‘พล.ต.อ.ต่อศักดิ์’ ปัดตอบปม 'ป.ป.ช.'ซุก ‘บ้าน’ ที่อังกฤษ ยืนยันไม่กดดันพนักงานสอบสวน สน.เตาปูน ทำคดีเว็บพนันออนไลน์ ชี้ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย พร้อมมอบ 5 นโยบายปราบอาชญากรรม 'เร่งด่วน'
....................................
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 9 ก.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยกรณี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม แจ้งความดำเนินคดีว่าเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ในพื้นที่ สน.เตาปูน ว่า เรื่องดังกล่าวให้เป็นไปตามกระบวนการขั้นตอนของกฎหมาย และไม่ได้ลงไปกดดันการทำงาน ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่จะต้องดำเนินการไปตามขั้นตอน
ส่วนเรื่องที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีการกล่าวหาว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ร่ำรวยผิดปกติ และไม่ได้แสดงบัญชีทรัพย์สินเป็นบ้านสองหลังที่ประเทศอังกฤษนั้น พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า เป็นคนละส่วนกับคดีที่ สน.เตาปูน
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบย้ำเกี่ยวเรื่องบ้านสองหลังที่ประเทศอังกฤษที่ปรากฏเป็นข่าว แต่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม
ส่วนกรณีที่เมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ได้เดินทางไปพบ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาลนั้น พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ยืนยันว่า ไม่มีการพูดคุยเรื่องที่นายกรัฐมนตรี ถูก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ฟ้องดำเนินคดีตามมาตรา 157 หรือคดีอื่นๆแต่อย่างใด เป็นเพียงการมอบนโยบายเร่งด่วนเกี่ยวกับปัญหายาเสพติดและพนันออนไลน์เท่านั้น
วันเดียวกัน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ได้เป็นประธานการประชุมปราบปรามอาชญากรรมตามนโยบายสำคัญเร่งด่วน 5 ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ได้เเก่ เรื่องของการปราบปรามยาเสพติด ,เรื่องการลักลอบนำเข้าสุกรผิดกฎหมาย ,เรื่องการลักลอบสินค้าหนีภาษีเข้ามาภายในประเทศตามแนวชายแดน ,การปราบปรามเรื่องของธุรกิจสีเทาของชาวต่างชาติ ในพื้นที่กรุงเทพฯมหานคร และจังหวัดอื่นๆ รวมถึงเรื่องการปราบปรามเว็บไซต์พนันออนไลน์
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวถึงผลการประชุมฯ ว่า การประชุมวันนี้ถือเป็นการเร่งรัดการทำงานในไตรมาสสุดท้าย แต่ยืนยันวันที่ผ่านมาที่ ตร.ได้ดำเนินการตามนโยบายและข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ในการปราบปรามอาชญากรรมทุกรูปแบบ มาโดยตลอดและมีผลการจับกุมจำนวนมากในปีที่ผ่านมา แต่ยังไม่เป็นพอใจของประชาชน ซึ่งหลังจากนี้จะต้องดำเนินการเรื่องการประชาสัมพันธ์ผลงานของตำรวจให้มากขึ้น และให้ผลลัพธ์เป็นตัวชี้วัด
ส่วนอายุราชการที่เหลืออยู่จะเพียงพอในการดำเนินการหรือไม่นั้น มั้นใจว่าพร้อมจะดำเนินการอย่างเต็มที่ เพราะมีการบูรณาการร่วมกันหลายฝ่าว ทั้งทหาร และฝ่ายปกครอง พร้อมส่งต่อให้กับผบ.ตร.คนต่อไป เนื่องจากเป็นหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว