ปี เมื่อสิ้นปีงบประมาณ 2538 คือวันที่ 30 ก.ย.2538 คดีนี้มีการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.2551 กรมสอบสวนคดีพิเศษทำหนังสือกล่าวหา จำเลยที่ 2 ต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.เมื่อวันที่ 20 มี.ค.2552 เป็นเวลาพ้นกำหนด 2 ปี นับแต่จำเลยที่ 2 พ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ย่อมมีผลทำให้ คณะกรรมการ ป.ป.ช.ไม่มีอำนาจรับสำนวนไว้สอบสวน โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 2
คำพิพากษาศาลอุทธรณ์
วันที่ 12 พ.ย.2564 ศาลอุทธรณ์พิพากษา แก้ความผิดจำเลยที่ 1 จากเดิมศาลชั้นต้น ตัดสินมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 (เดิม) จำคุก 15 ปี แก้เป็นจำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 (เดิม) ให้จำคุก 10 ปี ข้อหาอื่นในส่วนของจำเลยที่ 1 ให้ยกฟ้อง ส่วนจำเลยที่ 3 และ 4 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น
ถือว่าปิดฉากในส่วนของเจ้าหน้าที่รัฐ ขณะที่ส่วนเอกชนสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐกระทำทุจริต อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มีคำสั่งฟ้อง ผู้ใหญ่บ้านและเอกชนจำนวน 23 รายเมื่อเร็วนี้
ติดตามผลกันต่อไป
เรื่องเกี่ยวข้อง
- สนันสนุนจนท.! อธิบดี DSI เห็นสั่งฟ้อง ผู้ใหญ่บ้าน-เอกชน 23 ราย คดีออกโฉนดป่าอ่าวนาง
- ฉบับเต็ม!คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ยืนคุก 165 ปี 2 ขรก. ทุจริตโฉนดรุกป่าอ่าวนางทำเป็นขบวนการ
- ศาลอุทธรณ์ยืนจำคุก 165 ปี 2 ขรก.ทุจริตออกโฉนดอ่าวนาง - แก้โทษ 1 ราย เหลือ 10 ปี
- สรุปสำนวนเตรียมส่งฟ้องกลุ่มเอกชน 21 ราย คดีโฉนดรุกป่าอ่าวนาง
- ฉบับเต็ม! คำพิพากษาคดีออกโฉนดป่าอ่าวนาง พฤติกรรมทุจริต 3 ขรก. คุก 15 -165 ปี
- ศาลจำคุก165 ปี 2 จนท.ที่ดิน ทุจริตโฉนดรุกป่าอ่าวนาง ลงโทษสูงสุด 50 ปี-อีกคนโดน 15 ปี
- อีกตัวอย่าง! โฉนดบนเขาอ่าวนาง เมียช่างรังวัด ยังไม่ถูกเพิกถอน
- 2 ปมใหญ่ยังไม่ถูกจัดการ - ไทม์ไลน์คดีโฉนดฉาว 33 แปลง รุกป่าอ่าวนาง
- อยู่ในข่าย26 คน! จนท.ดีเอสไอหารืออัยการปมเอาผิดเอกชนคดีโฉนดรุกป่าอ่าวนาง
- INFO: เปิด 5 ขั้นตอนออกโฉนดฉาว 33 แปลง ป่าอ่าวนาง
- แปลงที่22 โฉนดบนเขา ชื่อ‘อดีต ขรก.-เอกชน’ เกี่ยวพัน 12 คน
- แปลงนี้ด้วย! โฉนดบนเขา กลุ่มเดียวกัน ป.ป.ช.ชี้มูล3 ปี ยังไม่เพิกถอน
- สูตรเดิม! แปลงที่20 โฉนดบนเขา นักธุรกิจ อ้างครอบครอง 67 ปี
- อ้างซื้อจากนายตำรวจ ทำใบไต่สวนเท็จ โฉนดบนเขา แปลง19 อ่าวนาง
- แปลงที่18 ! โฉนดบนเขา อ่าวนาง อ้างครอบครอง 67 ปี ยังไม่เพิกถอน
- ตัวอย่าง! โฉนดบนเขาติดทะเลแปลงนี้ กรมที่ดินยังไม่เพิกถอน หลัง ป.ป.ช.ชี้มูล3 ปี
- 3 ปีหลัง ป.ป.ช.ฟันทุจริตคดีฉาวรุกป่าอ่าวนาง โฉนดยังไม่ถูกเพิกถอน-เอกชนลอยนวล?
