"...ในช่วงเวลาเกิดคดีโครงการขุดลอกลำน้ำแม่เต๊าะ ของ อบจ.ลำปาง ที่ถูกสอบสวนพบว่า เจ้าหน้าที่รัฐกับเอกชน ได้ร่วมกันจัดทำใบเสนอราคาและเอกสารประกอบ และสนับสนุนกระบวนการเปิดซองสอบราคาอันเป็นเท็จนั้น ร้านภัทราพร ก่อสร้าง ซึ่งเป็นหนึ่งในเอกชน ที่ยื่นซองเสนอราคางานโครงการฯ นี้ ด้วย ถูกตรวจสอบพบว่า ไม่มี รถแบ็คโฮ รถแทรถเตอร์ รถบรรทุกหรือเครื่องจักรอื่นใดที่ใช้สำหรับงานขุดลอกลำน้ำ รวมไปถึงประสบการณ์ไม่มีความสามารถในการดำเนินงานขุดลอกลำน้ำ แต่กลับยื่นเสนอราคางานกับอบจ.ลำปาง จนได้รับการคัดเลือกให้เป็นคู่สัญญางานโครงการฯ ..."
นางสาวภัทราพร โม่มาลา
เป็นใครมาจากไหน? ทำไมถึงปรากฏชื่อเป็นผู้ถูกกล่าวหาตามหมายจับได้?
คือ คำถามที่ยังค้างคาใจของใครหลายคน หลังปรากฏข่าวว่า เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงาน ป.ปช. ร่วมกับนักสืบสวนคดีทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 4 ปฏิบัติการสืบสวนติดตามบุคคลตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 ที่ จ.35/2565 ลงวันที่ 2 ธันวาคม 2565 ราย นางสาวภัทราพร โม่มาลา ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิด ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 12 ประกอบมาตรา 86
หลังการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่า ผู้ถูกกล่าวหาตามหมายจับได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 17 หมู่ที่ 11 ตำบลบึงเนียม อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการจับกุมและควบคุมตัวไปทำบันทึกจับกุม พิมพ์ลายนิ้วมือ และหนังสือส่งตัว ณ สภ.เมืองไหม โดยจะนำตัวผู้ถูกกล่าวหาส่งพนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 5 เพื่อฟ้องคดีต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 ต่อไป
สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับพฤติการณ์การกระทำความผิด ของ นางสาวภัทราพร โม่มาลา ในเบื้องต้นถูกระบุว่า เมื่อปี 2550 ได้เข้าเป็นคู่สัญญาในโครงการขุดลอกลำน้ำแม่เต๊าะ ช่วงไหลผ่านบ้านท่าเดื่อ หมู่ที่ 7 ตำบลหัวเมือง อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง ขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ลำปาง ได้ร่วมกันจัดทำใบเสนอราคาและเอกสารประกอบ และสนับสนุนกระบวนการเปิดซองสอบราคาอันเป็นเท็จ
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับ นางสาวภัทราพร โม่มาลา เพิ่มเติมพบว่า นางสาวภัทราพร เป็นคนไทย สัญชาติไทย มีภูมิลำเนาที่อยู่ในจังหวัดลำปาง
ในระหว่างเกิดเหตุคดีนี้ นางสาวภัทราพร เป็นเจ้าของร้านภัทราพร ก่อสร้าง จดทะเบียนพาณิชย์ร้านค้า เมื่อวันที่ 28 พ.ย.2548 แจ้งจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง หิน ดิน ทรายทุกชนิด รับเหมาก่อสร้าง ลื้อถอน ปลูกสร้าง ขุดลอก คูคลอง ตกแต่งภายในและภายนอกอาคารสถานที่ จำหน่ายสัตว์ นก สัตว์น้ำทุกชนิด ต้นไม้ รับตัดถอนต้นไม้ และปลูกหญ้าสนาม
