"...คดีนี้ ยังมีข้อมูลที่น่าสนใจเพิ่มอีกส่วนหนึ่ง คือ ในการไต่สวนคดีของ ป.ป.ช. มีการตรวจสอบพบข้อสังเกตเกี่ยวกับปัญหาในกระบวนการสอบสวนของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ซึ่งเป็นหน่วยงานต้นเรื่องในการสอบสวนคดีนี้ และมีความเห็นแจ้งให้ สตง. ดำเนินการตรวจสอบตามอำหน้าที่หน้าที่ต่อไปด้วย..."
เป็นอีกหนึ่งคดีใหญ่ที่อยู่ในความสนใจของสาธารณชน!
กรณีสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงมีมติคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ ชี้มูลความผิด นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ กับพวก จำนวน 9 ราย ในคดีกล่าวหา ร่วมกันพิจารณาและอนุมัติเบิกจ่ายเงินอุดหนุนให้กับวัดในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อปีงบประมาณ 2554 - 2556 โดยมิชอบ เมื่อวันที่ 14 พ.ย.2565 ที่ผ่านมา
เพื่อให้สาธารณชนมีความเข้าใจเกี่ยวกับคดีนี้มากขึ้น สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ประมวลสรุปข้อมูลมติการชี้มูลความผิดในคดีนี้ของ ป.ป.ช. มานำเสนอให้รับทราบเป็นทางการอีกครั้ง
หนึ่ง : พฤติการณ์การกระทำความผิด
ในสำนวนการไต่สวน ป.ป.ช. ระบุว่า เป็นการร่วมกันกระทำผิดระหว่างนายชนม์สวัสดิ์ กับพวก โดย ป.ป.ช. มีมติตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนเรื่องดังกล่าว พบว่า นายชนม์สวัสดิ์ เมื่อครั้งเป็นนายก อบจ. กับพวก ได้พิจารณาอนุมัติเบิกจ่ายเงินวัดในสมุทรปราการจริง รวม 68 โครงการ รวม 856 ล้านบาทเศษ ซึ่งเบิกจ่ายเงินอุดหนุนให้กับวัดในช่วงดังกล่าว ต่อมา ป.ป.ช. พบว่ามีอย่างน้อย 20 โครงการ วงเงินประมาณ 338 ล้านบาทเศษ
@ นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม
ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า มีตัวละครคือ นายปกรณ์ เนตรประภา เป็นกรรมการบริษัท เอเวอร์กรีน เอ็กซ์พลอเรอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
โดยนายปกรณ์มีลักษณะว่าเป็นผู้แทนของกลุ่มผู้ถูกกล่าวหา มีความสัมพันธ์สนิทสนมกับผู้บริหาร อบจ. จะแสดงตนเป็นตัวแทนของ อบจ. เพื่อประสานงานกับวัดว่า วัดต้องการเงินอุดหนุนจาก อบจ.หรือไม่ เพื่อนำไปก่อสร้างเมรุ หรือศาลากลางเปรียญหรือไม่ จึงดำเนินการจัดทำคำขอ แบบแปลน ให้เจ้าอาวาสวัดต่าง ๆ ลงนาม
สำหรับพฤติการณ์คดีนี้ หลังจากนั้นมีการรวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้องยื่นกับ อบจ. เมื่อ อบจ.ได้รับคำขอแล้ว ผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่ นายอำนวย รัศมิทัต เป็นนายก อบจ. ในช่วงปี 2554 และนายชนม์สวัสดิ์ เป็นนายก อบจ. ปี 2555-2556 ร่วมกับนายมนัส บุญอารีย์ เป็นปลัด อบจ. ระหว่างปี 2554-2555 และนายสายัณฑ์ รักษนาเวศ เป็นปลัด อบจ. ระหว่างปี 2556 พร้อมกับนายวิชัย จันทร์จำรูญ ผอ.กองการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม นายชัยยศ ตั้งจิตดำรงรัตน์ ผอ.กองช่าง และนายอนุวัต ควรคิต ผอ.ฝ่ายทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม มีการตั้งงบประมาณรายจ่ายเงินอุดหนุน ผลักดันเสนอโครงการดังกล่าวเข้าสภา อบจ. โดยที่ไม่มีการตรวจสอบรายละเอียดโครงการ ไม่มีการตรวจสอบแบบแปลน และราคาประมาณก่อสร้างว่า ถูกต้อง เหมาะสมกับงบประมาณที่ขอมาหรือไม่
