"...เมื่อเดือน เม.ย.-พ.ค.2550 อบต.บ้านไร่ ได้ดำเนินโครงการเจาะบ่อบาดาล และโครงการปรับปรุงระบบประปาหมู่บ้าน หมู่ที่ 16 บ้านหนองแดง ตำบลบ้านไร่ โดยทั้ง 2 โครงการจัดจ้างด้วยวิธีสอบราคา และมีผู้เสนอราคาจำนวน 2 ราย คือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) เอส.เอ็ม.เซอร์เวย์ และ ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) ดุษฎีการโยธา ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า หจก.ทั้ง 2 แห่ง มีหุ้นส่วนผู้จัดการเป็นคนเดียวกัน คือ นาง สิริรักษ์ บัณฑิตศิละศักดิ์ และในใบเสนอราคาได้ระบุชัดเจนว่า หจก.ทั้ง 2 แห่ง มี นางสิริรักษ์ บัณฑิตศิละศักดิ์ เป็นผู้เสนอราคา ..."
จำเลยทั้งหกให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง
คงจำคุก นายสมชาย พรมอุทัย จำเลยที่ 1 นายอนันตชัย เรืองฉาย จำเลยที่ 2 และ นายธัญลักษ์ แสงสว่าง จำเลยที่ 3 คนละ 2 ปี 6 เดือน และปรับจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 3 คนละ 51,000 บาท
คงจำคุก นายเจริญ อ่อนเชตุ จำเลยที่ 4 นายสำรวย บูระพันธ์ จำเลยที่ 5 นางสาวสิริรักษ์ บัณฑิตศิละศักดิ์ จำเลยที่ 6 คนละ 1 ปี 8 เดือน และปรับจำเลยที่ 4 และจำเลยที่ 5 คนละ 34,000 บาท
คือ บทสรุปคำพิพากษาของ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2566 ที่ตัดสินในคดีกล่าวหา นายสมชาย พรมอุทัย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บ้านไร่ อำเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์ กับพวก คือ นายอนันตชัย เรืองฉาย , นายธัญลักษ์ แสงสว่าง , นายเจริญ อ่อนเชตุ , นายสำรวย บูระพันธ์ และ นางสาวสิริรักษ์ บัณฑิตศิละศักดิ์ ละเว้นไม่ยกเลิกการสอบราคาโครงการเจาะบ่อบาดาล และโครงการปรับปรุงระบบประปาหมู่บ้านหมู่ที่ 16 กรณีผู้เสนอราคามีหุ้นส่วนผู้จัดการเป็นบุคคลเดียวกัน ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบ มาตรา 83 มาตรา 86 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 (พ.ร.บ.ฮั้ว) มาตรา 10 , 12 ประกอบมาตรา 86 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2561
ที่สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบไปแล้ว
เกี่ยวกับคดีนี้ หากสาธารณชนยังจำกันได้ ในช่วงกลางปี 2560 สำนักข่าวอิศรา เคยติดตามตรวจสอบข้อมูลเชิงและพบหลักฐานสำคัญที่เป็นหัวใจในคดีนี้ มาแล้ว
ปรากฏรายละเอียดสำคัญดังต่อไปนี้
หนึ่ง.
สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 20 มี.ค.2560 คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน อดีตผู้บริหารระดับสูงของ อบต.บ้านไร่ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รวมจำนวน 6 ราย ในคดีถูกกล่าวหากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554 มาตรา 84 เกี่ยวกับการดำเนินโครงการเจาะบ่อบาดาล และโครงการปรับปรุงระบบประปาหมู่บ้าน หมู่ที่ 16 บ้านหนองแดง ตำบลบ้านไร่
ระบุพฤติการณ์ในการกระทำความผิด คือ เมื่อเดือน เม.ย.-พ.ค.2550 อบต.บ้านไร่ ได้ดำเนินโครงการเจาะบ่อบาดาล และโครงการปรับปรุงระบบประปาหมู่บ้าน หมู่ที่ 16 บ้านหนองแดง ตำบลบ้านไร่ โดยทั้ง 2 โครงการจัดจ้างด้วยวิธีสอบราคา และมีผู้เสนอราคาจำนวน 2 ราย คือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) เอส.เอ็ม.เซอร์เวย์ และ ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) ดุษฎีการโยธา ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า หจก.ทั้ง 2 แห่ง มีหุ้นส่วนผู้จัดการเป็นคนเดียวกัน คือ นาง สิริรักษ์ บัณฑิตศิละศักดิ์
และในใบเสนอราคาได้ระบุชัดเจนว่า หจก.ทั้ง 2 แห่ง มี นางสิริรักษ์ บัณฑิตศิละศักดิ์ เป็นผู้เสนอราคา
ดังนั้น จึงถือว่ามีพฤติการณ์แจ้งชัดว่าควรรู้ว่าการเสนอราคานั้น จะเป็นการสมยอมเสนอราคากันและเป็นการกระทำผิดกฎหมายและระเบียบ
แต่คณะกรรมการเปิดซองสอบราคาและอบต.บ้านไร่ ละเว้นไม่ยกเลิกการสอบราคา จนเป็นเหตุให้มีการทำสัญญาจ้างและเบิกจ่ายเงินงบประมาณตามโครงการแล้ว
สอง.
