"...ภารกิจสำคัญของ นายเศรษฐา ทวีสิน ในฐานะนายกรัฐมนตรี นับจากนีัไป คือ การบริหารราชการงานแผ่นดินภายใต้แผนงานนโยบายหาเสียงต่างๆ ตามที่ให้คำมั่นสัญญาไว้กับประชาชน ภายใต้การบริหารงานพรรคร่วมรัฐบาล 11 พรรคการเมือง รวม 314 เสียง ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคประชาชาติ พรรคชาติพัฒนากล้า พรรคเพื่อไทรวมพลัง พรรคเสรีรวมไทย พรรคท้องที่ไทย พรรคพลังสังคมใหม่..."
'นายเศรษฐา ทวีสิน' ก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย เป็นทางการแล้ว
ภายหลัง พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ์ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาได้ลงมติ เมี่อวันที่ 22 สิงหาคม 2566 เห็นชอบด้วยในการแต่งตั้ง นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรฐมนตรี ด้วยคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา จึงแต่งตั้งให้นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
- ‘เศรษฐา’รับพระบรมราชโองการนายกฯ ขอทุ่มเททำงานไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
- สส.-สว.เท 482 เสียง ส่ง 'เศรษฐา' จ่อนั่งนายกฯ คนที่ 30
ภารกิจสำคัญของ นายเศรษฐา ทวีสิน ในฐานะนายกรัฐมนตรี นับจากนีัไป คือ การบริหารราชการงานแผ่นดินภายใต้แผนงานนโยบายหาเสียงต่างๆ ตามที่ให้คำมั่นสัญญาไว้กับประชาชน ภายใต้การบริหารงานพรรคร่วมรัฐบาล 11 พรรคการเมือง รวม 314 เสียง ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคประชาชาติ พรรคชาติพัฒนากล้า พรรคเพื่อไทรวมพลัง พรรคเสรีรวมไทย พรรคท้องที่ไทย พรรคพลังสังคมใหม่
โดยก่อนหน้านี้ พรรคเพื่อไทย ได้ออกมาแถลงรายละเอียดดำเนินการรวบรวมพรรคต่างๆ เพื่อจัดตั้งรัฐบาล 'เศรษฐา 1' ไว้ดังนี้
-พรรคเพื่อไทย (141 ที่นั่ง) ทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการ 8 กระทรวง/ รัฐมนตรีช่วย และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีรวม 9 ตำแหน่ง
-พรรคภูมิใจไทย (71 ที่นั่ง) ทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการ 4 กระทรวง และรัฐมนตรีช่วย 4 ตำแหน่ง
-พรรคพลังประชารัฐ (40 ที่นั่ง) ทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการ 2 กระทรวง และรัฐมนตรีช่วย 2 ตำแหน่ง
-พรรครวมไทยสร้างชาติ (36 ที่นั่ง) ทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการ 2 กระทรวง และรัฐมนตรีช่วย 2 ตำแหน่ง
-พรรคชาติไทยพัฒนา (10 ที่นั่ง) ทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการ 1 กระทรวง
-พรรคประชาชาติ (9 ที่นั่ง) ทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการ 1 กระทรวง
-พรรคอื่นๆอีกจำนวน 5 พรรค ได้แก่ พรรคชาติพัฒนากล้า 2 ที่นั่ง/ พรรคเพื่อไทยรวมพลัง 2 ที่นั่ง/ พรรคเสรีรวมไทย 1 ที่นั่ง/ พรรคท้องที่ไทย 1 ที่นั่ง/ พรรคพลังสังคมใหม่ 1 ที่นั่ง
ปัจจุบันยังไม่มีการเปิดเผยรายชื่อกระทรวง รัฐมนตรีว่าการฯ รัฐมนตรีช่วยฯ ที่จะเข้าไปบริหารงานกระทรวงต่างๆ ตามที่ได้มีการจัดสรรไว้ เป็นทางการ
แต่ข้อมูลที่ปรากฎต่อสาธารณชนไปแล้ว คือ นโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองทั้ง 11 เสียง ที่เคยให้คำมั่นสัญญาไว้กับประชาชน
เพื่อทวนคำมั่นสัญญานโยบายหาเสียงของ 11 พรรคการเมือง ที่เคยให้ไว้กับประชาชน
สำนักข่าวอิศรา สำรวจรวบรวมข้อมูลมานำเสนอ ณ ที่นี้อีกครั้ง มีรายละเอียดดังนี้
พรรคเพื่อไทย
1. เกษตรและประมง
นโยบายเกษตร
- เพิ่มรายได้เกษตรเป็น 3 เท่าภายในปี 2570 จากรายได้เฉลี่ย 10,000 บาท/ไร่/ปี เพิ่มเป็น 30,000 บาท/ไร่/ปี
- พักหนี้เกษตรกร 3 ปี พักทั้งต้นทั้งดอกเพื่อลดภาระของเกษตรกรให้ได้ทำมาหากินจนลืมตาอ้าปากได้
- 50 ล้านไร่ที่ดินทำกิน : แก้กฎหมาย จัดหาที่ดินทำกินให้ประชาชนทุกคน เร่งรัดออกโฉนดในพื้นที่พิพาท
- สร้างทางเลือกให้เกษตรกรเพื่อผลิตสิ่งที่ตลาดต้องการ เปิดตลาดใหม่เพิ่มโอกาสในการส่งออกสินค้าให้เกษตร
- ใช้นวัตกรรม Blockchain เพื่อประกันราคาสินค้าเกษตรล่วงหน้า สร้างความเป็นธรรมให้เกษตรกรด้วยการให้ราคาผลผลิตที่เกษตรกรควรได้รับ
นโยบายประมง
ปลดล็อกปัญหาประมงไทย
- ยกเลิก พ.ร.ก. ที่เป็นผลพวงรัฐประหารทันที และบังคับใช้ พ.ร.ก. ฉบับใหม่ที่ร่วมเขียนโดยพี่น้องชาวประมงตัวจริง