กระทั่งมีการประกาศจัดทำโครงการ จนอนุมัติเบิกจ่ายเงินให้แก่วัดที่ขอมา ซึ่งต่อมาในขั้นตอนรับเงินอุดหนุนเมื่อ อบจ.อนุมัติแล้ว นายปกรณ์ จะแจ้งทางวัดทราบล่วงหน้า เพื่อนัดหมายเจ้าอาวาสรับเช็คเงินอุดหนุน ในวันเดียวกันนายปกรณ์ร่วมเจ้าอาวาสหรือผู้แทนของวัดขึ้นเงิน พร้อมกับเบิกเงิน มอบเงินส่วนหนึ่งให้ปกรณ์ เป็นจำนวนครึ่งหนึ่ง จากนั้น เอเวอร์กรีน ที่นายปกรณ์เป็นกรรมการ เข้ามารับจ้างโครงการที่ได้รับเงินอุดหนุนดังกล่าว
ในกระบวนการเริ่มต้นถึงจบ ผู้แทนกลุ่มผู้ถูกกล่าวหา คือบริษัทผู้รับเหมา ภายหลัง อบจ.ได้อนุมัติเงินอุดหนุนไปแล้ว ปรากฏว่าทั้งนายชนม์สวัสดิ์ กับพวก ไม่มีการตรวจสอบติดตามใช้จ่ายเงินอุดหนุนเลย และดำเนินงานแต่ละโครงการ เป็นไปตามแบบแปลนการประมาณราคาหรือไม่ คุ้มค่าเหมาะสมกับเงินอุดหนุนหรือไม่ เหมือนกับเป็นการให้เงิน ปล่อยปละละเลย
ลักษณะน่าจะร่วมกันเพื่อแสวงหาผลประโยชน์จากเงินอุดหนุนดังกล่าว
การดำเนินโครงการทุกโครงการมีปัญหาจากการก่อสร้าง เนื่องจากผู้รับจ้างไม่ปฏิบัติตามสัญญา จ้างช่วง ทิ้งงาน ไม่ตรงแปลน รายการประมาณราคาไม่ถูกต้อง ราชการเสียหายร้ายแรง
สำหรับโครงการที่ถูกตรวจสอบปัญหาการเบิกจ่ายเงินอุดหนุนให้กับวัด ในช่วงปี 2554-2556 มีจำนวน 20 โครงการ อาทิ โครงการก่อสร้างอาคารฌาปนสถาน (เมรุ) จำนวน 1 หลัง พร้อมติดตั้งเตาเผาศพปลอดมลพิษ จำนวน 2 เตา งบประมาณ 8,500,000 บาท ของวัดเอี่ยมประชามิตร (แหลมฟ้าผ่า) ปีงบประมาณ 2554 , โครงการก่อสร้างศาลาอเนกประสงค์ จำนวน 2 หลัง งบประมาณ 17,753,750 บาท ของวัดเอี่ยมประชามิตร (แหลมฟ้าผ่า) ปีงบประมาณ 2554 , โครงการก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์ จำนวน 1 หลัง งบประมาณ 12,000,000 บาท และก่อสร้างซุ้มประตูกำแพง งบประมาณ 2,500,000 บาท ของวัดเอี่ยมประชามิตร (แหลมฟ้าผ่า) ปีงบประมาณ 2555 , โครงการก่อสร้างอาคารบำเพ็ญกุศล จำนวน 1 หลัง งบประมาณ 12,000,000 บาท ของวัดเกาะแก้ว ปีงบประมาณ 2555 , โครงการก่อสร้างศาลาการเปรียญ 2 ชั้น จำนวน 1 หลัง งบประมาณ 30,500,000 บาท ของวัดในสองวิหาร ปีงบประมาณ 2556 เป็นต้น
@ วัดกลางวรวิหาร
อย่างไรก็ดี เรื่องนี้ ไม่มีการไต่สวนประเด็นเกี่ยวกับการฮั้วประมูล เพราะดำเนินการโดยวัด เป็นการจ่ายเงินอุดหนุนให้วัด ซึ่งวัดไม่มีระเบียบเรื่องดังกล่าว ดังนั้นจึงไม่สามารถเอาผิดเรื่องฮั้วประมูล แตกต่างกับเป็นราชการที่ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างเอง
สอง : กลุ่มผู้ถูกกล่าวหาในคดี
จากการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกสำนักข่าวอิศรา พบว่า คดีนี้ เดิมที่มีผู้ถูกกล่าวหา 11 ราย
แต่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดผู้ถูกกล่าวหา จำนวน 9 ราย แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
กลุ่มแรก "นายก อบต."
มีจำนวน 2 ราย คือ
1. นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ อำเภอเมือง สมุทรปราการ
2. นายอำนวย รัศมิทัต เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ อำเภอเมือง สมุทรปราการ
- ถูกชี้มูลกรณีละเลยไม่ปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ หรือประพฤติตนฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน ตามพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. 2540 และมีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 และมาตรา 157
กลุ่มสอง "ข้าราชการเจ้าหน้าที่"
มีจำนวน 5 ราย คือ
1. นายสายัณห์ รักษนาเวศ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ อำเภอเมือง สมุทรปราการ
2. นายมนัส บุญอารีย์ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ อำเภอเมือง สมุทรปราการ
3. นายวิชัย จันทร์จำรูญ ผู้อำนวยการกองการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม องค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ อำเภอเมือง สมุทรปราการ
4. นายชัยยศ ตั้งจิตดำรง ผู้อำนวยการกองช่าง องค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ อำเภอเมือง สมุทรปราการ
5. นายอนุวัช ควรคิด หัวหน้าฝ่ายทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม กองช่าง องค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ อำเภอเมือง สมุทรปราการ
-ถูกชี้มูลมีความผิดวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157
กลุ่มสาม "เอกชน"
มี 2 ราย คือ
1. บริษัท เอเวอร์กรีน เอ็กซ์พอลเรอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด โดย นายปกรณ์ เนตรประภา
2. นายปกรณ์ เนตรประภา เจ้าของ บริษัท เอเวอร์กรีน เอ็กซ์พอลเรอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
-ถูกชี้มูลความผิด ทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151, 157 ประกอบมาตรา 86
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า จากการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกพบว่า ผู้ถูกกล่าวหา อีก 2 ราย ที่ไม่ได้ถูกชี้มูความผิด คือ 1. นายนิพนธ์ บุณยเกียรติ ผู้อำนวยการกองแผนและงบประมาณ และ 2. นายสุรศักดิ์ ปรีชาผล ผู้อำนวยการกองคลัง
ขณะที่ในการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อ ป.ป.ช. นายชนม์สวัสดิ์ และผู้ถูกล่าวหาบางส่วน ยืนยันว่าไม่ได้กระทำความตามข้อกล่าวหา โดยในประเด็นเรื่องการติดตามตรวจสอบการใช้เงินอุดหนุนในโครงการฯ ต่างๆ นั้น มีการชี้แจ้งว่า ไม่ได้มีหน้าที่ในการตรวจสอบติดตามการใช้จ่ายเงินอุดหนุนโดยตรง แต่ก็มีการติดตามตรวจสอบการใช้จ่ายเงินแล้ว
ในส่วน บริษัท เอเวอร์กรีน เอ็กซ์พอลเรอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด นั้น ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศราตรวจสอบพบข้อมูลไปแล้วว่า ศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด บริษัท เอเวอร์กรีน เอ็กซ์พอลเรอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ตามพระราชบัญญัติ ล้มละลาย พุทธศักราช 2483 ในคดีหมายเลขแดงที่ ล.2403/2565 ตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน 2565
นอกจากนี้ คดีนี้ ยังมีข้อมูลที่น่าสนใจเพิ่มอีกส่วนหนึ่ง คือ ในการไต่สวนคดีของ ป.ป.ช. มีการตรวจสอบพบข้อสังเกตเกี่ยวกับปัญหาในกระบวนการสอบสวนของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ซึ่งเป็นหน่วยงานต้นเรื่องในการสอบสวนคดีนี้ และมีความเห็นแจ้งให้ สตง. ดำเนินการตรวจสอบตามอำหน้าที่หน้าที่ต่อไปด้วย
รายละเอียดเป็นอย่างไร สำนักข่าวอิศรา จะติดตามนำมาเสนอให้สาธารณชนรับทราบต่อไป
อนึ่ง การชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด
อ่านประกอบ :
- มติเอกฉันท์ผิด ม.157! ป.ป.ช.ชี้มูล 'ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม' คดีเงินอุดหนุนวัดปากน้ำ (1)
- เจาะสำนวนสอบคดีเงินอุดหนุนวัด 835 ล. ป.ป.ช.ฟัน 'ชนม์สวัสดิ์ -พวก' เจ้าตัวยันไม่ได้ทำผิด (2)
- เปิด 20 โครงการ16 วัด 338 ล.ถูกสอบคดี'ชนม์สวัสดิ์'- วัดกลางมากสุด คนรู้เรื่องตายหมดแล้ว (3)
- 'อิศรา' พาไปดูโครงการเงินอุดหนุน 3 วัด คดี'ชนม์สวัสดิ์' ยัน 'บิ๊กอบจ.-บ.' จัดการทุกอย่าง (4)
- ชี้มูล 2 นายก! ป.ป.ช.ฟัน'อำนวย-ชนม์สวัสดิ์' คดีเงินอุดหนุนวัด อบจ.ปากน้ำ (5)
- สถานะล่าสุด บ.เอเวอร์กรีนฯ คดีเงินอุดหนุนวัด 'ชนม์สวัสดิ์' โดนพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด (6)
- คำต่อคำ! ป.ป.ช.แถลงชี้มูล 'ชนม์สวัสดิ์-พวก' คดีเงินอุดหนุนวัด ราชการเสียหายร้ายแรง (7)