"....นับจากบรรทัดนี้เป็นต้นไป เป็นข้อมูลรายละเอียดที่ปรากฏอยู่ในหนังสือข้อตกลงการสั่งซื้อวัคซีนล่วงหน้า (Advance Purchase Agreement) ระหว่างองค์การเภสัชกรรมกับบริษัท Sinovac Life Sciences ลงวันที่ 7 เม.ย. 2564 จำนวนทั้งสิ้นประมาณ 5 แสนโดส ซึ่งมีจำนวนทั้งหมด 16 หน้า รวมภาคผนวก ที่สำนักข่าวอิศรา ได้รับมอบมาจากองค์การเภสัชกรรมดังกล่าว ซึ่งมีการปกปิดแทบสีดำ ตรงข้อมูลสำคัญหลายส่วน อาทิ ราคาจัดซื้อและเงื่อนไขทางการค้าเป็นต้น ขณะที่ไทยต้องเป็นผู้แบกรับค่าใช้จ่ายหลายส่วน รวมถึงภาระอันมาจากกรณีผลอันไม่พึงประสงค์ร้ายแรงด้วย ..."
...........................
ประเด็นการเรียกร้องให้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยสัญญาการจัดซื้อวัคซีนป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ของประเทศไทย เพื่อให้เกิดความชัดเจนต่อสาธารณะและความโปร่งใสในการใช้จ่ายเงินงบประมาณแผ่นดิน อันมีที่มาจากเงินภาษีประชาชนนั้น
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานไปแล้วว่า ภายหลังจากที่ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ได้ทำหนังสือถึง องค์การเภสัชกรรม โดยใช้สิทธิ์ตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540 ในช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2564 เพื่อขอรายละเอียดการทำสัญญาจัดซื้อวัคซีนโควิด จำนวน 4 ชนิด ได้แก่ 1.วัคซีนจากบริษัทซิโนแวค 2.วัคซีนจากรัฐวิสาหกิจซิโนฟาร์ม,3.วัคซีนจากบริษัทโมเดอร์นา และ4.วัคซีนจากบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า พร้อมเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง
องค์การเภสัชกรรม ได้ส่งหนังสือลงวันที่ 23 ก.ค. 64 ลงนามโดย นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อํานวยการองค์การเภสัชกรรม มายังสำนักข่าวอิศรา เพื่อแจ้งข้อมูลสัญญาการจัดซื้อวัคซีนป้องกันโควิด ให้ทราบ ดังนี้
@ วัคซีนจากบริษัทซิโนแวค
ตามสําเนาสัญญาการจัดซื้อวัคซีน Sinovac (Advance Purchase Agreement) ที่ปิดทับข้อมูลในส่วนที่ต้องห้ามมิให้เปิดเผยตามสัญญารักษาข้อมูลความลับ (Confidentiality Agreement) ของคู่สัญญา
@วัคซีนจากบริษัทโมเดอร์นา
ขณะนี้องค์การเภสัชกรรมอยู่ระหว่างดําเนินการทําสัญญาซื้อขายวัคซีน Moderna กับ บริษัท ซิลลิค ฟาร์มา จํากัด โดยเมื่อได้ลงนามในสัญญาแล้ว จะดําเนินการตามขั้นตอนในการเปิดเผยข้อมูลให้ท่านทราบต่อไป
@วัคซีนจากบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าและจากรัฐวิสาหกิจซิโนฟาร์ม
องค์การเภสัชกรรม ไม่ได้เป็นผู้ดําเนินการจัดซื้อวัคซีนดังกล่าวแต่อย่างใด
ทั้งนี้ สำหรับข้อมูลเอกสารสัญญาวัคซีนของบริษัทซิโนแวคที่องค์การเภสัชกรรมแนบมากับหนังสือตอบกลับนั้น เป็นหนังสือข้อตกลงการสั่งซื้อวัคซีนล่วงหน้า (Advance Purchase Agreement) ระหว่างองค์การเภสัชกรรมกับบริษัท Sinovac Life Sciences ลงวันที่ 7 เม.ย. 2564 โดยเป็นการจัดซื้อวัคซีนจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 5 แสนโดส (อาจมีความแตกต่างของจำนวนวัคซีนไม่เกิน 10 เปอร์เซ็นต์)
อย่างไรก็ตาม ในหนังสือข้อตกลงดังกล่าว ไม่ได้มีการระบุถึงขอบเขตวัคซีนที่จะมีการส่งมอบและกำหนดราคาวัคซีนเอาไว้
(อ่านประกอบ : ไม่เปิดเผยราคา! องค์การเภสัชฯ ส่งข้อตกลงซื้อซิโนแวคให้ 'อิศรา' เฉพาะล็อต 5 แสนโดส)
นับจากบรรทัดนี้เป็นต้นไป เป็นข้อมูลรายละเอียดที่ปรากฏอยู่ในหนังสือข้อตกลงการสั่งซื้อวัคซีนล่วงหน้า (Advance Purchase Agreement) ระหว่างองค์การเภสัชกรรมกับบริษัท Sinovac Life Sciences ลงวันที่ 7 เม.ย. 2564 จำนวนทั้งสิ้นประมาณ 5 แสนโดส ซึ่งมีจำนวนทั้งหมด 16 หน้า รวมภาคผนวก ที่สำนักข่าวอิศรา ได้รับมอบมาจากองค์การเภสัชกรรมดังกล่าว ซึ่งมีการปกปิดแทบสีดำ ตรงข้อมูลสำคัญหลายส่วน อาทิ ราคาจัดซื้อและเงื่อนไขทางการค้าเป็นต้น ขณะที่ไทยต้องเป็นผู้แบกรับค่าใช้จ่ายหลายส่วน รวมถึงภาระอันมาจากกรณีผลอันไม่พึงประสงค์ร้ายแรงด้วย และห้ามีข้อพิพาทต้องส่งเรื่องไปพิจารณาศูนย์อนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศสิงคโปร์
@คำสั่งซื้อ
1.ผู้ที่ดำเนินการสั่งซื้อจะต้องวางใบสั่งซื้อตามที่ได้มีการกำหนดไว้ในภาคผนวก B ของเอกสารนี้ ซึ่งก็คือในรายละเอียดของคำสั่งซื้อ โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์
2.ผู้ซื้อจะต้องกำหนดจำนวนวัคซีนที่สั่งซื้อในใบสั่งซื้อให้แน่ชัดซึ่งจะเป็นจำนวนทั้งสิ้น 5 แสนโดส โดยจะมีความเบี่ยงเบนของจำนวนวัคซีนไม่เกิน 10 เปอร์เซ็นต์ และวันที่คาดว่าจะมีการจัดส่งในแต่ละครั้งภายใต้ใบสั่งซื้อ
ทั้งนี้ผู้ซื้อควรแนบเอกสารที่ควบคู่กับใบสั่งซื้อมาให้กับทางบริษัทซิโนแวค ซึ่งเอกสารที่ว่านี้นั้นก็คือเอกสารที่จะต้องใช้โดยหน่วยงานของรัฐบาลในภูมิภาคที่จะมีการใช้วัคซีน โดยจะต้องระบุรายละเอียดที่จำเป็นของเอกสารนั้นมาด้วย
3.บริษัทซิโนแวค จะยืนยันใบสั่งซื้อด้วยการออกเอกสารที่ยืนยันการจำหน่ายและโอนกรรมสิทธิสินค้าระหว่างผู้นำเข้ากับผู้ส่งออก (เอกสารบันทึกการขายสำหรับผู้ส่งออก) ภายใน 5 วันหลังจากได้รับใบสั่งซื้อ
4.คำสั่งซื้อจะไม่มีผลและจะไม่ผูกมัดจนกว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะได้ยืนยันตามข้อ 3
5.เงื่อนไขในหนังสือสั่งซื้อนี้ถือว่าเป็นที่สุดถ้าหากเกิดกรณีที่เงื่อนไขคำสั่งซื้อนั้นไม่สอดคล้องกับเงื่อนไขที่ระบุในหนังสือสั่งซื้อนี้
6.คำสั่งซื้อที่ได้รับการยืนยันจะไม่ถูกยกเลิกโดยทั้งจากฝ่ายซิโนแวคและจากฝ่ายผู้ซื้อโดยไม่มีสาเหตุ
@ราคาจัดซื้อและเงื่อนไขทางการค้า
1.ซิโนแวคจะคิดราคาและผู้ซื้อจะจ่ายเงินสำหรับผลิตภัณฑ์ โดยผลิตภัณฑ์จะถูกจัดส่งและถูกขายภายใต้ข้อตกลงนี้ด้วยราคา (***ข้อมูลปกปิด) ต่อหน่วย
2. (***ข้อมูลปกปิดทั้งหมด)
3.ราคาจัดซื้อโดยรวมภายใต้ข้อตกลงนี้จะเป็น (***ข้อมูลปกปิด)
@การจ่ายเงิน
1.ภายในระยะเวลา 5 วันทำการหลังจากที่บริษัทซิโนแวคได้รับคำสั่งซื้อ บริษัทจะออกใบเสนอราคาด้วยจำนวนราคาที่สั่งซื้อคำนวณจากจำนวนสินค้าที่มีการยืนยันในสั่งซื้อและราคาต่อหน่วยเพื่อยืนยันคำสั่งซื้อ
2.คู่สัญญาได้ตกลงที่จะชำระการสั่งซื้อตามตารางที่กำหนดไว้ดังนี้
**** ข้อ 3- ข้อ 7 ข้อมูลปกปิดทั้งหมด
8. ทุกการจ่ายเงินภายใต้ข้อตกลงนี้จะจ่าย (***ข้อมูลปกปิด)
@การจัดส่ง การขนส่ง
***ข้อ 1-ข้อ 4 ข้อมูลปกปิดทั้งหมด
5.ซิโนแวคจะแบกรับความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการดำเนินการขอใบอนุญาตส่งออกวัคซีนหรือใบอนุญาตทางการอื่น ๆ และจะเป็นผู้ดำเนินการตามพิธีศุลกากรทั้งหมดในการส่งออกผลิตภัณฑ์ออกนอกประเทศจีน
*** ข้อ 6-ข้อ 10 ข้อมูลปกปิดทั้งหมด
@การรวมรวม จัดเก็บ การปล่อยผลิตภัณฑ์
*** ข้อ 1 และ ข้อ 2 ข้อมูลปกปิดทั้งหมด
3.ผู้ซื้อจะต้องดำเนินการรับผิดชอบค่าใช้จ่าย ใบนำเข้า ใบอนุญาตอื่นๆ และค่าดำเนินการทางศุลกากรที่จำเป็นสำหรับการนำเข้าผลิตภัณฑ์มาในประเทศทั้งหมด
*** ข้อ 4 และ ข้อ 5 ข้อมูลปกปิดทั้งหมด
6.ผู้ซื้อจะต้องดำเนินการให้มีการขนส่งด้วยระบบห่วงโซ่ความเย็นและจะต้องมีการจัดเก็บวัคซีนในศูนย์เก็บหรือโกดังในพื้นที่ปลอดภัย โดยจะต้องมีสถานะอุณหภูมิระหว่า 2-8 องศาเซลเซียสตลอดเวลา และจะต้องมีการเฝ้าจับตาและบันทึกข้อมูลรายวัน ตามที่ได้ระบุไว้ในฉลากและในใบรับรองการวิเคราะห์ (COA) ของผลิตภัณฑ์
7.ผู้ซื้อต้องเก็บบันทึกการเก็บรักษาและสถานะอุณหภูมิการขนส่งในช่วงเวลาระหว่างการขนย้ายผลิตภัณฑ์ไปถึงมือลูกค้าผู้รับผลิตภัณฑ์
8.ถ้าหากเกิดความเบี่ยงเบนใดๆในสภาพการเก็บรักษาตามที่ระบุไว้ในฉลากหรือว่า COA ผู้ที่ซื้อจะต้องรายงานให้กับบริษัทซิโนแวคเป็นลายลักษณ์อักษรทันที
ซึ่งในกรณีที่มีความเบี่ยงเบนดังกล่าวนั้น ผู้ซื้อจะต้องไม่ขาย,ไม่แจกจ่าย,จัดการ,จัดหา,หรืออนุญาตให้มีใครขาย,แจกจ่าย,หรือใช้ผลิตภัณฑ์วัคซีนนั้นก่อนที่จะมีการประเมินความเสี่ยงเสร็จสิ้นจากทั้งฝ่ายผู้ซื้อและจากฝ่ายบริษัทซิโนแวค ซึ่งในกระบวนการประเมินความเสี่ยงดังกล่าวนั้นจะต้องมีการรับรองด้วยแล้วว่าผลิตภัณฑ์นั้นมีความปลอดภัยจริง ๆ ในการใช้งาน
9. ผลกระทบใด ๆ ที่มาจากการขนส่งหรือจัดเก็บที่ไม่เหมาะสมอันเกิดจากความประมาทเลินเล่อ, ความผิดพลาด, หรือเกิดจากเจตนาของผู้ซื้อ ทั้งหมดจะต้องเป็นภาระของผู้ซื้อแต่เพียงผู้เดียว
@การตรวจรับขั้นสุดท้าย
1.เมื่อผลิตภัณฑ์มาถึงยังผู้ซื้อ ผู้ซื้อจะต้องดำเนินการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะเป็นการตรวจสอบขั้นสุดท้ายภายในระยะเวลา 20 วันทำการ โดยกระบวนการตรวจสอบขั้นสุดท้ายจะต้องเป็นการดำเนินการเพื่อตรวจสอบผลิตภัณฑ์ในส่วนที่เกี่ยวกับข้อมูลการผลิต ใบรับรองการวิเคราะห์ (COA) ของผลิตภัณฑ์ สถานการณ์ขนส่งด้วยห่วงโซ่ความเย็นและการตรวจสอบจำนวนและคุณภาพของผลิตภัณฑ์
2.หากผลิตภัณฑ์ไม่มีความเสียหาย บกพร่อง ตกหล่นในแง่ของจำนวนผลิตภัณฑ์ หรือมีปัญหาอื่นๆ และหลังจากการตรวจสอบเอกสารและข้อมูลต่างๆที่ถูกเผยแพร่มาจากทางบริษัทซิโนแวคให้กับทางฝ่ายผู้ซื้อตามที่ระบุไว้ในข้อ 1
ผู้ซื้อนั้นควรที่จะเซ็นเอกสารการตรวจรับขั้นสุดท้าย โดยเมื่อลงนามในเอกสารการตรวจรับขั้นสุดท้ายผลิตภัณฑ์ก็จะถือว่าผ่านการตรวจสอบขั้นสุดท้ายและจะถือว่าผู้ซื้อได้ยอมรับผลิตภัณฑ์แล้วในที่สุด
*** ข้อ 3-ข้อ 5 ข้อมูลปกปิดทั้งหมด
@ข้อเรียกร้องสิทธิ์
*** ข้อ 1 -ข้อ 6 ข้อมูลปกปิดทั้งหมด
@เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์และการรายงานเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่ร้ายแรง
1.ผู้ซื้อจะรับรองว่าผลิตภัณฑ์นั้นจะถูกส่งมอบให้กับบุคคลตามที่ได้กำหนดไว้ในประเทศเท่านั้นและผู้ซื้อควรที่จะแจ้งข้อมูลให้บริษัทซิโนแวคให้ได้รับทราบเกี่ยวกับกรณีที่มีผลอันไม่พึงประสงค์ร้ายแรง ("SAEs”) และกรณีผลข้างเคียง ("AEs”) อันเป็นรายงานเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ ซึ่งการแจ้งผลให้กับซิโนแวคดังกล่าวนั้นก็เพื่อให้ซิโนแวคสามารถประเมินคุณภาพของผลิตภัณฑ์ได้อย่างครอบคลุมรวมไปถึงควบคุมความเสี่ยงและพัฒนาระดับการจัดการในด้านการติดตามความปลอดภัยจากการใช้ยา (PV)
2.ผู้ซื้อจะจัดเตรียมเอกสารการรายงานทั้งหมดเกี่ยวกับกรณี SAEs และ AEs อันเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ รายงงานไปยังบริษัทตามช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์ดังต่อไปนี้
-กรณีเสียชีวิตและกรณีที่เกิดคลัสเตอร์ทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง และ
-กรณีที่มีผลอันไม่พึงประสงค์ร้ายแรง ("SAEs”) ภายใน 5 วันทำการ
-กรณีผลข้างเคียง ("AEs”) ภายในระยะเวลาไม่เกิน 100 วัน
3.ก่อนวันที่ 31 ม.ค.ของแต่ละปี ผู้ซื้อควรที่จะให้ข้อมูลกับบริษัทซิโนแวค ด้วยเอกสารทั้งหมดในปีก่อนหน้านี้ที่ยังไม่ได้จัดส่งรวมไปถึง “แบบฟอร์มการรายงานสําหรับเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์หลังจากการฉีดวัคซีน (AEFI)", "แบบฟอร์มการรายงานสําหรับเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์หลังจากคลัสเตอร์การฉีดวัคซีน (AEFI) " และ "สรุปรายงานสําหรับเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์หลังจากการฉีดวัคซีนในปี ค.ศ. 20XX”
4.ผู้ซื้อและบริษัทซิโนแวคจะเซ็นสัญญาข้อตกลงแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านความปลอดภัย,และรายงานความรับผิดชอบของผู้ซื้อที่ดำเนินการต่อทุกกรณีที่มีผลอันไม่พึงประสงค์ร้ายแรง ("SAEs”) และทุกกรณีผลข้างเคียง ("AEs”)
5.ผู้ซื้อจะตัองจัดการกับกรณีผลอันไม่พึงประสงค์ร้ายแรง ("SAEs”) และกรณีผลข้างเคียง ("AEs”) ตามกฎหมายของตัวเอง
6.ผู้ซื้อจะต้องดำเนินการแบกรับภาระอย่างเหมาะสมสำหรับกรณีการเกิดภาระอันมาจากกรณีผลอันไม่พึงประสงค์ร้ายแรง ("SAEs”) และกรณีผลข้างเคียง ("AEs”) ของผลิตภัณฑ์ที่มีการรายงานในประเทศของตัวเอง
7.ในกรณีที่เกิดผลอันไม่พึงประสงค์ร้ายแรง ("SAEs”) และกรณีผลข้างเคียง ("AEs”) ผู้ซื้อจะต้องดำเนินการทางด้านค่าใช้จ่ายเกี่ยวข้องกับการการรักษา การตรวจสอบ และการรักษาตัวในโรงพยาบาลของผู้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับอาการเกิดผลอันไม่พึงประสงค์ร้ายแรง ("SAEs”) และกรณีผลข้างเคียง ("AEs”) ตามหลักการของกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องภายในประเทศ
8.ในกรณีการบาดเจ็บและเสียชีวิตอันมาจากผลอันไม่พึงประสงค์ร้ายแรง ("SAEs”) และกรณีผลข้างเคียง ("AEs”) ผู้ซื้อจะต้องรับผิดชอบในส่วนของค่าใช้จ่ายในส่วนของผู้ที่ใช้งานผลิตภัณฑ์หรือทายาทตามกฎหมายอย่างเหมาะสมและให้ค่าตอบแทนทางเศรษฐกิจ ซึ่งในกรณีนี้ผู้ที่เป็นผู้จำหน่ายวัคซีนอาจจะต้องเป็นคนจ่ายตามเงื่อนไขของกฎหมายและข้อบังคับใช้ในประเทศ
@ข้อร้องเรียน
1.ในกรณีที่ผู้ซื้อได้รับข้อร้องเรียนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ผู้ซื้อควรจะแจ้งให้บริษัทซิโนแวคได้รับทราบภายใน 5 วันทำการเกี่ยวกับข้อร้องเรียนนั้นทันที
2.ในกรณีที่ผู้ซื้อได้รับคำสั่งใด ๆ จากหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องในประเทศ ในประเด็นอันเกี่ยวข้องกับการร้องเรียน ผู้ซื้อควรแจ้งให้ทางซิโนแวครับทราบโดยทันที
3.ซิโนแวคจะดำเนินการตรวจสอบข้อร้องเรียนโดยทันที โดยจะแจ้งผลการตรวจสอบข้อร้องเรียนและยืนยันการข้อมูลการสืบให้กับผู้ซื้อเป็นลายลักษณ์อักษรตามที่ได้มีการร้องขอจากหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง
4.คู่สัญญาจะต้องจัดการการกับข้อเรียกร้องที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง โดยจะต้องดำเนินการตามในส่วนที่มีการระบุไว้ในหมวดว่าด้วยข้อเรียกร้อง (***เป็นข้อมูลที่ถูกปกปิดทั้งหมด)
@การเรียกคืนหรือถอนคืนผลิตภัณฑ์
1.เมื่อใดก็ตามที่มีการเรียกคืนผลิตภัณฑ์ หรือการตัดสินใจระงับการใช้หรือถอนการอนุมัติ หรือมีการตัดสินใจระงับการใช้ตามข้อบังคับหรือตามกฎหมายใด ๆ ก็ตามภายในประเทศ โดยหน่วนงานที่เกี่ยวข้องในประเทศ ผู้ซื้อจะต้องแจ้งให้ซิโนแวคทราบโดยทันที
2.ผู้ซื้อจะต้องแบกรับค่าใช้จ่ายทั้งหมดของการเรียกคืนหรือถอนคืนใดๆอันเกิดจาก
(I) ความเสียหายหรือข้อบกพร่องในผลิตภัณฑ์ที่เกิดขึ้นหลังจากการตรวจรับขั้นสุดท้ายโดยผู้ซื้อ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิตและกระบวนการขนส่งผลิตภัณฑ์โดยบริษัทซิโนแวค หรือไม่เกี่ยวข้องกับความประมาทเลินเล่อของทางบริษัทซิโนแวคหรือ
(II) ถ้าหากเกิดปัญหาจากการกระทำหรือการไม่กระทำของผู้ซื้อ ซึ่งในกรณีดังกล่าวนี้บริษัทซิโนแวคจะมีสิทธิ์ในราคาเต็มของผลิตภัณฑ์และจะขอสงวนสิทธิ์ในการไม่คืนเงินใด ๆ ให้กับผู้ซื้อ
3.ถ้าหากมีการเรียกคืนสินค้าเกิดขึ้นโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในประเทศอันเนื่องมาจากความผิดของบริษัทซิโนแวค ผู้ซื้อนั้นมีสิทธิ์ที่จะยกเลิกข้อตกลงนี้ด้วยการแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรมายังบริษัทซิโนแวค ซึ่งกรณีดังกล่าวนี้นั้นบริษัทซิโนแวคจะเป็นผู้ที่แบกรับค่าใช้จ่ายตั้งแต่การเรียกคืนสินค้า การคืนเงินถ้าหากมีการจ่ายเงินแล้วโดยผู้ซื้อ
4.ถ้าหากการเรียกคืนหรือการถอนคืนสินค้าเกิดขึ้นโดยหน่วยงานในประเทศอันเนื่องมาจากข้อผิดพลาดที่ถูกปกปิดในประเด็นเรื่องความปลอดภัย ซึ่งข้อผิดพลาดที่ว่านี้นั้นถูกตรวจพบในภายหลังจากวันที่มีการตรวจรับเป็นครั้งสุดท้าย ผู้ซื้อมีสิทธิ์ที่จะยกเลิกข้อตกลงสั่งซื้อนี้ด้วยการแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรมายังซิโนแวค โดยกรณีนี้นั้นบริษัทซิโนแวคจะมีสิทธิ์เก็บเงินค่าสั่งซื้อเป็นจำนวน 20 เปอร์เซ็นต์และจะคืนเงินจำนวนส่วนที่เหลือให้กับผู้ซื้อ
5.คู่สัญญาจะต้องแบกรับค่าใช้จ่ายทั้งหมดถ้าหากมีการยกเลิกสัญญานอกเหนือจากที่กำหนดไปแล้วในข้อ 2-3-4 ซึ่งในกรณีนี้บริษัทซิโนแวคจะมีสิทธิในค่าใช้จ่ายวัคซีนเต็มจำนวนและจะไม่คืนเงินให้กับผู้ซื้อ
6.ค่าใช้จ่ายการเรียกคืน การถอนคืนจะไม่จำกัดเพียงมูลค่าผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่จะรวมถึงค่าใช้จ่ายในการแจ้งเตือน การทำลายหรือค่าใช้จ่ายในการส่งคืนผลิตภัณฑ์ที่ถูกเรียกคืน
@เงื่อนไข ภาระ และการยกเลิกข้อตกลง
1.ข้อตกลงนี้จะมีผลในวันที่มีผลบังคับใช้เมื่อคู่สัญญาลงนาม
2.ฝ่ายหนึ่ง ("แจ้งให้ฝ่าย") มีสิทธิที่จะยกเลิกข้อตกลงนี้ทันทีด้วยลายลักษณ์อักษรแล้วแจ้งให้อีกฝ่ายหาก
(I) อีกฝ่ายหนึ่งได้ละเมิดข้อตกลงนี้ เป็นผลให้ไม่สามารถดําเนินการต่อหรือไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ของข้อตกลงนี้ได้ หรือ
(ii) อีกฝ่ายหนึ่งไม่สามารถใช้มาตรการแก้ไขปัญหา ภายในระยะเวลาที่เหมาะสมที่ระบุไว้ในหนังสือแจ้งที่ส่งโดยฝ่ายแจ้งหลังจากฝ่ายละเมิดได้ละเมิดข้อตกลงนี้ หรือ
(iii)อีกฝ่ายหนึ่งล้มละลาย,ถูกคุกคาม,มีประเด็นเรื่องของกระบวนการเพื่อชำระบัญชี,ยุบกิจการ,หยุดดำเนินธุรกิจหรือไม่สามารถชำระหนี้ได้หรือ
3.ข้อมูลปกปิด
@การยุติข้อพิพาท
1.ข้อตกลงนี้อยู่ภายใต้การบังคับของกฎหมายภายใต้ราชอาณาจักรไทย
2.ถ้าหากมีประเด็นข้อพิพาทใดๆที่เกี่ยวกับข้อตกลงนี้หรือในการดำเนินการดังกล่าวจะต้องมีการยุติข้อพิพาทด้วยวิธีการอย่างมิตรผ่านกระบวนการเจรจา
โดยถ้าเป็นกรณีที่ไม่มีการระงับหรือไม่มีข้อตกลงร่วมกันเกิดขึ้น ขอบเขตของช่วงเวลาที่จะมีการเจรจานั้นสามารถที่จะขยายไปได้ถึง 2 เดือนนับจากเวลาที่มีข้อพิพาทเกิดขึ้น ซึ่งถ้าหากยังไม่สามารถยุติข้อพิพาทได้ ข้อพิพาทนั้นจะถูกส่งไปยังศูนย์อนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศของสิงคโปร์หรือ SIAC เพื่อให้ตัดสินข้อพิพาทโดยอนุญาโตตุลาการภายใต้กฎอนุญาโตตุลาการของ SIAC ซึ่งจะมีผลบังคับใช้หลังจากที่มีการส่งหนังสืออนุญาโตตุลาการเกิดขึ้น
ซึ่งกระบวนการอนุญาโตตุลาการนั้นจะเกิดขึ้นในประเทศสิงคโปร์และการตัดสินใจของ SIAC จะถือเป็นที่สุดและมีผลผูกพันกับทุกฝ่าย โดยค่าธรรมเนียมอนุญาโตตุลาการนั้น ฝ่ายผู้ที่แพ้ในข้อพิพาทจะต้องเป็นผู้ที่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเหล่านี้
อนึ่ง สำหรับกรณีที่ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรา ได้เคยรวบรวมข้อมูลการอนุมัติงบประมาณของรัฐบาลในการจัดซื้อวัคซีนป้องกันโควิด พบว่า มีการจัดซื้อวัคซีนในส่วนของซิโนแวคประมาณ 2.5 ล้านโดส
โดยข้อมูลการจัดซื้อวัคซีนซิโนแวค จำนวน 5 แสนโดส นั้น จากการตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 27 เม.ย.2564 ที่ประชุม ครม. รับทราบรายละเอียดโครงการจัดหาวัคซีนจาก บริษัท Sinovac Biotech จำกัด เพิ่มเติม 500,000 โดส กรอบวงเงิน 321.60 ล้านบาท โดยให้ใช้เงินจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
ขณะที่ข้อมูลในหนังสือข้อตกลงจัดซื้อวัคซีนซิโนแวค ที่องค์การเภสัชกรรม ส่งมอบให้อิศรา ระบุ จำนวนการสั่งซื้ออยู่ที่ 5 แสนโดส
ทำให้เกิดข้อสังเกตว่า ข้อมูลการจัดซื้อวัคซีนซิโนแวคก่อนหน้านั้น จำนวนกว่า 2 ล้านโดส องค์การเภสัชกรรม ไม่ได้ส่งมอบให้อิศรา ด้วยนั้น
(อ่านประกอบ : เช็กยอด ครม.บิ๊กตู่ อนุมัติซื้อวัคซีนโควิด ไฉนเปิดเผยสัญญาเอกชนไม่ได้?)
สำนักข่าวอิศรา จะทำการติดต่อ องค์การเภสัชกรรม เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเรื่องนี้เพิ่มเติมต่อไป
เมื่อได้รับคำยืนยันเป็นทางการแล้ว จะนำมาเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบอีกครั้ง
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/