- เร่งเจรจาข้อตกลง IUU (Illegal Unreported and Unregulated fishing) ใหม่โดยตรงกับสหภาพยุโรป (EU)
- ปลดล็อกประมงพื้นบ้านขนาดเล็ก ไม่ต้องขออนุญาต ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการขึ้นทะเบียน
- ฟื้นฟูเศรษฐกิจประมงและทรัพยากรทางทะเล
2.ด้านคมนาคม
- รถไฟฟ้า กทม. 20 บาทตลอดสาย เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้โดยสาร
- ติดตั้งเครื่องปรับอากาศให้รถไฟชั้นสามทุกขบวน ปรับปรุงสภาพภายในให้มีความทันสมัย เพื่อคุณภาพการเดินทางที่ดีขึ้นของผู้มีรายได้น้อย
- ยกระดับรถไฟโดยสารทั่วประเทศ ให้สามารถเป็นการเดินทางแบบไปกลับประจำได้อย่างแท้จริง
- เร่งการเชื่อมโยงรถไฟขนส่งสินค้า
- เชื่อมโยงโครงข่ายรถไฟความเร็วสูงทั่วประเทศ
3.ด้านสาธารณสุข
ยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรค
- บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทั่วไทย นัดคิวออนไลน์ ไม่ต้องรอคิวนานๆ ตรวจเลือดคลินิกใกล้บ้าน เจอหมออีกวันได้เลย
- รักษาและจ่ายยาออนไลน์ ลดภาระของผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์
- ระดมฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกฟรีให้เด็กหญิงอายุตั้งแต่ 9-11 ปีทุกคน และผู้หญิงที่ยังไม่เคยรับเชื้อ HPV ลดอัตราการเกิดมะเร็งปากมดลูกมากกว่าครึ่งป้องกันมะเร็งท่อน้ำดี-มะเร็งตับ ตรวจคัดกรองพยาธิใบไม้ในตับและไวรัสตับอักเสบซี รับยา รักษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
- Mental Health สุขภาพจิตคนไทยจะไม่ถูกละเลย มีการให้คำปรึกษาจากจิตแพทย์และนักจิตวิทยาคลินิก ทั้งที่โรงพยาบาลและผ่านระบบ Telemedicine
- ส่งเสริมให้มีสถานชีวาภิบาล ไร้กังวลสำหรับผู้ป่วยติดเตียง ร่วมมือทั้งภาครัฐ และ เอกชน สนับสนุนงบประมาณโดย สปสช.
- กรุงเทพฯ มีโรงพยาบาลประจำเขตครบทั้ง 50 เขต
4.เศรษฐกิจมหภาค
- ทุกครัวเรือนมีรายได้ไม่น้อยกว่า 20,000 บาท
- กระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ให้ทุกคน ใช้จ่ายใกล้บ้าน 4 กิโลเมตร
- ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน ภายในปี พ.ศ. 2570
- ปริญญาตรี เงินเดือนเริ่มต้นที่ 25,000 บาท ภายในปี พ.ศ. 2570
5.ด้านท่องเที่ยว
ส่งเสริมการท่องเที่ยวทางด้านการแพทย์และสุขภาพมุ่งทำให้ประเทศไทยเป็น 'Wellness Destination' ของเอเชีย เพื่อดึงดูดเม็ดเงินและความรู้ พัฒนาและเพิ่มทรัพยากรทางบุคคลากรทางการแพทย์เพื่อยกระดับระบบสาธารณสุขให้เพียงพอและทันสมัย สนับสนุนอุตสหกรรมอาหารเกษตรเพื่อสุขภาพ สมุนไพรและแพทย์ทางเลือก
6.นโยบาย OFOS-THACCA
นโยบาย One Family One Soft Power หรือ นโยบาย 1 ครอบครัว 1 ซอฟท์พาวเวอร์ จะยกระดับทักษะคนไทยให้เป็นแรงงานทักษะสูง 20 ล้านคน สร้างรายได้อย่างน้อย 200,000 บาทต่อปี สร้างงาน 20 ล้านตำแหน่ง
การผลักดัน Soft Power ไทยจะเป็นจริงได้ ต้องทำทั้งระบบด้วยการ 'สร้างแรงงานทักษะสูง 20 ล้านคน' ด้วยนโยบาย 1 ครอบครัว 1 Soft Power (OFOS) และต้อง 'สร้างงาน 20 ล้านตำแหน่ง' ด้วยเจ้าภาพหลัก คือ Thailand Creative Content Agency (THACCA) ที่จะดูแล Soft Power อย่างเป็นระบบ ครบวงจร
เร่งผลักดัน 8 อุตสาหกรรมสร้างสรรค์เป้าหมาย ประกอบด้วย ภาพยนตร์ ศิลปะ หนังสือ อาหาร ดนตรีเฟสติวัล ท่องเที่ยว กีฬา และออกแบบ แฟชั่น
7.ด้านการศึกษา
- 'ส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านขั้นตอน Learn to Earn'
- 'Free tablet for all' โครงการ 1 นักเรียน 1 แท็บเล็ต และ โครงการ 1 ครู 1 แท็บเล็ต
- โครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน (ODOS)
- มีศูนย์การเรียนรู้แบบ TCDC และ TK Park ให้ครบทุกจังหวัด
8.รัฐบาลดิจิทัลเพื่อประชาชน
เพิ่มความโปร่งใสและประสิทธิภาพของภาครัฐ
- Digital Government คือการพลิกเปลี่ยนจาก 'รัฐอุปสรรค' เป็น 'รัฐสนับสนุน' เพื่อปลดล็อคศักยภาพของประชาชนและผู้ประกอบการให้เป็นฟันเฟืองขับเคลื่นเศรษฐกิจไปด้วยกันและในขณะเดียวกันคือลดช่องทางการคอรัปชั่น
- การสร้าง One Stop Service สำหรับการให้บริการภาครัฐ การขออนุญาติ อนุมัติต่างๆจะต้องง่ายสะดวกอยู่ในแพลตฟอร์มเดียว
- ลดดุลพินิจเจ้าหน้าที่ สร้างกฏเกณฑ์ชัดเจนโดยใช้ระบบเข้ามาเป็นตัวจดเช่น การใช้ Smart Contract เพื่อลดโอกาสในการคอรัปชั่น