อย่างไรก็ดี ในช่วงเวลาเกิดคดีโครงการขุดลอกลำน้ำแม่เต๊าะ ของ อบจ.ลำปาง ที่ถูกสอบสวนพบว่า เจ้าหน้าที่รัฐกับเอกชน ได้ร่วมกันจัดทำใบเสนอราคาและเอกสารประกอบ และสนับสนุนกระบวนการเปิดซองสอบราคาอันเป็นเท็จนั้น
ร้านภัทราพร ก่อสร้าง ซึ่งเป็นหนึ่งในเอกชน ที่ยื่นซองเสนอราคางานโครงการฯ นี้ ด้วย ถูกตรวจสอบพบว่า ไม่มี รถแบ็คโฮ รถแทรถเตอร์ รถบรรทุกหรือเครื่องจักรอื่นใดที่ใช้สำหรับงานขุดลอกลำน้ำ รวมไปถึงประสบการณ์ไม่มีความสามารถในการดำเนินงานขุดลอกลำน้ำ
แต่กลับยื่นเสนอราคางานกับอบจ.ลำปาง จนได้รับการคัดเลือกให้เป็นคู่สัญญางานโครงการฯ
ขณะที่ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก พบว่า กระบวนการคัดเลือกผู้เข้ารับจ้างงานโครงการขุดลอกลำน้ำแม่เต๊าะ มีเจ้าหน้าที่รัฐ วางแผนร่วมกับเอกชน จัดทำใบเสนอราคาและเอกสารประกอบ และสนับสนุนกระบวนการเปิดซองสอบราคาอันเป็นเท็จ โดยทำกันเป็นขบวนการ วางแผนเป็นขั้นเป็นตอน ขณะที่ ร้านภัทราพร ก่อสร้าง ของ นางสาวภัทราพร โม่มาลา ไม่ได้ดำเนินการขุดลอกลำน้ำตามสัญญาจ้าง
เมื่อได้รับเงินว่าจ้างงานมาแล้วในรูปแบบของเช็ควงเงินกว่าล้านบาท เจ้าหน้าที่ของรัฐกลุ่มหนึ่ง ก็จะนำเช็คไปขึ้นเงิน และทำการถอนเงินสด ไปเป็นประโยชน์ของตนกับพวกต่อไป
ดังนั้น พฤติการณ์ของ นางสววภัทราพร โม่มาลา จึงเข้าข่ายมีมูลความผิดทางอาณ ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใด เข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรันตนเองหรือผู้อื่น เนื่องด้วยกิจการนั้น และฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยบุคคล ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 152 , 157 ประกอบมาตรา 86 และฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86
อย่างไรก็ดี ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 152 , 157 ประกอบมาตรา 86 ได้ขาดอายุความแล้ว
จึงเหลือแค่การกระทำความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 เท่านั้น
ทั้งหมดนี้ คือ ข้อมูลเกี่ยวกับที่มาที่ไปของ นางสาวภัทราพร โม่มาลา และพฤติการณ์การกระทำความผิดในคดีนี้ จนทำให้ปรากฏชื่อเป็นผู้ถูกกล่าวหาตามหมายจับในคดีนี้ตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้ว
ส่วนรายละเอียดกระบวนการคัดเลือกผู้เข้ารับจ้างงานโครงการขุดลอกลำน้ำแม่เต๊าะ ที่มีเจ้าหน้าที่รัฐ วางแผนร่วมกับกลุ่มเอกชน จัดทำใบเสนอราคาและเอกสารประกอบ และสนับสนุนกระบวนการเปิดซองสอบราคาอันเป็นเท็จ โดยทำกันเป็นขบวนการ วางแผนเป็นขั้นเป็นตอนนั้นว่า เป็นอย่างไรนั้น
สำนักข่าวอิศรา จะนำรายละเอียดทั้งหมดมาฉายภาพให้เห็นในตอนต่อไป
อย่างไรก็ดี คดีนี้ ศาลฯ ยังไม่ได้มีการคำพิพากษาชี้ขาดว่า นางสววภัทราพร โม่มาลา มีความผิดตามกฎหมายแต่อย่างใด
ณ เวลานี้ นางสาวภัทราพร โม่มาลา จึงยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่