นักเรียนมัธยมจากหลายสถาบันชุมนุมหน้า ก.ศึกษาฯ -รมว.ศธ.ร่วมดีเบตกับตัวแทนนักเรียน เผยยินดีนำปัญหามาพูดคุย ไม่ซุกไว้ใต้พรม เชื่อมั่นครูเข้าใจการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ของนักเรียนมากขึ้นแล้ว-ตัวแทนนักเรียนชี้ ควรบรรจุอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กไว้ในหลักสูตรก.ศึกษาฯ-ชี้ การคุกคามนักเรียนยังมีอย่างต่อเนื่อง บางร.ร.อนุญาตให้ตร.เข้ามาเพื่อจับนักเรียน -เผย นักเรียนไทยมีสุขภาพจิตที่ย่ำแย่ หลายรายต้องพบจิตแพทย์ แต่ก.ศึกษาฯกลับไม่มีงบประมาณรองรับในส่วนนี้-หลังจบดีเบต นักเรียนมอบของที่ระลึกให้ 'ณัฏฐพล' มีหนังสือเรียน-ไม้เรียว-ขนมปูไทย-ซาหริ่ม กล่องน้ำกะทิและนกหวีดจำนวน 44 อัน
.......................................
วันที่ 5 ก.ย.2563 นักเรียนมัธยมจากหลากหลายสถาบัน ชุมนุมที่หน้ากระทรวงศึกษาธิการ เน้นย้ำข้อเรียกร้องต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการคือหยุดคุกคามนักเรียน ยกเลิกกฎระเบียบที่ล้าหลัง ปฏิรูปการศึกษา และหากทำไม่ได้ตามข้อเรียกร้องขอให้ลาออก
เวลาประมาณ 16: 00 น. มีตัวแทนนักเรียนจากโรงเรียนในกรุงเทพมหานครและตัวแทนนักเรียนจาก จ.เชียงใหม่ ขึ้นกล่าวปราศรัย นักเรียนรายหนึ่งกล่าวว่า การคุกคามนักเรียนในสถานศึกษามีมาโดยตลอด ทั้งกรณีที่นักเรียนโดนตี โดนด่า การข่มขู่คุกคามทางเพศ การบังคับให้นักเรียนมีเพศสัมพันธ์กับครูเพื่อแลกเกรด ส่วนกรณีการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ด้วยการชูสามนิ้ว การคุกคามที่ร้ายแรงคือ การที่ครูให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาในโรงเรียนเพื่อจะมาจับนักเรียน
นักเรียนอีกรายหนึ่งกล่าวถึงความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา การยัดเยียดกฎระเบียบที่ไม่เป็นธรรมซึ่งสะท้อนผ่านแนวคิดเรื่องค่านิยม 12 ประการ ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ซึ่งเห็นได้จากการที่เด็กๆ ในหลายพื้นที่ต้องเดินทางไปเรียนในโรงเรียนที่อยู่ห่างไกลจากบ้าน ไม่มีโรงเรียนที่ดีอยู่ใกล้บ้าน เด็กจำนวนมากขาดเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการเรียนออนไลน์ การศึกษาไทยในวันนี้ “ไม่ใช่การศึกษาในยุค 4.0 แต่เป็นติดลบ 0.1” ตัวแทนนักเรียนรายนี้ระบุ และกล่าวเพิ่มเติมว่าการศึกษาในต่างประเทศมักเน้นให้เด็กเรียนรู้ด้วยตนเอง แต่การศึกษาไทย มักห้าม เพื่อไม่ให้เด็กเรียนรู้ อาทิ ห้ามเรื่องทรงผมหรือแม้แต่เด็กจะเล่นสเก็ตช์ในโรงเรียนก็ทำไม่ได้ นอกจากนี้ ยังไม่มีการเปิดกว้างเรื่องความหลากหลายทางเพศ วิชาสุขศึกษาไม่มีการให้ข้อมูลความรู้เรื่อง LGBTQ ว่าคืออะไร มีเพียงข้อมูลเกี่ยวกับรักร่วมเพศ ซึ่งไม่ได้ให้ความรู้เรื่องความหลากหลายทางเพศแต่อย่างใด
นักเรียนรายนี้ระบุด้วยว่า กระทรวงศึกษาธิการไม่มีการบรรจุความรู้เรื่องอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กไว้ในหลักสูตรการศึกษา ทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญที่เด็กควรต้องตระหนักในสิทธิของตน นอกจากนี้ เด็กนักเรียนไทย ในปัจจุบันมีสุขภาพจิตที่แย่เนื่องจากปัญหาต่างๆ “มีเด็กนักเรียนหลายคนต้องเข้าพบจิตแพทย์แต่ต้องเก็บเป็นความลับ และไม่มีงบประมาณให้นักเรียนสำหรับพบจิตแพทย์ โรงเรียนมีให้เพียงแต่ห้องแนะแนว ครูแนะแนว และแบบทดสอบแนะแนวที่ล้าหลัง” นักเรียนรายนี้ระบุ
ตัวแทนนักเรียนจาก จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า เราอยู่ในระบอบการศึกษาที่เขาอยากให้เราเป็น สอนให้เราพูดในชุดคำสั่งที่อยากให้พูด วันนี้เราจึงมาเรียกร้องเพื่ออนาคต
จากนั้น เวลาประมาณ 16:30 น.มีตัวแทนนักเรียนทำการแสดงและร่วมร้องเพลง ผู้ใหญ่เอ๋ย ผู้ใหญ่ดี ที่มีเนื้อหาสื่อถึงผู้ใหญ่ที่เปิดใจกว้างและมีเหตุผล รับฟังเด็ก รับฟังความคิดที่แตกต่าง เนื้อหาของเพลงมีรายละเอียดระบุว่า "ผู้ใหญ่เอ๋ยผู้ใหญ่ดี ต้องมีหน้าที่สิบอย่างด้วยกัน หนึ่งเปิดกว้างศาสนา สองเห็นค่ามนุษย์มั่น สามมีวิจารณญาณ สี่วาจานั้นไม่ยัดเยียดเหยียดหยาม ห้ายึดมั่นในเหตุผล หกเคารพคนคิดต่าง เจ็ดรับฟังเด็กบ้าง รับรู้โลกอย่างไม่กีดไม่ขวาง แปดอีโก้ต้องการขจัด เก้าต้องปรับตัวตลอดกาล โลกใหม่กว้างใหญ่ไพศาล ให้เหมาะกับกาล นานาชาติพัฒนา สิบทำตนให้เป็นประโยชน์ ทำผิดก็ขอโทษ อย่าโยนผิดให้ลูกหลาน ผู้ใหญ่สมัยชาติพัฒนา ต้องออกนอกกะลา ชาติไทยเจริญ"
เวลา 16 : 40 นางสาวณัฏฐา มหัทธนา นักกิจกรรม กล่าวบนเวที ว่าวันนี้มาในฐานะผู้ปกครอง มีการกล่าวทวน 3 ข้อเรียกร้องของนักเรียน และกล่าวถึงหลักการสำคัญของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก และอ่านบทกวี คาลิล ยิบราน
เวลา 17:00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาที่บริเวณเต็นท์ด้านหลังเวทีของนักเรียนซึ่งเป็นพื้นที่ของนักเรียนและเจ้าหน้าที่สตาฟท์จัดการชุมนุม เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาอาจจะออกมา ทำให้มีเหตุฉุกละหุกเล็กน้อย เนื่องจากมีสื่อมวลชนและประชาชนเบียดเสียดเพื่อรอถ่ายภาพรัฐมนตรีฯ จำนวนมาก ระหว่างนั้น ตัวแทนนักเรียนและนักเรียนผู้ร่วมชุมนุมได้ส่งเสียงเรียกร้องให้รัฐมนตรีออกมาพบ
ระทั่ง เวลา 17:30 น. นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ได้ออกมาจากกระทรวงศึกษาธิการเพื่อเดินทางมายังเต็นท์ด้านหลังเวทีเพื่อมาร่วมเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนความเห็น หรือดีเบตกับนักเรียน โดยระหว่างทางจากหน้ากระทรวงมาถึงเต็นท์ค่อนข้างเดินได้อย่างลำบากเนื่องจากมีสื่อมวลชนจำนวนมากรอถ่ายรูป
ในที่สุด นายณัฏฐพลได้ขึ้นเวทีเพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นกับตัวแทนนักเรียนจากกลุ่มที่เรียกตนเองว่านักเรียนเลว ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะผู้จัดงานวันนี้ ดำเนินการเสวนาโดยนายจักรกฤต โยมพะยอม หรือครูทอม
ตัวแทนนักเรียนตั้งคำถามถึงการแก้ปัญหาในประเด็นการคุกคามนักเรียน ที่ไม่ใช่เพียงการคุกคามเรื่องที่นักเรียนแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ผ่านการชูสามนิ้ว หรือผูกโบว์ขาว แต่หมายรวมถึงการคุกคามที่มีมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน เช่นการตีเด็ก และกฎหรือระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการก็ละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะระเบียบที่ว่าด้วยการลงโทษ ทำให้ทุกวันนี้ ยังมีเด็กนักเรียนที่ถูกตี
ตัวแทนนักเรียนได้ยกตัวอย่าง กรณีไม่นานมานี้ มีครูในโรงเรียนแห่งหนึ่งที่ จ.ยโสธร ตบหน้าเด็กนักเรียนซึ่งปรากฏเป็นกระแสสังคม เมื่อสืบค้นข้อมูลก็พบว่า เมื่อปี 2554 ครูรายนี้ก็เคยใช้เข็มขัดฟาดเด็กนักเรียน และคณะกรรมการที่ทำการสอบสวนวินัยครูรายนี้เมื่อปี 2554 ก็เป็นครูใน ร.ร.เดียวกัน ครูรายนี้จึงยังคงสอนใน ร.ร.ต่อไปตามปกติ กระทั่งมาเกิดเหตุตบหน้านักเรียนอีกครั้ง จะมีแนวทางในการแก้ปัญหาการคุกคามนี้อย่างไร
ด้านนายจักรกฤต ผู้ดำเนินรายการ ถามนายณัฏฐพลถึงกรณีที่นักเรียนในโรงเรียนแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ หรือชุมนุมในโรงเรียน เป็นเรื่องที่ทำได้ใช่หรือไม่ เนื่องจากเมื่อเดือนสิงหาคม มีหนังสือจาก ก.ศึกษาธิการส่งถึงโรงเรียนให้เปิดพื้นที่รับฟังความเห็น เคารพสิทธิเสรีภาพของนักเรียน แต่เหตุใดจึงยังปรากฏว่ามีโรงเรียนหลายแห่งให้บุคคล เจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบเข้ามาในโรงเรียน และบางโรงเรียนมีการปิดรั้วไม่ให้นักเรียนจัดกิจกรรมชุมนุม
นายจักรกฤต กล่าวว่ายังมีกรณีที่ครูทำโทษนักเรียนแล้วเผยแพร่ผ่านแอปพลิเคชัน TikTok เผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย กรณีนี้นายณัฏฐพลเห็นคลิปดังกล่าวหรือไม่ เป็นการผิดระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการหรือไม่ และจะจัดการอย่างไร
นายณัฏฐพลกล่าวว่าหากเป็นการกระทำที่ผิดระเบียบย่อมจัดการแน่นอน ส่วนเรื่องการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เข้าใจว่าครูและบุคลากรทางการศึกษาจำนวนมากเข้าใจเกี่ยวกับการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ของนักเรียนแล้ว เป็นสิ่งที่ทำได้ ตราบใดที่อยู่ในโรงเรียนและไม่ก้าวก่ายสิทธิของคนอื่น นอกจากนี้ นายณัฏฐพลกล่าวถึงการแก้ปัญหากรณีการคุกคามทางเพศนักเรียน ที่ดำเนินการให้มีการตรวจสอบ ดำเนินการลงโทษอย่างจริงจัง จะไม่ปล่อยให้ผู้กระทำผิดอยู่ในวงจรของระบบการศึกษาอีก
ผู้ดำเนินรายการและตัวแทนนักเรียนสอบถามในกรณีที่หากมีคลิปที่ครูคุกคามหรือละเมิดสิทธินักเรียนในกรณีต่างๆ สามารถส่งคลิปเพื่อร้องเรียนมายังกระทรวงศึกษาธิการได้หรือไม่ โดยที่เด็กนักเรียนไม่จำเป็นต้องเปิดเผยชื่อตนเองแต่ระบุชื่อโรงเรียน เนื่องจากเมื่อมีกรณีที่เด็กนักเรียนถูกคุกคามแล้วนักเรียนอัดคลิปเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย ที่ผ่านมา แทนที่ครูจะดำเนินการตรวจสอบครูผู้ที่ละเมิดสิทธินักเรียน แต่กลับตามหาตัวนักเรียนที่เผยแพร่คลิปเพื่อจะลงโทษนักเรียน นายณัฏฐพลตอบว่าส่งคลิปร้องเรียนมาได้ และย้ำว่า "ขอให้เอาปัญหาต่างๆ ออกมาพูด มากางบนโต๊ะ ไม่ต้องไปซุกไว้ใต้พรม อะไรที่เป็นปัญหาขอให้เอามาพูดคุยกัน" นายณัฐพลระบุและกล่าวเพิ่มเติมว่า สังคมครูก็มีทั้งครูที่ดีและไม่ดี ครูที่ดีก็ยังมีอยู่อีกมากไม่ต่างจากในทุกสังคมที่ย่อมมีทั้งคนดีและคนไม่ดี
หลังจบการดีเบต ตัวแทนนักเรียนได้มอบของที่ระลึก ให้นายณัฏฐพล ซึ่งมีสิ่งของหลากหลายอาทิ หนังสือเรียน ไม้เรียว ขนมยี่ห้อปูไทย ขนมซาหริ่ม กล่องน้ำกะทิ และนกหวีดจำนวน 44 อัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กิจกรรมการชุมนุมและปราศรัยของนักเรียนจบลงในเวลาประมาณ 19 : 00 น.
ทั้งนี้ การชุมนุมมีการปิดเส้นทางการจราจรไม่ให้รถสัญจรผ่านเส้นทางเข้าสู่ด้านหน้ากระทรวงศึกษาธิการฝั่งพื้นที่ตรงข้ามน้ำพุ เยื้องกับอาคารสหประชาชาติ ถนนราชดำเนินนอก โดยมีตำรวจจราจรปฏิบัติหน้าที่อยู่หน้าแนวเหล็กกั้นและมีนักเรียนคอยตรวจกระเป๋าผู้เข้าชุมนุมเพื่อความปลอดภัย โดยมีการกั้นทางเข้า แยกสำหรับหญิงและชาย
นอกจากนี้ บริเวณชุมนุม มีภาพศิลปะจาก 'ไข่แมว' ศิลปินวาดภาพล้อการเมือง มีภาพวาดนักเรียน ภาพน้องตาใสและมีภาพล้อนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ในอิริยาบทต่างๆ และรอบๆ แนวกำแพงกระทรวงศึกษาธิการ มีการวางพวงหรีดที่ระบุข้อความต่อต้านเผด็จการจากหลายกลุ่มหลายโรงเรียน
อ่านประกอบ :
ขอเวลาขับเคลื่อนนโยบาย! 'ณัฐพล'รับข้อร้องเรียนม็อบ นร.-ลั่นถูกจี้ลาออกคือการคุกคาม
ศธ.มีหนังสือด่วนถึงสถานศึกษา ให้ส่งเสริมสิทธิเสรีภาพ-รับฟังความคิดเห็นนักเรียน
ด่าทอ-ตบตี-เข้าห้องปค.! นร. 'ชูสามนิ้ว' หน้าก.ศึกษา เรียกร้อง รมว.แก้ปัญหาถูกคุกคาม
ไขปรากฏการณ์ 'ชูสามนิ้ว-ผูกโบว์ขาว-ชูกระดาษเปล่า' ระบาดโรงเรียนมัธยมทั่วปท.
อ่านนัยประกาศ 'ร.ร.ราชินี' ปรากฎการณ์ชิงพื้นที่ต่อรองสิทธิเสรีภาพ 'นร.-ครู-ศิษย์เก่า'
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/