- แปลงนี้‘ผู้ใหญ่บ้าน’ ชงออกโฉนดชื่อตัวเอง 2 ไร่ ขายเจ้าของโรงแรม 4 ล้าน
- เบื้องหลังออกโฉนดยอดเขาแปลงนี้ อ้างครอบครองมา67 ปี เจ้าของเป็นนักธุรกิจ
- ที่ดินยอดเขาแปลงนี้ อ้างครอบครองมานาน62 ปี ก่อนออกโฉนด
- อ้างปลูกไม้ผล ยางพารา20 ปี โฉนดบนเขาแปลงนี้ 3 ไร่
- อ้างครอบครองมานาน58 ปี ที่ดินบนเขาแปลงนี้ ออกโฉนด 2 ไร่
- เผยโฉมโฉนด6 ไร่ เมียช่างรังวัด รุกป่าอ่าวนาง
- ไม่นิ่งนอนใจ!'นิพนธ์' สั่งติดตามคดีทุจริตโฉนดป่าอ่าวนางแล้ว-กรณี 'กนกวรรณ' รอเอกสารอยู่
- ชัดๆอีกแปลง โฉนดบนเขา4 ไร่ ขายนักธุรกิจ 5 ล. ฝีมืออดีต ขรก.กลุ่มเดิม
- ทำใบไต่สวนครอบครองเท็จ! เบื้องหลังโฉนด บ.รีสอร์ทดัง คดีรุกป่าอ่าวนาง
- โฉนดแปลงนี้4 ไร่ เจ้าของโรงแรมดังซื้อ 14 ล้าน รุกป่าอ่าวนาง
- โฉนดบนเขา5 ไร่ ออกมิชอบ คนสกุล ‘ภูเก้าล้วน’ ซื้อ 11 ล้าน คดีรุกป่าอ่าวนาง
- เบื้องหลัง โฉนด25 ไร่ เจ้าของโรงแรมดัง คดีรุกป่าอ่าวนาง ทำใบไต่สวนกรรมสิทธิ์เท็จ
- เผยโฉมที่อยู่พร้อมสระว่ายน้ำ นายช่าง4 ชี้แนวเขตคดีรุกป่าอ่าวนาง เพื่อนบ้านอ้างขายแล้ว
- โผล่อีกแปลง โฉนดบนเขา อดีตผู้ว่าฯซื้อ5 ล้าน คดีรุกป่าอ่าวนาง 200 ไร่
- โฉนดที่ดินบนเขา ขายให้อดีตผู้ว่าฯ คดีรุกป่าอ่าวนาง
- ทำใบครอบครองเท็จ ออกโฉนด2 ไร่ ขายให้ ส.ส.ปชป.คดีรุกป่าอ่าวนาง-เจ้าตัวแจงซื้อถูกต้อง
- โฉนด10 ไร่ คนสกุลนักการเมือง คดีรุกป่าอ่าวนาง จัดทำเอกสารเท็จ
- เผยโฉม-ที่มาโฉนดตระกูลดัง18 ไร่ คดีรุกป่าอ่าวนาง จ.กระบี่5 ขรก.ออกมิชอบ
- เปิดคำฟ้อง-พฤติการณ์5 ขรก.คดีออกโฉนดป่าอ่าวนาง จ.กระบี่200 ไร่เอื้อเอกชน 31 ราย
- เผยชื่อ4 อดีต ขรก.! อัยการสั่งฟ้องคดีทุจริตออกโฉนดทับป่าอ่าวนาง จ.กระบี่-ขาด1 คน
- อัยการสูงสุดสั่งฟ้อง5 ขรก.คดีออกโฉนดรุกป่าอ่าวนาง จ.กระบี่-ฟันเพิ่มเอกชนสนับสนุนทุจริต
- คดีออกโฉนดกลุ่มทุนรุก'อ่าวนาง'อืด! ผู้ร้องรุดทวงถามอัยการ‘10 ปียังเอาผิดใครไม่ได้’
- อัยการเจ้าของสำนวนเห็นสั่งฟ้องกราวรูด42 คน คดีออกโฉนด39 แปลงป่าอ่าวนาง จ.กระบี่
- รายละเอียดโฉนด39 แปลง จ.กระบี่ ในข่ายถูก ป.ป.ช.ชี้มูล ใครเป็นเจ้าของบ้าง?
- ปมโฉนด จ.กระบี่!ป.ป.ช.ฟันร้ายแรง5 จนท.ทุจริต เพิกถอน39 แปลง-ของ ส.ส.ด้วย
- 3 กลุ่มทุนผู้ถือครองที่ดินแปลงใหญ่ จ.กระบี่ เป็นใคร?
- รายชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์ โฉนด จ.กระบี่42 แปลง - เจ้าของ รร.ดังคนเดียว10 ฉบับ
- เจาะปมโฉนด33 แปลงในป่า จ.กระบี่ ผ่าน10 ปี ยังไม่เพิกถอน - คนทุจริต สบายดี?
- โชว์หนังสือรองอธิบดี หัก‘ดีเอสไอ-กมธ.สภาฯ’ไม่เพิกถอนโฉนด จ.กระบี่33 แปลง
- ดูเพลินๆ ภาพถ่ายดาวเทียมที่ดิน อดีต ส.ส.-นักธุรกิจ จ.กระบี่‘สีเขียว’พรึบเต็มแปลง
- เปิดผลสอบโฉนด จ.กระบี่51 แปลง ฉบับกรมที่ดิน ชัด อดีต ส.ส.อยู่ในป่าสงวน
- อดีต ส.ส.ปชป.รับที่ดินกระบี่2 ไร่ถูกดีเอสไอสอบเป็นของตัวเอง-ร่วมหุ้นเพื่อนซื้อหลายแปลง
- ‘ให้ระวังตัวเองดีๆ’อธิบดีกรมที่ดินสั่ง‘ผู้ร้อง’หลังรู้ชื่อขาใหญ่ออกโฉนดในป่า จ.กระบี่
- เปิดชื่อ23 คนยื่นออกโฉนด33 แปลงบนเขา จ.กระบี่ สกุลดัง-อดีต ส.ส.ปชป.เจ้าของ
- วิวสวย ป่าสมบูรณ์!‘อิศรา’ลงพื้นที่ บ้านทับแขก จ.กระบี่ ออกโฉนดบนเขา51 แปลง
- เปิดผลสอบดีเอสไอมัดโฉนด31 แปลง จ.กระบี่ อยู่บนเขา- ซี7 กับพวก 5 คนส่อทุจริต
- ฮุบที่ดินริมหาด จ.กระบี่ ออกโฉนด200 ไร่1,000 ล. ร้องคดีไม่คืบ - 5 จนท.เอี่ยว
- ศาลฎีกาแก้โทษคุก 5 ปี จนท.กรมอุทยานฯคดีโฉนดรุกป่าอ่าวนาง-อีก 2 คนยืน ม.151