กรมศุลฯจีน พบเชื้อโควิดในผลิตภัณฑ์บรรจุกุ้งแช่แข็งจาก 3 บริษัทสัญชาติเอกวาดอร์ เผยพนง.ต้นทางละเลยความปลอดภัยอาหาร เตรียมทำลายทิ้งพร้อมยกเลิกนำเข้าส่งกลับสินค้าอื่นด้วย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวอ้างอิงจากสำนักข่าวในประเทศจีน ระบุว่า กรมศุลกากรประเทศจีนหรือ GAC ได้แถลงข่าววันนี้ (10 ก.ค.)ว่า พบไวรัสโควิด 19 หรือโคโรน่าไวรัส ในผลิตภัณฑ์บรรจุกุ้งแช่แข็งที่นำเข้ามาจากประเทศเอกวาดอร์เมื่อวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา
โดยผลการตรวจ พบเชื้อโควิด 19 ทั้งด้านในและนอกผลิตภัณฑ์ที่บรรจุกุ้งแช่แข็ง เบื้องต้นทางการจีนได้ออกคำสั่งให้ระงับการนำเข้ากุ้งแช่แข็ง จากบริษัทส่งออกอาหารทะเลสัญชาติเอกวาดอร์จำนวน 3 แห่งแล้ว คือ 1.บริษัท Industrial Pesquera Santa Priscila S.A. 2. บริษัท Empacreci S.A., และ 3. บริษัท Empacadora Del Pacifico Sociedad Anonima Edpacif S.A.
ขณะที่นาย Bi Kexin ผู้อำนวยการแผนกความปลอดภัยด้านอาหารของ GAC ระบุว่า แม้ว่าจะมีการตรวจพบไวรัสโควิด 19 บนอาหารแช่แข็ง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไวรัสจะมีศักยภาพในการแพร่ระบาดต่อ อย่างไรก็ตาม การตรวจพบเชื้อโควิด 19 ดังกล่าวบ่งบอกถึงการที่บริษัทส่งออกอาหารแช่แข็งได้ละเลยความปลอดภัยทางด้านอาหาร ซึ่งกรมศุลกากรจะเพิ่มมาตการความปลอดภัยและการควบคุมไปถึงต้นตอของการนำเข้าอาหารแช่แข็งต่อไป
"ณ เวลานี้มีหลายประเทศที่มีแรงงานในภาคส่วนโรงงานอาหารแช่แข็งติดเชื้อโควิด 19 แต่ก็ยังคงทำงานอยู่ ซึ่งสร้างความเสี่ยงให้กับการนำปนเปื้อนไวรัสบนอาหารแช่แข็ง และเนื่องจากเหตุการณ์การระบาดดังกล่าว ประเทศจีนได้หยุดการนำเข้าผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์จากโรงงาน 23 แห่งในหลายประเทศรวมถึงประเทศบราซิล,อังกฤษ ,สหรัฐอเมริกา และเยอรมนีแล้ว" นาย Bi Kexinระบุ
รายงานข่าวแจ้งว่า กรมศุลกากรจีนยังได้ตรวจตัวอย่างอาหารแช่แข็งจากที่อื่นๆอีกจำนวน 227,934 รายการ แต่เป็นผลลบไม่มีเชื้อโควิด 19 แต่อย่างใด ส่วนผลิตภัณฑ์กุ้งที่พบเชื้อโควิด 19 นั้น ทางการจีนได้ส่งไปที่ท่าเรือในเมืองต้าเหลียนและเซียะเหมินเพื่อจะเข้าสู่กระบวนการทำลายแล้ว เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็ง ที่มาจากบริษัทสัญชาติเอกวาดอร์ทั้ง 3 แห่ง นับตั้งแต่ัวันที่ 12 มี.ค.เป็นต้นมา ก็จะต้องเข้าสู่กระบวนการทำลาย หรือถูกส่งกลับเช่นกัน
เรียบเรียงจาก:https://www.straitstimes.com/asia/east-asia/china-points-to-shrimp-as-coronavirus-carrier-after-salmon-debacle
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/