'อิศรา' อัพเดตความเคลื่อนไหวสถานการณ์โคโรน่าไวรัสทั่วโลกล่าสุด ยอดสะสม 13.6 ล้าน - 'WHO-ยูนิเซฟ' เตือนชีวิตเด็กนับล้านอยู่ในอันตรายขาดฉีดวัคซีนเสริมภูมิคุ้มกัน 'หัด-บาดทะยัก-คอตีบ' หลังโควิด - 'ทรัมป์' เผยมีข่าวดีเกี่ยวกับวัคซีน- ปธน.บราซิลเข้าตรวจเชื้อซ้ำเจอผลบวกเหมือนเดิม - 'รัสเซีย' ผลทดลองวัคซีนน่าพอใจ-ผู้ว่าฯ โอกินาว่ายื่นหนังสือ รมว.กห.ญี่ปุ่น จี้ทัพสหรัฐฯ คุมนาวิกโยธิน เจอยอดติดเชื้อพุ่ง 136 ราย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หรือโคโรน่าไวรัสล่าสุด ว่า ในช่วงเช้าวันที่ 16 ก.ค. 2563 ตามเวลาประเทศไทย เว็บไซต์ World Meter ได้รายงานจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 13,681,062 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 231,621 ราย เสียชีวิต 586,127 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 5,688 ราย
ขณะที่องค์การนิรโทษกรรมสากลหรือแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ได้ออกมาเปิดเผยรายงานว่า ณ เวลานี้มีบุคลากรทางการแพทย์เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด 19 ไปแล้วจำนวน 3,000 ราย
ส่วนทางด้าน องค์การอนามัยโลกหรือ WHO และองค์การปกป้องสิทธิเด็กหรือยูนิเซฟ ได้ออกมาเตือนว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ทำให้เด็กหลายคนพลาดโอกาสในการฉีดวัคซีนเพื่อเสริมภูมิคุ้มกันโรคหัด โรคคอตีบ และโรคบาดทะยัก ทำให้ชีวิตเด็กจำนวนหลายล้านคนทั่วโลกตกอยู่ในอันตราย พร้อมเรียกร้องให้หลายประเทศหามาตรการเพื่อช่วยเหลือเด็กเหล่านี้โดยเร็วที่สุด
สำหรับสถานการณ์ใน ทวีปอเมริกาเหนือ สหรัฐอเมริกา ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสม ผู้ติดเชื้อรายวัน และผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุดในโลก จำนวนผู้ติดเชื้อล่าสุดอยู่ที่ 3,615,711 ราย ติดเชื้อรายใหม่ 70,634 ราย เสียชีวิต 140,100 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 957 ราย
สำหรับรัฐ ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดในสหรัฐฯ คือ รัฐเท็กซัส มีผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งสิ้น 11,395 ราย
ส่วนสถานการณ์อื่นๆ ในประเทศสหรัฐฯ มีรายงานว่าได้มีการเปลี่ยนแปลงระบบรายงานตัวเลขผู้เข้ารักษาในโรงพยาบาลของสหรัฐฯ จากเดิมที่จะต้องส่งตัวเลขผู้เข้ารักษาในโรงพยาบาลทั้งหมดไปให้กับศูนย์ควบคุมโรคสหรัฐฯ หรือซีดีซีเพื่อจะรายงานผลต่อไป เปลี่ยนมาเป็นรูปแบบการส่งข้อมูลตัวเลขผู้เข้ารักษาโรงพยาบาลในประเทศทั้งหมดไปให้กับข้อมูลส่วนกลางที่ทำเนียบขาว ที่กระทรวงสาธารณสุขและการให้บริการมนุษย์จะเป็นผู้ดูแลข้อมูลส่วนกลางนี้และทำหน้าที่เปิดเผยตัวเลขข้อมูลต่อไป
โดยทางทำเนียบขาว ชี้แจงว่า สาเหตุที่ต้องมีการเปลี่ยนระบบการให้ข้อมูลเนื่องจากว่าข้อมูลที่ทางซีดีซีรายงานนั้น มีความช้ากว่าสถานการณ์จริงไปประมาณ 1 สัปดาห์
ขณะที่ นายแอนโทนี่ ฟาวซี่ ผู้อำนวยการสถาบันโรคติดเชื้อและโรคภูมิแพ้ของสหรัฐ หนึ่งในคณะทำงานพิเศษเพื่อต่อต้านโรคระบาดของทำเนียบขาวออกมาคาดการณ์ว่าสหรัฐฯน่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายเกี่ยวกับวัคซีนที่สถาบันโรคติดเชื้อฯร่วมพัฒนากับบริษัท Modernaเพื่อใช้รักษาโรคโควิด 19 ได้ก่อนสิ้นปี 2564 สอดคล้องกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ออกมาทวิตผ่านทวิตเตอร์เพียงสั้นๆว่า "มีข่าวที่ดีมากเกี่ยวกับวัคซีน"
ทวิตเตอร์ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ
สำหรับสถานการณ์ในประเทศเม็กซิโก มีผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 311,486 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 7,051 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 36,327 ราย เป็นผู้เสียชีวิตใหม่ 836 ราย
