สปสช.ปรับรอบการจ่ายเงินชดเชยค่าบริการแก่หน่วยบริการให้เร็วขึ้นจากทุกๆ 1 เดือนเป็นทุกๆ 15 วัน หวังเพิ่มสภาพคล่องโรงพยาบาลรับมือการระบาดของโควิด-19 ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
.......................................
นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า สปสช.ได้พิจารณาแนวทางการจ่ายเงินชดเชยค่าบริการแก่หน่วยบริการให้มีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น จากเดิมที่มีรอบการจ่ายทุกๆ 1 เดือน เป็นทั้งนี้เพื่อเป็นการเพิ่มสภาพคล่องให้แก่หน่วยบริการโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่โควิด-19 กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้
นพ.จเด็จ กล่าวว่า การปรับระบบการจ่ายเงินชดเชยค่าบริการให้รวดเร็ว เป็นหนึ่งในเป้าหมายที่ สปสช. ตั้งใจดำเนินการอยู่แล้วและได้พัฒนาปรับปรุงระบบสารสนเทศเพื่อรองรับการดำเนินงานดังกล่าวตลอดมา ซึ่งเป้าหมายที่ตั้งใจนั้น อยากให้มีลักษณะของการจ่ายเงินให้รวดเร็วขึ้น เมื่อหน่วยบริการให้บริการทางการแพทย์แก่ประชาชนเสร็จก็สามารถส่งเบิกแล้วได้รับเงินชดเชย อย่างไรก็ตาม การปรับระบบที่มีข้อมูลขนาดใหญ่เช่นนี้อาจจะต้องใช้เวลาอีกสักระยะ ดังนั้นในเบื้องต้นจึงเริ่มที่รอบการจ่ายทุกๆ 15 วันก่อน
"เราหวังว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะช่วยให้หน่วยบริการมีสภาพคล่องที่ดีขึ้น โรงพยาบาลมีศักยภาพในการรับมือกับสถานการณ์ระบาดได้มีประสิทธิภาพ มีความยืดหยุ่น ปรับตัวตอบสนองกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปทุกวันได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนั้นในเรื่องของการตรวจสอบการเบิกจ่ายงบประมาณ สปสช.ได้ปรับระบบให้มีการพิสูจน์ตัวตนประชาชนก่อนการใช้บริการเพื่อป้องกันการสวมสิทธิ์ และได้พัฒนาระบบการตรวจสอบก่อนการจ่ายด้วยการใช้เทคโนโลยี AI เพื่อควบคุมและกำกับการเบิกจ่ายให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น" นพ.จเด็จ กล่าว
สำหรับสถิติการเบิกจ่ายเงินชดเชยค่าบริการที่เกี่ยวกับโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณที่ผ่านมา จนถึงเดือน มี.ค. 2564 มีจำนวนการเข้ารับบริการแบ่งเป็นการตรวจคัดกรอง 781,625 ครั้ง เป็นเงินจำนวน 1,862,074,025 บาท บริการการรักษาโรค 31,488 ครั้ง เป็นเงินจำนวน 1,499,523,760 บาท