สำนักข่าวอิศรา ขยายผลการตรวจสอบพบว่า ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า หจก.เอส.เอ็ม.เซอร์เวย์ จดทะเบียนจัดตั้ง 15 ธ.ค. 2548 แจ้งทุน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 95 หมู่ที่ 9 ตำบลหนองนมวัว อำเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์ แจ้งประกอบธุรกิจการก่อสร้าง
ปรากฎชื่อ นาง สิริรักษ์ บัณฑิตศิละศักดิ์ เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการผู้มีอำนาจ
รายชื่อผู้ถือหุ้น ณ 29 กรกฎาคม 2553 มี 2 ราย นางธนัญญา บัณฑิตศิละศักดิ์ และ นางสิริรักษ์ บัณฑิตศิละศักดิ์ ถือหุ้นเท่ากันคนละ 50% (500,000บาท)
ส่วน หจก.ดุษฎี การโยธา จดทะเบียนจัดตั้ง 16 มี.ค.2549 แจ้งทุน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 85/21 หมู่ที่ 8 ตำบลหนองนมวัว อำเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์ แจ้งประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้างทั่วไป
ปรากฎชื่อ นาง สิริรักษ์ บัณฑิตศิละศักดิ์ เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการผู้มีอำนาจ
อย่างไรก็ดี หจก.ดุษฎี การโยธา ได้จดทะเบียนเลิกห้าง ซึ่งนายทะเบียนได้รับจดทะเบียนไว้แล้ว เมื่อวันที่ 26 พ.ย.2553 และได้จดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี เมื่อวันที่ 18 ม.ค.2554 ไปแล้ว
เมื่อสำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ นางสิริรักษ์ บัณฑิตศิละศักดิ์ จากบัตรประจำตัวประชาชน ที่แจ้งไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในการจดทะเบียนจัดตั้ง ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) เอส.เอ็ม.เซอร์เวย์ และ ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) ดุษฎีการโยธา พบว่าในขณะนั้นมีอายุประมาณ 37 ปี แจ้งที่อยู่เลขที่ 95 หมู่ที่ 9 ต.หนองนมวัว อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ (ดูเอกสารประกอบ)
โดยที่อยู่เลขที่ 95 หมู่ที่ 9 ต.หนองนมวัว อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ ถูกใช้ในการแจ้งจดทะเบียนจัดตั้ง ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) เอส.เอ็ม.เซอร์เวย์ ด้วย
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบหนังสือรับรองการจดทะเบียนจัดตั้ง ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) เอส.เอ็ม.เซอร์เวย์ และ ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) ดุษฎีการโยธา ซึ่งปรากฎชื่อเข้าร่วมเสนอราคา โครงการเจาะบ่อบาดาล และโครงการปรับปรุงระบบประปาหมู่บ้าน หมู่ที่ 16 บ้านหนองแดง ตำบลบ้านไร่ พร้อมกัน
พบชื่อ นางสิริรักษ์ บัณฑิตศิละศักดิ์ เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการผู้มีอำนาจอยู่ทั้ง 2 หจก. อย่างชัดเจน (ดูเอกสารประกอบ)
ขณะที่ นายประทีป จูฑะศร ผอ.สำนักงาน ป.ป.ช.นครสวรรค์ ในขณะนั้น ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศรา ว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งตนเป็นประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีนี้จริง ปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนการดำเนินการไต่สวน แต่ผู้ถูกกล่าวหาในคดีทั้งหมดถือว่ายังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ เนื่องจากคดีต่าง ๆ แม้ว่าจะผ่านพ้นขั้นตอนการไต่สวนของ ป.ป.ช. แล้ว แต่เรื่องยังต้องเข้าสู่กระบวนการต่อสู้คดีในชั้นศาล เพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหาได้ใช้สิทธิต่อสู้คดีเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ต่อไป
จากนั้นเรื่องก็เงียบหายไป
จนกระทั่ง ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 มีคำพิพากษาตัดสินลงโทษ นายสมชาย พรมอุทัย กับพวกรวม 6 ราย ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้ว
อย่างไรก็ดี เกี่ยวกับคดีนี้ ปัจจุบันยังไม่สิ้นสุด จำเลยทั้งหมด มีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2566 ได้พิจารณาแล้วมีมติเห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาในส่วนของ นายอนันตชัย เรืองฉาย จำเลยที่ 2 และนางสาวสิริรักษ์ บัณฑิตศิละศักดิ์ จำเลยที่ 6
แต่ สำหรับนายสมชาย พรมอุทัย จำเลยที่ 1 นายธัญลักษ์ แสงสว่าง จำเลยที่ 3 นายเจริญ อ่อนเชตุ จำเลยที่ 4 นายสำรวย บูระพันธ์ จำเลยที่ 5 ให้อุทธรณ์คำพิพากษา
บทสรุปสุดท้ายในการต่อสู้คดีนี้ ผลจะออกมาเป็นอย่างไรต้องติดตามดูกันต่อไป
แต่ไม่ว่าผลคดีจะออกมาเป็นอย่างไร กรณีนี้นับเป็นอีกหนึ่งคดีตัวอย่าง ไม่ให้ข้าราชการเจ้าหน้าที่รัฐ เดินย้ำซ้ำรอย เอาเป็นเยี่ยงอย่าง ทั้งในปัจจุบันและอนาคตสืบไป
เหมือนหลายหลายคดีก่อนหน้านี้
อ่านข่าวในหมวดเดียวกัน