ทวีปอเมริกาใต้บราซิล มียอดผู้ติดเชื้อสะสมอันดับ 1 ของทวีปและเป็นอันดับ 2 ของโลก จำนวนผู้ติดเชื้อมีทั้งสิ้น 1,970,909 ราย ติดเชื้อใหม่ 39,705 ราย เสียชีวิต 75,523 ราย เสียชีวิตใหม่ 1,261 ราย ทำให้บราซิลกลายเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตใหม่เป็นอันดับ 1 ของโลก
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า นายฌาอีร์ โบลโซนารู ประธานาธิบดีบราซิลซึ่งก่อนหน้านี้ถูกตรวจว่าติดโควิด 19 ได้ตัดสินใจเข้ารับการตรวจอีกครั้ง ซึ่งผลการตรวจก็ยังคงออกมาเป็นผลบวกเช่นเดิม
ทวีปยุโรปประเทศรัสเซีย มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด 746,369 ราย ติดเชื้อใหม่ 6,422 ราย เสียชีวิต 11,770 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 156 ราย
ขณะที่กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ได้ออกมาเปิดเผยรายงานทดลองการรักษาในอาสาสมัครจำนวน 18 คนว่า วัคซีนนั้นมีความปลอดภัยและสามารถใช้งานได้ดี โดยไม่พบผลข้างเคียงในกลุ่มผู้ที่รับวัคซีนแต่อย่างใด
ทวีปเอเชียอินเดีย ยังคงมีผู้ติดเชื้อเป็นอันดับ 1 ของทวีป มีผู้ติดเชื้อสะสม 970,169 ราย ติดเชื้อใหม่ 32,682 ราย เสียชีวิตสะสม 24,929 ราย เสียชีวิตใหม่ 614 ราย
สำหรับ ประเทศจีน มีการระบาดใหม่จำนวน 3 ราย โดยเป็นการระบาดจากต่างประเทศทั้งหมด และทางการจีนยังได้มีการเปิดเผยตัวเลขผู้ติดเชื้อแบบไร้อาการพบว่า มีจำนวน 110 ราย โดย 87 รายเป็นผู้ติดเชื้อแบบไร้อาการที่มาจากต่างประเทศ
ขณะที่เขตปกครองพิเศษฮ่องกง มีผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 19 ราย
ที่ประเทศญี่ปุ่น มีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่จำนวน 450 ราย โดยจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งหมด 165 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ในกรุงโตเกียว
ขณะที่จังหวัดโอกินาว่า มีรายงานการติดเชื้อโควิด 19 ในกลุ่มทหารนาวิกโยธินสหรัฐฯแล้วจำนวน 136 ราย ซึ่งทางด้านของนายเดนนี่ ทามากิ ผู้ว่าราชการจังหวัดโอกินาว่า ได้เข้ายื่นหนังสือกับนายทาโร่ โคโนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของประเทศญี่ปุ่นให้กดดันกองทัพสหรัฐฯ เพื่อจะหยุดยั้งการแพร่ระบาดที่เพิ่มขึ้น และขอให้ทางกองทัพสหรัฐฯ ได้ดำเนินการตรวจหาเชื้อไวรัสในกลุ่มบุคลากรที่เข้าออกฐานทัพอย่างละเอียด
นายเดนนี่ ทามากิ ผู้ว่าราชการจังหวัดโอกินาว่า (คนซ้าย) นายทาโร่ โคโนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (คนขวา)
สำหรับสถานการณ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน อินโดนีเซีย ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้ออันดับ 1 ในภูมิภาค มีผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุด 80,094 ราย ติดเชื้อใหม่ 1,522 ราย เสียชีวิตสะสม 3,797ราย เสียชีวิตใหม่ 87 ราย ทำให้อินโดนีเซีย ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงที่สุดในอาเซียน
ส่วนประเทศเพื่อนบ้านของไทยนั้น ประเทศมาเลเซีย มีผู้ติดเชื้อใหม่ 5 ราย
ทวีปแอฟริกาประเทศแอฟริกาใต้ ยังเป็นประเทศที่ติดเชื้ออันดับ 1 ในทวีป มีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 311,049 ราย ติดเชื้อใหม่ 12,757 ราย เสียชีวิต 4,453 ราย เสียชีวิตรายใหม่ 107 ราย
ส่วน อียิปต์ มีผู้ติดเชื้อสะสม 84,843 ราย ติดเชื้อใหม่ 913 ราย เสียชีวิต 4,067 ราย เสียชีวิตใหม่ 59 ราย
ส่วนความเคลื่อนไหวในภูมิภาคโอเชียเนีย ออสเตรเลีย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 259 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ในรัฐวิกตอเรีย 238 ราย รัฐนิวเซาท์เวลส์ 13 ราย
ขณะที่ นิวซีแลนด์ มีผู้ติดเชื้อใหม่ 2 ราย
เรียบเรียงจาก:https://www.aljazeera.com/topics/events/coronavirus-outbreak.html,https://www.worldometers.info/coronavirus/,https://www.theguardian.com/world/coronavirus-outbreak
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage