‘เศรษฐา ทวีสิน’ รับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งเป็นนายกฯแล้ว ประกาศจะทุ่มเททำงานไม่รู้จักเหน้ดเหนื่อย เผยภายใต้การนำของ ‘เพื่อไทย’ จะทำให้ประเทศมีความหวัง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 23 สิงหาคม 2566 ที่อาคารโอเอไอ ทาวเวอร์ ซึ่งเป็นที่ทำการของพรรคเพื่อไทย เมื่อเวลา 18.02 น. นางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เดินทางมายังที่ทำการพรรคเพื่อไทย โดยเป็นผู้เชิญพระบรมราชโองการ มาถึง มีนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย คอยรับส่ง และขึั้นลิฟต์ไปยังชั้น 7 ของอาคาร OAI
จนกระทั่งเวลาประมาณ 18.08 น. เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เชิญพระบรมราชโองการมาถึงห้องรับรอง จากนั้นนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ประกอบพิธีรับสนองพระบรมราชโองการ โดยนางพรพิศเป็นผู้อ่านพระบรมราชโองการความว่า
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ์ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาได้ลงมติ เมี่อวันที่ 22 สิงหาคม 2566 เห็นชอบด้วยในการแต่งตั้ง นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรฐมนตรี ด้วยคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา
จึงแต่งตั้งให้นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 22 สิงหาคม 2566
เป็นปีที่ 8 ในรัชกาลปัจจุบัน
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา
ประธานสภาผู้แทนราษฎร
@พร้อมทำงานเต็มที่ ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
จากนั้น นายเศรษฐา กล่าวภายหลังประกอบพิธีรับสนองพระบรมราชโองการว่า เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระบรมโองการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นับเป็นศุภสิริมงคลของชีวิตขวัญกำลังใจอันสูงสุดแก่กระผมและครอบครัวอย่างหาที่สุดไม่ได้
กระผมมีความปลื้มปิติ และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นและขอเทิดทูนไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม ทั้งจะมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังด้วยความซื่อสัตย์ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนและความวัฒนาสถาพรของประเทศไทย สนองพระราชปณิธาน พระปฐมบรมราชโองการและตามเจตนาของรัฐธรรมนูญทุกประการ
ในวาระที่ได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวันนี้ ขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภาที่ทำหน้าที่ที่ผ่านมา ขอบคุณพี่น้องประชาชนชาวไทย ข้าราชการพลเรือน ตำรวจ ทหาร และหน่วยงานทุกภาคส่วน ขอขอบคุณพรรคร่วมรัฐบาลที่สนับสนุน ขอบคุณภาคประชาชน เอกชนสำหรับความเชื่อมั่นและความไว้วางใจให้ผมได้มีโอกาสในการบริหารราชการแผ่นดิน
พี่น้องประชาชนชาวไทยที่เคารพ ผมขอยืนยันว่า ผมจะทุ่มเททำงานตามมาตรฐานจริยธรรมและความซื่อสัตย์สุจริตยึดมั่นผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ ผมมั่นใจว่า 4 ปีต่อจากนี้จะเป็น 4 ปีแห่งการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย
“วันนี้อยู่ท่ามกลางจุดเปลี่ยนสำคัญ เรามีวิกฤตและปัญหาที่ต้องการทางออกอย่างเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ รายได้ รายจ่าย ความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน ความมั่นคง สังคม การต่างประเทศ สิ่งแวดล้อม กฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม การทุจริตประพฤติไม่ชอบ และอื่นๆอีกมากมายที่ล้วนก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำ ความไม่เท่าเทียม และความยากลำบาก” นายเศรษฐากล่าว
นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า ผมมีความประสงค์ที่จะดำเนินนโยบายต่างๆที่ได้เตรียมไว้เพื่อแก้ไขวิกฤต บรรเทาปัญหา สร้างการพัฒนา การเปลี่ยนแปลงในระดับมหภาค ไปจนถึงในภาคของครัวเรือน ขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า บริหารงบประมาณภาครัฐอย่างโปร่งใส มีประสิทธิภาพ เป็นไปตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ สร้างความร่วมมือเชิงบวกกับภาคเอกชน ภาคต่างประเทศ ทำให้ภาคประชาชนและราชการเติบโตไปพร้อมๆกัน
ผมมีความตั้งใจที่จะประสานประชาชนคนไทยทุกภาคส่วน สร้างสังคมที่เคารพอัตลักษณ์ ความแตกต่างทางความคิดและเคารพกติกาในกรอบระเบียบ และกฎหมาย สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนและตรงไปตรงมา
ในฐานะตัวแทนรัฐบาล ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนคนไทย ร่วมกันเป็นพลังที่จะคอยผลักดัน ร่วมแรงร่วมใจกันเพื่อนำประเทศไทยของเราไปข้างหน้า พี่น้องประชาชนที่เคารพ ผมขอให้คำมั่นว่ารัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย จะทำงานเพื่อบำบัดความทุกข์ สร้างความสุข ความเจริญให้กับประชาชนคนไทยและคนทุกกลุ่มอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศแห่งความหวังของคนรุ่นใหม่ เป็นดินแดนแห่งความสุขของคนทุกวัย เป็นประเทศที่มีเกียรติและศักดิ์ศรีในเวทีนานาชาติอีกครั้ง
“ผมนายเศรษฐา ทวีสิน จะขอทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีที่ไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อย เป็นรัฐบาลที่จะทุ่มเททำงานหนักรับฟังเสียงพี่น้องประชาชน นำความสามัคคีกลับคืนสู่คนในชาติ นำพาประเทศไทยไปข้างหน้าและสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับลูกหลานของพวกเราทุกคนนับจากวันนี้เป็นต้นไป ขอบคุณครับ” นายเศรษฐากล่าวทิ้งท้าย