- กำหนดระยะเวลาในการอนุมัติให้แน่นอน เพื่อความสะดวก รวดเร็ว และตัดปัญหาการเตะถ่วงและปิดช่องการเรียกเก็บค่าอนุมัติ
9.แก้รัฐธรรมนูญ
- จัดทำ 'รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน' โดยคงรูปแบบการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนและผ่านขั้นตอนการออกเสียงลงประชามติโดยประชาชน
- 'ปฏิรูประบบราชการทั้งระบบ' ให้บริการประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ สะดวก รวดเร็ว และมีความโปร่งใส
- ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม เพื่อความโปร่งใส คำนึงถึงหลักนิติธรรม 'สร้างกระบวนการยุติธรรมที่ซื้อไม่ได้'
- ปรับปรุงยกเลิกกฎหมายทั้งหมดตามความจำเป็นลดกฎหมาย ลดขั้นตอน ลดการใช้ดุลยพินิจ
- กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับองค์กรอิสระต้องมีความเป็นอิสระ มีการคานอำนาจและมีความโปร่งใส
- ปฏิรูปกองทัพเป็นทหารมืออาชีพ ป้องกันการก้าวก่ายแทรกแซงทางการเมืองและการบริหารราชการแผ่นดิน ให้มีความเป็นทหารอาชีพ และแก้ไขกฎหมายยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ให้เข้ารับราชการทหารโดยสมัครใจ
- เสนอกฎหมายป้องกันต่อต้านการรัฐประหาร
- กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น จัดการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดในจังหวัดนำร่อง
10.นโยบายต้านยาเสพติด
- 'ปราบปรามผู้ผลิตและผู้ขาย' อย่างเต็มรูปแบบรวมไปถึงการ 'ยึดทรัพย์' ของผู้ผลิตและผู้ขาย
- เปิดการเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านตามแนวชายแดน เพื่อเข้าจัดการทำลายแหล่งผลิตยาเสพติดอย่างถาวร
- เร่งพัฒนาเศรษฐกิจแนวชายแดน สร้างงาน สร้างเงิน สร้างรายได้ สร้างทางเลือกให้ประชาชน เพื่อดึงคนออกจากวงจรการค้ายาเสพติดอย่างถาวร
11.ปราบอาชญากรรมไซเบอร์
จัดการอย่างเฉียบขาด ทันการ ทันที เท่าทันโลก ทันเทคโนโลยี โดยการวางระบบป้องกันภัยไซเบอร์อย่างมีประสิทธิภาพ
12.การบริหารจัดการน้ำ
เป้าหมายสำคัญในการแก้ปัญหาของพรรคเพื่อไทยคือ ลดความรุนแรง น้ำต้อง 'ไม่ท่วม ไม่แล้ง' และ 'ประชาชนต้องมีน้ำดื่ม น้ำใช้' ตลอดปี
13.จัดทำกรรมสิทธิ์ที่ดิน
เร่งรัด 'การพิสูจน์สิทธิ์ เพื่อให้ได้มาซึ่งโฉนด อย่างถูกต้องและเป็นธรรม' เร่งรัดออกโฉนดแก้กฎหมาย พิสูจน์สิทธิจัดหาที่ทำกิน 50 ล้านไร่ เพิ่มพื้นที่สีเขียวทั่วประเทศ โดยหลักคิด
- ประชาชนทุกคนต้องมีที่ดินเป็นของตนเองเกษตรกรทุกครัวเรือนจะมี ที่ดินทำกินอย่างพอเพียง
- ดำเนินการให้มีการออกโฉนด ให้กับประชาชน 50 ล้านไร่ โดยแปลงที่ดินที่มีความขัดแย้งไปเป็นพื้นที่ วนเกษตร ต้นไม้ทุกต้นมีราคา
- ที่ดินที่เป็นโฉนดจะถูกใช้เป็นพื้นที่สีเขียว เพื่อแก้ปัญหาโลกร้อน นำสู่สภาวะเป็นกลางทางคาร์บอน และสร้างรายได้จากคาร์บอนเครดิต
14.นโยบายเทคโนโลยีและนวัตกรรม
Blockchain จะเป็นโครงข่ายสำคัญที่จะทำให้ Fintech เทคโนโลยีทางการเงินหรือเติบโตและจะทำให้คนไทยสามารถระดมทุนจากทั่วโลกได้ โดยเฉพาะ SME หรือ StartUp ทั้งหลาย รวมทั้งการระดมทุนให้กับเกษตรกร และการขายสินค้าล่วงหน้า เปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความสามารถทางศิลปะและการออกแบบ ได้ขายผลงานในตลาดโลกได้ง่ายขึ้น แล้วประเทศไทยจะกลายเป็น Blockchain Hub และ Fintech Center ของภูมิภาคอาเซียน
15.นโยบายด้านสิ่งแวดล้อม
ทวงคืนอากาศสะอาด แก้ปัญหา PM 2.5 ที่ทุกต้นตอ โดยมี 17 แนวปฏิบัติในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว
- ระยะสั้น ทันทีหน่วยงานรัฐต้องแจ้งเตือนค่าฝุ่นล่วงหน้าให้ประชาชนวางแผนได้กรณีฝุ่นสูงจะมีการอพยพกลุ่มเสี่ยงให้ไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย แบบเดียวกับที่รับมือกับภัยพิบัติอื่นๆ พร้อมทั้งแจกหน้ากากให้กลุ่มเปราะบางรวมถึงสั่งหยุดโรงเรียนเพื่อลดความเสี่ยง
- ระยะกลาง เพื่อไทยจะประสานกับกรมชลประทานให้ปล่อยน้ำเข้านาหลังฤดูเก็บเกี่ยวเพื่อเปลี่ยนตอข้าวให้เป็นปุ๋ยสำหรับอ้อยจะประสานโรงงานน้ำตาลให้ลงทุนตัดอ้อยไถกลบแทนการเผา ควบคู่กันไปจะมีการปลูกต้นไม้เพื่อดักจับฝุ่นและจูงใจให้คนหันมาใช้ รถพลังงานสะอาดด้วยมาตรการทางภาษี
- ระยะยาว ต้องมีการบังคับใช้ พ.ร.บ.อากาศสะอาดฯ ให้ท้องถิ่นมีบทบาทในการจัดการปัญหาฝุ่น บังคับใช้กฎหมายกับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เจรจากับเพื่อนบ้านเพื่อร่วมกันยุติปัญหาฝุ่นทั้งในประเทศและข้าม พรมแดน รวมถึงพัฒนานวัตกรรมเครื่องมือเกษตร เก็บเกี่ยวและขุดกลบที่ไม่ต้องเผา เพื่อจัดการฝุ่นให้ถึงต้นตอ
16.นโยบายต่างประเทศ
- เปิดประตูการค้า เสริมโอกาสการต่างประเทศ เรียกคืนเสถียรภาพทางการทูตให้ประเทศไทยมีสิทธิ์มีเสียงในเวทีการเมืองโลกอีกครั้ง รัฐบาลจะเดินสายสร้างสัมพันธ์ทั่วโลก เพื่อเปิดประตูโอกาสให้ประเทศไทยมีโอกาสได้เพิ่มพื้นที่ในตลาดโลก รวมถึงดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ และการท่องเที่ยวให้เติบโตขึ้นอย่างน้อย 2 เท่า สนับสนุนการท่องเที่ยวเมืองรอง กระจายและสร้างแหล่งรายได้ใหม่ให้ทั่วถึงใดระดับท้องถิ่น เป็นโอกาสทางเศรษฐกิจมหาศาลมาให้กับประชาชนชาวไทย
- หนังสือเดินทางไทย เดินทางได้ทั่วโลก คนไทยในฐานะพลเมืองโลกต้องมีโอกาสได้เดินทางแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมจากทั่วโลก ด้วยหนังสือเดินทางของประเทศไทย รัฐบาลจึงต้องสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศให้เข้มแข็งและหลากหลายมากขึ้น เสริมอิทธิพลหนังสือเดินทางไทย พาคนไทยเดินทางไปได้ทั่วโลกโดยไม่ต้องขอวีซ่า
17.ด้านสิทธิมนุษยชนและความหลากหลายทางเพศ
สร้างความเสมอภาคในสังคม แก้กฎหมายให้ทุกคนได้เข้าถึงสิทธิทางกฎหมายและสวัสดิการรัฐอย่างเท่าเทียม ไม่มีใครต้องถูกกีดกันจากเงื่อนไขทางเพศสภาพและเพศวิถี เช่น สิทธิประกันสังคม สวัสดิการข้าราชการ สิทธิลดหย่อนภาษี สิทธิในการหมั้น การอุ้มบุญ การขอสัญชาติ
18.นโยบายพลังงาน
- ปรับลดราคาพลังงาน น้ำมัน ไฟฟ้า ทันทีก๊าซเพื่อลดภาระในการเข้าถึงแหล่งพลังงานในชีวิตประจำวันให้ประชาชน
- เร่งเจรจาพื้นที่ทับซ้อนเพื่อเพิ่มแหล่งก๊าซธรรมชาติที่มีราคาถูกและสามารถสร้างรายได้ให้ภาครัฐจากค่าภาคหลวง
- สนับสนุนพลังงานสะอาดและพลังงานทางเลือกเพื่อลดการพึ่งพิงพลังงานแบบดั้งเดิม เพิ่มความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
19.นโยบายสิทธิสตรี
‘การยกระดับกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ดัวยเทคโนโลยี’ เพื่อให้ผู้หญิงทุกคนเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจ และการพัฒนาทักษะ โดยกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ผ่านการนำเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วมพัฒนาศักยภาพกองทุน ฯ โดยเทคโนโลยีจะเพิ่มโอกาสการเข้าถึงแหล่งทุนทั้งจากภาครัฐและเอกชน ทำให้เกิดการสร้างคน สร้างเครือข่าย เชื่อมตลาดในประเทศและต่างประเทศ เพิ่มศักยภาพการเข้าถึงนวัตกรรม และเพิ่มการปกป้องสิทธิ์ต่างๆ เพื่อผู้หญิงทุกคนได้รับโอกาสอย่างเท่าเทียม และสามารถยืนหยัดด้วยตัวเองอย่างภาคภูมิ รวมถึงการฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดฟรีสำหรับผู้หญิงทุกคน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
พรรคภูมิใจไทย
- นโยบายสาธารณสุข
- ติดตั้งเครื่องฉายรังสีรักษามะเร็ง ให้โรงพยาบาล ทุกจังหวัด จังหวัดละ 1 เครื่องเป็นอย่างน้อย
- จัดตั้งศูนย์ฟอกไตฟรีทุกอำเภอ ภายใน 4 ปี เพื่อให้ผู้ป่วยโรคไตทุกคนเข้าถึงการรักษาได้เร็ว และทั่วถึง เพื่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้ป่วย และครอบครัว
- นโยบายพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย
- เพิ่มจํานวนนักท่องเที่ยวสู่ 80 ล้านคน เพื่อเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยว สู่ 6 ล้านล้านบาท ภายในปี 2570
- สร้างงานดี งานดี 10 ล้านตําแหน่ง เพิ่มอัตราการจ้างงาน สร้างแรงจูงใจ พัฒนาศักยภาพแรงงาน
- กองทุนท่องเที่ยว ชุมชนดี แหล่งท่องเที่ยวดี และผู้ประกอบการดี ด้วยกองทุน ท่องเที่ยว
- เพิ่มรายได้ในภาคการท่องเที่ยว โดยการเพิ่มระยะเวลาการพํานัก จํานวนการใช้จ่ายต่อคน และ เพิ่มจํานวนนักท่องเที่ยวกลุ่มใช้จ่ายสูง
- 365 วัน เที่ยวทุกที่ เที่ยวทั้งปี รายได้ดี ไม่มีวันหยุด
- กําจัด Low Season แก้ปัญหาการกระจุกตัวของ นักท่องเที่ยว สร้างสมดุลของการ ท่องเที่ยวทั้งในเชิงพื้นที่และเวลา ส่งเสริมกิจกรรมการท่องเที่ยวตลอดทั้งปี ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคในประเทศไทย โดยใช้ Event รูปแบบต่าง ๆ ทั้งระดับชาติ และระดับนานาชาติ ดึงดูดการเดินทางท่องเที่ยวให้กระจายตัวไปยังเมืองต่าง ๆโดยเฉพาะในช่วง Low Season จํานวนไม่น้อยกว่า 300 กิจกรรม
- สร้างเศรษฐกิจ ด้วยงานเทศกาล ปั้นเมือง สร้างงาน วางรากฐาน 'ท้องถิ่นเข้มแข็ง' 'ดึง' งานระดับโลกมาจัดที่ประเทศไทย 'ดัน' งานเทศกาลไทยสู่ระดับโลก
- การดึงงานกิจกรรมระดับนานาชาติ มาจัดในพื้นที่ศักยภาพ ก่อให้เกิดการพัฒนาเมือง พัฒนาพื้นที่ เกิดการจ้างงาน และสร้างผล พลอยได้อื่น ๆ อีกมากมาย
- Wellness Resort of the World รักษา เมืองหลัก พักฟื้น เมืองรอง จุดหมายแห่งการ 'รักษา' 'พักผ่อน' และ 'ฟื้นฟู' ร่างกายและจิตใจ ของประชากรโลก
- Low Carbon Destination มุ่งสู่การท่องเที่ยวสมัยใหม่ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และชุมชน
- เพิ่มพื้นที่ท่องเที่ยวคาร์บอนฯ ต่ำลดโลกร้อน รองรับการท่องเที่ยวสมัยใหม่ ตามแนวเศรษฐกิจ BCG
- ส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบ Low Carbon นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้ และมีส่วน ร่วมกับกิจกรรมที่ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนฯ โดยครอบคลุมทั้งเรื่อง ที่พัก กิน เที่ยว เช่น ปั่นจักรยานท่องเที่ยวแทนการใช้รถยนต์ ทานอาหาร
- Low Carbon Menu ที่ใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นเป็นหลัก และเข้าพักในโรงแรมที่ใส่ใจ สิ่งแวดล้อม สร้างการยอมรับ และสร้างจุดยืนในเวทีโลก ตอบรับการเป็นจุดหมาย ปลายทางท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และคํานึงถึงคนรุ่นหลัง
- นโยบายพักหนี้
- พักหนี้ 3 ปี หยุดต้น ปลอดดอกคนละไม่เกิน 1 ล้านบาท
- นโยบายด้านเกษตร
- ' เกษตรร่ำรวย' ด้วย Contract Farming รู้ราคาก่อนปลูก รับเงินก่อนขาย เสียหายมีประกัน
- นโยบายพลังงาน เน้นพลังงานสะอาด ลดรายจ่ายประชาชน
- ฟรีหลังคาโซล่าเซลล์ ลดค่าไฟฟ้า หลังคาเรือนละ 450 บาท
- มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ผ่อน เดือนละ 100 บาท 60 งวด
พรรคพลังประชารัฐ
- นโยบายปากท้องของประชาชน
- สานต่อ 'บัตรประชารัฐ' เพิ่มเงินเป็น 700 บาท นโยบายสำคัญ คือ 'บัตรประชารัฐ 700 บาท' มอบให้กับผู้มีรายได้น้อย (ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อปี) ที่จะเพิ่มจาก 300 บาท เป็น 700 บาททันที เมื่อพรรคพลังประชารัฐเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และ พล.อ.ประวิตร ได้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30
- มอบสวัสดิการผู้สูงอายุ เกิน 80 ปี รับ 5,000 บาท
- ดูแลผู้สูงตามแบบขั้นบันได ที่ทุกวันนี้ผู้สู่งอายุได้รับสวัสดิการอยู่ที่ 600 - 1,000 บาท แต่หลังการเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐ พร้อมจะดูแลผู้สูง โดยผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป รับไปเลย 3,000 บาท , 70 ปี รับ 4,000 บาท และ 80 ปีขึ้นไป รับ 5,000 บาท
- นโยบายสวัสดิสาธารณะสุข
- 'สวัสดิการประชารัฐ จากครรภ์มารดา' คือ สวัสดิการประชารัฐ ที่จะเข้าไปดูแลทารกตั้งแต่ในครรภ์ ด้วยมารดาประชารัฐ ฝากครรภ์ จนคลอด แบ่งตามช่วยวัยดังนี้
- อายุ 0-6 ปี จะได้รับการดูแลโภชนาการอาหารครบถ้วน ตามพัฒนาการของวัย เพื่อให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง
- อายุ 7-18 ปี จะได้รับสวัสดิการทางการศึกษาที่มีคุณภาพ และจัดสรรโครงการอาหารกลางวันฟรี
- อายุ 18-40 ปี จะมีสวัสดิการคุ้มครองแรงงานทั้งใน-นอกระบบ และ สวัสดิการเรียนรู้ทักษะเพื่อประกอบอาชีพ - นโยบาย 'แม่ บุตร ธิดา ประชารัฐ' นโยบายที่ต้องการดูแลสตรีทั้งประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนกว่า 34 ล้านคน มากกว่าเพศชาย โดยได้วางนโยบายเข้าไปดูแลสตรีขณะตั้งครรภ์ตั้งแต่เดือนที่ 4 และในเดือนที่ 9 ที่คลอดบุตรออกมา จะสนับสนุนเงินให้เดือนละ 10,000 บาท 5 เดือน เริ่มตั้งแต่อายุครรภ์ 4 เดือน จนถึง 9 เดือน นอกจากนี้ จะช่วยเหลือเงินค่าเลี้ยงบุตร 3,000 บาท ต่อเดือน เป็นระยะเวลา 6 ปี
- นโยบายพลังงาน
- นโยบาย 'น้ำมันประชาชน' จะลดราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน ลงมาถึงลิตรละ 18 บาท และน้ำมันดีเซล ลิตรละ 6 บาท
- นโยบายสิ่งแวดล้อม
- นโยบายบริหารจัดการน้ำ-ที่ดินทำกิน 'มีเราไม่มีแล้ง มีน้ำไม่มีจน' และ 'มีเรามีที่ทำกิน มีที่ดินไม่มีจน'
พรรครวมไทยสร้างชาติ
- นโยบายสวัสดิการ
- เพิ่มสิทธิบัตรสวัสดิการพลัสเป็น 1,000 บาทต่อเดือน เริ่มจากกลุ่มรายได้น้อย
- ปรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจากแบบขั้นบันไดเป็นให้เท่ากันทุกช่วงอายุ คนละ 1,000 บาทต่อเดือน
- ดูแลผู้สูงวัยด้วยการสร้างศูนย์สันทนาการ และลดภาษีให้ผู้ประกอบการที่จ้างผู้สูงวัยทำงาน
- แรงงานและข้าราชการ เบิกส่วนประกันตน 30% มาใช้ก่อนได้ ยามเดือดร้อน
- อาชีพอิสระ เข้าระบบประกันสังคมถ้วนหน้า
- นโยบายการศึกษา
- ให้ทุนเรียนวิชาชีพ อำเภอละ 100 ทุน มีสถาบันกำเนิดศิลป์ ปั้นศิลปินไทยสู่เวทีโลก
- นโยบายเศรษฐกิจ
- โครงการคนละครึ่งและเราเที่ยวด้วยกัน ภาค 2
- ทำประเทศไทยให้มีคุณภาพ เช่น มีโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย การตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ EEC และระเบียงเศรษฐกิจใหม่ 4 ภาค
- นโยบายสาธารณะสุข
- สร้างระบบแพทย์ 24 ชั่วโมง ปรึกษาแพทย์ผ่านระบบแพทย์ทางไกล
- นโยบายการเกษตร
- ตั้งกองทุนพยุงราคาสินค้าเกษตร ราคาข้าว ราคายาง เพื่อช่วยให้เกษตรกรมีรายได้ ทำให้ระบบเศรษฐกิจมีเงินหมุนเวียน
- เพิ่มเงินสนับสนุนต้นทุนปลูกข้าว จากที่เคยได้ไร่ละ 700 บาท เป็นไร่ละ 2,000 บาท ครอบครัวละ 5 ไร่ เพื่อให้ทันกับต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น
- ปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ ‘One Map’ เพื่อแก้ปัญหาที่ดินทับซ้อนยืดเยื้อ โดยเริ่มจาก 11 จังหวัดภาคกลาง และจะดำเนินการให้เสร็จภายใน 1 ปี
- แก้กฎหมายเกี่ยวกับที่ดินทั้งหลาย เพื่อให้ประชาชนที่ไม่มีเอกสารสิทธิ หรือมีที่ดินทับซ้อนกับที่ดินของรัฐ ได้มีสิทธิครอบครอง มีสิทธิทำกิน
พรรคชาติไทยพัฒนา
- รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน (บรรหารโมเดล ปี 40) ที่เคยทำสำเร็จมาแล้ว
- เกษตรรุ่นใหม่ ขายคาร์บอนเครดิตได้
- แจกพันธุ์ข้าวฟรีทั่วประเทศ 60 ล้านไร่
- ขยายเขตไฟฟ้าการเกษตรทั่วประเทศหน่วยละ 2 บาท
- ระบบบาดาลขนาดใหญ่ทุกตำบล น้ำสะอาดทุกหมู่บ้าน
- งบลงทุนท้องถิ่น 10 ล้านบาท
- เรียนในสิ่งที่ใช่ ใช้ในสิ่งที่เรียน
- สุขภาพดีมีเงินคืน 3,000 บาท-สวัสดิการอัปเกรดได้
- สร้างงานสร้างรายได้แก่ผู้สูงอายุ-เบี้ยคนพิการเดือนละ 3,000 บาท
- ขนส่งมวลชน เข้าถึง เท่าเทียม
พรรคประชาชาติ
- มีโครงการให้อาหารฟรีให้กับเด็กนักเรียน ให้ฟรีอาหารเช้าและกลางวัน
- ช่วยเหลือเงินครัวเรือน เพื่อลดค่าใช้จ่ายของประชาชน
- บัตรสวัสดิการเยาวชน
- ทุนการศึกษาสำหรับผู้มีรายได้ต่ำ โดยมาเลเซีย ผู้มีรายได้ต่ำ คือ 4,850 ริงกิต ถือว่ารายได้ต่ำ ก็จะให้ทุน
- ปราบคอร์รัปชั่น
- เปิดโอกาสให้ประชาชนมีสิทธิ์ในที่อยู่อาศัย
- ผู้สูงอายุ 60 ปีควรมีบำนาญ 3,000 บาท
- ให้เยาวชนได้ลงทุนในอาชีพเกษตรและปศุสัตว์
- สนับสนุนเงินให้แม่บ้าน หรือให้เงินกับผู้เป็นแม่ที่ทำงานที่บ้าน สำหรับผู้มีรายได้ต่ำ
- แต่งตั้งรองนายกรัฐมนตรี ต้องมีตัวแทนจากรัฐซาบาฮ์ ซาราวัก
- ยกเลิกรัฐบาลรวมศูนย์ ส่งให้ชุมชนเป็นศูนย์กลาง กระจายงบประมาณ กระจายอำนาจ จะทำให้ ชัยชนะอยู่ที่ครอบครัว หรือสันติสุขอยู่ที่ครอบครัว
- การกระจายการถือครองที่ดิน เอาที่ดินส่งให้ประชาชนให้หมด
- จะทำให้รัฐเล็กลง ทำให้ประชาชนมีอำนาจมากขึ้น
- เราต้องเดินทางไปสู่รัฐสวัสดิการให้ได้ ทำให้คนมีสิทธิเสมอกัน
พรรคชาติพัฒนากล้า
- นโยบายในเรื่องการที่จะสร้างเศรษฐกิจใหม่ ที่จะมาหล่อเลี้ยงระบบเศรษฐกิจที่จะนำไปสู่เม็ดเงินประมาณ 5 ล้านล้านบาท ด้วยยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเฉดสี (Spectrum Economy) ซึ่งประกอบไปด้วย
เศรษฐกิจสีเขียว : กรีนอีโคโนมี เศรษฐกิจเพื่อสิ่งแวดล้อม เพิ่มสัดส่วนการผลิตพลังงานหมุนเวียน ต้องแยกระบบสายส่งออกจากการไฟฟ้า เพื่อให้ประชาชนสามารถซื้อขายไฟฟ้าผ่านระบบสายส่งของรัฐ ขยายพื้นที่ป่าเป็น 40% หรือ 26 ล้านไร่ของประเทศ ด้วยการออกพันธบัตรป่าไม้มูลค่า 65,000 ล้านบาท สร้างรายได้ให้ประชาชน ทั้งการขายพืชเศรษฐกิจและคาร์บอนเครดิต
เศรษฐกิจสีเทา : เปลี่ยนส่วยเป็นภาษี ธนาคารโลกระบุว่า ประเทศไทยมีเศรษฐกิจสีเทาแฝงอยู่ในระบบเศรษฐกิจมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก สูงถึง 50% ของ GDP แต่ขาดโอกาสในการเก็บภาษีเข้ารัฐ จึงเสนอให้มีคาสิโนในรีสอร์ตเหมือนสิงคโปร์ ที่มีรายได้ในส่วนนี้ 200,000 ล้านบาทต่อปี
เศรษฐกิจสีขาว : เศรษฐกิจสายมู ตั้งกองทุนเพื่อส่งเสริมให้มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวสายมูที่เป็นเทรนด์ใหม่ในโลก จังหวัดละ 1,000 ล้านบาท
เศรษฐกิจสีน้ำเงิน : เศรษฐกิจสายเทค สร้างโอกาสด้านดิจิทัลอีโคโนมี 1.75 ล้านล้านบาท สร้างโอกาสให้คนไทยเป็นเจ้าของแพลตฟอร์ม ที่ทำได้ก่อนคือการท่องเที่ยว สามารถจองห้อง จองโรงแรม และธุรกิจเกี่ยวเนื่องได้เอง โดยไม่ต้องแบ่งรายได้ให้กับเจ้าของแพลตฟอร์ม ทำให้เราสูญเสียโอกาสไปมาก
เศรษฐกิจสีรุ้ง: จากความเท่าเทียมสู่โอกาสทางเศรษฐกิจ เพิ่มกำลังซื้อสูงสุด 1 ล้านล้านบาททุกปี เริ่มด้วยการปรับกฎหมายให้สมรสได้ และสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการรองรับกำลังซื้อใหญ่จากทั่วโลก
เศรษฐกิจสีเงิน : ชูเศรษฐกิจวัยเก๋า สร้างบ้านผู้สูงอายุ ปรับปรุงบ้าน 50,000 ล้านบาท 1 ล้านครัวเรือน ลดสถิติคนสูงอายุล้มในบ้านปีละ 2 ล้านคน
- นโยบายลดค่าใช้จ่าย
จะจัดโครงสร้างภาษีใหม่ บุคคลเงินเดือน 40,000 บาทแรกไม่ต้องเสียภาษี เพราะค่าครองชีพสูงขึ้นอย่างมาก แต่ภาษีไม่เคยปรับลด ขณะที่รัฐบาลลดภาษีนิติบุคคลของบริษัทขนาดใหญ่จาก 30% เหลือ 20% ตอนนี้รายได้รัฐเริ่มฟื้น สำนักงบประมาณประมาณการรายรับจะเพิ่มขึ้น 2.7 แสนล้านบาท จึงเป็นจังหวะที่ดีที่จะลดภาระคนทำงาน 4 ล้านคน
- นโยบายเศรษฐกิจ
นโยบายสร้างเกษตรใหม่ที่จะเป็นแพลตฟอร์มใหม่ทางด้านเศรษฐกิจเป็นจุดแข็งของประเทศ
- นโยบายสินเชื่อ
จากปัญหาเรื่องเครดิต จะผ่อนคลายให้ทุกคนกลับมาใช้สินเชื่อกันได้ใหม่
- นโยบายโครงสร้างราชการ
นโยบายการใช้ระบบดิจิทัลมาปรับปรุงระบบราชการ เพื่อให้เกิดความคล่องตัว รวดเร็ว โปร่งใส
- นโยบายท่องเที่ยว
ทางด้านการท่องเที่ยว ที่จะมาสร้างเงิน สร้างงาน สร้างรายได้ เพิ่มนักท่องเที่ยว 2 เท่า
- นโยบายพลังงาน
ด้านพลังงานในเรื่องของราคาไฟฟ้าและราคาน้ำมันที่ลดลง
- นโยบายการศึกษา
เพิ่มทักษะให้คนมีโอกาสทำงานมากขึ้น ประเทศไทยต้องเรียนรู้หลายภาษา
- นโยบายธุรกิจ
นโยบายทุนธุรกิจสร้างสรรค์ สูงสุดรายละ 1 ล้านบาท ไม่จำกัดวุฒิและวัย
- นโยบายสวัสดิการ
นโยบายสูงวัยไฟแรง งานใหม่ 500,000 ตำแหน่ง
- นโยบายพัฒนาประเทศ
นโยบายอารยสถาปัตย์ ปรับปรุงบ้าน 50,000 บาทให้ผู้สูงวัยและผู้พิการ
- นโยบายคมนาคม
นโยบายมอเตอร์เวย์ทั่วไทย 4 ทิศ 2,000 กิโลเมตร
พรรคเพื่อไทรวมพลัง
- แก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรที่เป็นหนี้เสีย โดยให้กองทุนฟื้นฟูฯ รับซื้อหนี้ทั้งหมดที่มีในสถาบันการเงินทุกประเภท รวมหนี้นอกระบบด้วย
- ด้านการศึกษา เรียนฟรี ปริญญาตรี
- มีงานทำ สร้างอาชีพในชุมชน ส่งเสริมธุรกิจ SME ธุรกิจออนไลน์
- ลดความเหลื่อมล้ำปฏิรูปที่ทำกิน ยกเลิก สปก. กทบ.5 ที่ราชพัสดุที่หมดสภาพความเป็นป่าและมีประชาชนอาศัยอยู่โดยออกเป็นโฉนดทุกแปลง
- สร้างนวัตกรรมเกษตรไทย ปฏิรูปภาคเกษตรโดยใช้นวัตกรรมนาโนเทคโนโลยีเข้ามาเพิ่มผลผลิต
- ด้านสาธารณสุข ยกระดับ อสม. ให้เป็นผู้ช่วยแพทย์แผนไทยประจำหมู่บ้าน
- แก้ไขเกณฑ์ทหาร ถ้าผู้ชายคนใดจับฉลากได้ใบแดง รัฐจะต้องจ่ายเงินเยียวยาครอบครัวปีละ 15,000 บาท ทั้งนี้เพื่อทดแทนรายได้จากครอบครัวที่ขาดแรงงาน
- มุ่งยกระดับราคาข้าวชาวนา ด้วยการตั้งราคากลาง โดยให้กลุ่มเกษตรกรแต่ละตำบล กู้เงินมาตั้งโรงสี 1 ตำบล 1 โรงสี แล้วสีข้าวส่งตลาดกลาง 1 จังหวัด 1 ตลาดกลาง
พรรคเสรีรวมไทย
- การจัดที่ดินที่อยู่อาศัยทำกินให้ประชาชน การปฏิรูปการใช้ที่ดินของรัฐ แก้ปัญหาแนวทับซ้อนที่ดินทำกินร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
- บัตรประชาชนใบเดียวรักษาฟรีทั่วไทย คือ การรวมบัตรสิทธิการรักษาทุกใบเป็นใบเดียวกันทุกโรคที่มีบัตรประกันสุขภาพ 30 บาท สามารถขอการรักษาได้ที่โรงพยาบาลรัฐทุกแห่งไม่จำกัดพื้นที่
- เรียนฟรีจนจบปริญญาตรี และยกเลิกหนี้ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) พร้อมสนับสนุนภาคการศึกษาจ่ายตรงให้มหาวิทยาลัย 25,000 บาท ปีละ 2 ภาคการศึกษา เป็นเงิน 50,000 บาทต่อคนต่อปี
- บำนาญประชาชน 3,000 บาทต่อเดือน
- เบี้ยผู้พิการ 3,000 บาทต่อเดือน
- ยาเสพติดเป็น 0 โดยตั้งเป็นวาระแห่งชาติ และบูรณาการทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง มีบทลงโทษที่รุนแรงทั้งผู้ขาย, ผู้เสพ, ผู้สนับสนุน รวมทั้งผู้รับประโยชน์ทั้งข้าราชการ และนักการเมือง
- ปราบทุจริต พิชิตคนพาล อภิบาลคนดี คืนงบให้ประชาชน คือการปราบปรามการทุจริตทุกรูปแบบ นำงบประมาณไปพัฒนาด้านต่างๆ
- ปฏิรูปตำรวจ เพื่อประชาชนกู้วิกฤตศรัทธาตำรวจอาชีพ ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ คือการแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ตำรวจ พ.ศ. 2565 รวมทั้งคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ ต้องมาจากการเลือกตั้ง, ข้าราชการตำรวจชั้นประทวนต้องจบปริญญาตรี, แยกงานป้องกันออกจากงานปราบปรามโดยเด็ดขาด และปรับปรุงงบประมาณ และสวัสดิการให้เพียงพอในการปฏิบัติหน้าที่
- ปฏิรูปกองทัพ แก้ไข พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม คือ ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร, ลดขนาดกองทัพ, ยกเลิกศาลทหาร และย้ายกองทัพออกจากกรุงเทพฯ
- เก็บอาวุธหยุดความตาย คือนำปืนออกจากมือประชาชนคืนสู่รัฐ ปืนถูกกฎหมายรับซื้อคืน ปืนผิดกฎหมายนำมาให้รัฐโดยไม่มีความผิด และหลังจากนั้นใครมีอาวุธปืนครอบครองต้องลงโทษรุนแรง
- สร้างเขื่อนเพื่อการเกษตร ป้องกันปัญหาน้ำแล้ง น้ำท่วม คือการสร้างเขื่อนขนาดกลาง ขนาดเล็ก และพนังกั้นน้ำ มีวัตถุประสงค์เพื่อการจำกัดการไหลของน้ำในขณะที่เกิดน้ำท่วม ให้สามารถระบายน้ำ และเพื่อการเกษตรในสภาวะแล้ง
- น้ำมัน ไฟฟ้า ราคาถูกสำหรับประชาชน เช่น การทวงคืน ปตท. ให้กลับมาเป็นของประชาชน ที่ไม่แสวงหาผลกำไร ทั้งการยกเลิกการอ้างอิงราคาตามประเทศสิงคโปร์ และการยกเลิกการผสมเอทานอล เมื่อเอทานอลสูงกว่าน้ำมัน ส่วนไฟฟ้า คือการรื้อระบบสัญญา สร้างโซลาร์เซลล์โรงไฟฟ้าชุมชน และการควบรวมการไฟฟ้า 3 ฝ่าย
- เสริมสร้างประสิทธิภาพกองทุนหมู่บ้าน
- การแก้ปัญหาประมงไทยอย่างยั่งยืน คือการยกเลิก พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การประมง ฉบับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และการรวมผู้เชี่ยวชาญตั้งกรมประมงทะเล
พรรคพลังสังคมใหม่
- รายได้พื้นฐานถ้วนหน้าจ่ายเงินให้กับผู้ที่มีรายได้น้อยเดือนละ 3,000 บาททุกเดือน
- กองทุนกู้วิกฤตธุรกิจ รายย่อย (แม่ค้ารายย่อย) ให้เข้าถึงแหล่งทุน วงเงินไม่เกิน 300,000 บาท
- แก้ไขปัญหาหนี้สินให้สมาชิกกองุทนฟื้นฟูและกลุ่มเกษตรกร
- ปุ๋ยคนละครึ่งที่พึ่งเกษตรกรเพื่อลดต้นทุนให้กับเกษตรกร
- เปลี่ยนที่ดิน ภบท.5-6-11 สปก.4-01เป็นโฉนดที่ดินให้เกษตรกร
- ระบบสาธารณสุขแนวคิดบริการแบบใหม่
- บัตรประชาชนใบเดียวรักษาฟรีทุกโรคได้ทั่วไทยทุกๆ โรงพยาบาลของรัฐ
- แยกท้องถิ่นออกจากระทรวงมหาดไทย โดยยกฐานะเป็นกระทรวงส่งเสริมปกครองส่วนท้องถิ่น
- นิรโทษกรรม ผู้ติดเครดิตบูโร (แบล็คลิส)
พรรคท้องที่ไทย
- แก้ปัญหาที่ดินทำกินประชาชนต้องมีที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกิน
- เพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุ
- ดูแลปกป้องเจ้าหน้าที่รัฐเงินเดือนและสวัสดิการดีขึ้นกว่าเดิม
- ด้านเศรษฐกิจ เกษตรกร ทำนา ทำไร่ ทำสวน จะต้องได้ราคาสินค้าเกษตรทุกชนิดด้วยความเป็นธรรมและเหมาะสมจากโครงการชะลอการขาย
- ปรับค่าตอบแทนกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน
- มีสถาบันเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนและความสงบสุขของบ้านเมือง ให้ความรู้ต่อยอดการทำมาหากิน อาชีพต่างๆ เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย เพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุ ช่วยทำข้าวให้มีราคาช่วยชาวนาให้มีกิน ฯลฯ
- สนับสนุนให้เรียนสายอาชีพมากขึ้น เพื่อเรียนจบแล้วมีงานทำ
- นโยบายสนับสนุนให้มีการเล่นไพ่ ไฮโล เฉพาะตามงานศพ
***************
เหล่านี้ คือ นโยบายที่บรรดาพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 11 พรรค เคยใช้หาเสียงไว้ในช่วงการเลือกตั้ง
ส่วนจะทำได้จริง หรือแค่ใช้หาเสียง ขายฝัน
จดบันทึกข้อมูลชุดนี้ไว้ในความทรงจำให้ดี
อีกไม่นานสาธารณชนคงจะได้รับทราบคำตอบที่ชัดเจนกัน