'อิศรา' อัพเดตความเคลื่อนไหวสถานการณ์โคโรน่าไวรัสทั่วโลกล่าสุด ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 11.5 ล้าน - 239 นักวิทยาศาสตร์ ส่งจม.เปิดผนึกเตือน ' WHO' เชื้อไวรัสแพร่ผ่านอากาศได้โดยไม่ต้องอาศัยละออง -'เปรู' ปท.ที่ 5 ติดเชื้อสะสมทะลุ 3 แสน- 'กาลิเซีย' ในสเปนประกาศปิดเมือง หลังเจอผู้ติดเชื้อพรวด 117 ราย - ผลเลือกตั้ง 'ผู้ว่าโตเกียว'ยังได้ไปต่อ แม้ยอดติดเชื้อรายวัน 111 ราย- ล่าสุด 'ฟิลิปปินส์' ติดเชื้อรายวันพุ่ง 2,424 ราย สูงสุดในอาเซียน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หรือโคโรน่าไวรัสล่าสุดว่า ในช่วงเช้าวันที่ 6 ก.ค. 2563 ตามเวลาประเทศไทย เว็บไซต์ World Meter ได้รายงานจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 11,536,493 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 171,450 ราย เสียชีวิต 536,392 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 3,519ราย
ส่วนสถานการณ์ใน ทวีปอเมริกาเหนือ สหรัฐอเมริกา ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสม ผู้ติดเชื้อรายวัน และผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุดในโลก จำนวนผู้ติดเชื้อล่าสุดอยู่ที่ 2,976,175 ราย ติดเชื้อรายใหม่ 40,405 ราย เสียชีวิต 132,546 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 228 ราย
รัฐฟลอริดา ยังคงเป็นรัฐที่มีผู้ติดเชื้อใหม่สูงสุดอยู่ที่ 10,059 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมในรัฐไปอยู่ที่ 200,111 ราย
ส่วนสถานการณ์อื่นๆในสหรัฐฯ มีรายงานข่าวจากสำนักข่าวนิวยอร์กไทม์ว่า นักวิทยาศาสตร์จำนวน 239 คน จาก 32 ประเทศทั่วโลก ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงองค์การอนามัยโลกหรือ WHO เพื่อให้พิจารณาคำเตือนเกี่ยวกับการเฝ้าระวังการติดเชื้อโควิด 19 เนื่องจากพบหลักฐานว่าเชื้อโควิด 19 นั้นมีความสามารถในการแพร่เชื้อทางอากาศด้วยอนุภาคต่ำกว่า 5 ไมครอนได้ หรือที่เรียกกันว่าการแพร่เชื้อแบบ Airborne
นักวิทยาศาสตร์กลุ่มใหญ่นี้ ได้อธิบายต่อว่า การแพร่เชื้อแบบ Airborne หมายความว่าอนุภาคไวรัสจะสามารถลอยอยู่ในอากาศได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ปิดได้นานกว่าเดิม และจะแพร่เชื้อใส่ผู้ที่หายใจเอาอนุภาคนี้เข้าไป
ซึ่งการออกมาให้ข้อมูลของนักวิทยาศาสตร์ดังกล่าว ขัดแย้งกับข้อมูลของ WHO ก่อนหน้านี้ที่ระบุว่าการแพร่เชื้อไวรัสนั้นจะเกิดจากกรณีที่ผู้ติดเชื้อไอหรือจาม แล้วมีละอองที่ปนเปื้อนไวรัสไปโดนใบหน้า และระบบทางเดินหายใจของผู้อื่นเท่านั้น แต่เฉพาะตัวไวรัสจะไม่สามารถอยู่ในอากาศได้นานและจะหายไปอย่างรวดเร็วเพราะขนาดที่เล็กมาก
“ถ้าหากไวรัสมีความสามารถในการแพร่เชื้อแบบ Airborne จริงก็จะส่งผลต่อการควบคุมเชื้อเป็นอย่างยิ่ง เพราะแม้แต่จะมีการเว้นระยะทางสังคม การใส่หน้ากากแบบ N 95 ก็ยิ่งจำเป็นมากขึ้นไปอีกโดยเฉพาะกับในพื้นที่ปิด เพื่อจะกรองอนุภาคที่เล็กที่สุด และจะต้องมีมาตรการเพิ่มเติมในการจัดหาระบบฟอกอากาศในที่ปิดเพื่อที่จะกรองไวรัสโควิด 19 เพิ่มเติม” สำนักข่าวนิวยอร์กไทม์ระบุ
อ้างอิงวิดีโอจากช่อง Political World
สำหรับสถานการณ์โควิด ที่ประเทศเม็กซิโก มีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 252,165 ราย ติดเชื้อรายใหม่ 6,914 ราย เสียชีวิต 30,366 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 523 ราย
ทวีปอเมริกาใต้บราซิล มียอดผู้ติดเชื้ออันดับ 1 ของทวีปและเป็นอันดับ 2 ของโลก จำนวนผู้ติดเชื้อมีทั้งสิ้น 1,604,585 ราย ติดเชื้อใหม่ 26,209 ราย เสียชีวิต 64,900 ราย เสียชีวิตใหม่ 535 ราย ทำให้บราซิลกลายเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตเป็นอันดับ 1 ของโลก
ขณะที่ประเทศเปรูมีผู้ติดเชื้อใหม่ 3,638 ราย ทำให้ผู้ติดเชื้อสะสมของประเทศเปรูอยู่ที่ 302,718 ราย ประเทศเปรูจึงเป็นประเทศที่ 5 ของโลกที่มีผู้ติดเชื้อเกิน 3 แสนราย
ทวีปยุโรป ประเทศรัสเซีย มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด 681,251 ราย ติดเชื้อใหม่ 6,736 ราย เสียชีวิต 10,161 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 134 ราย
ขณะที่แค้วนกาลิเซีย ในประเทศสเปนซึ่งมีประชากรจำนวน 70,000 คน จะประกาศปิดเมืองเช่นกันหลังจากที่พบว่ามีผู้ติดเชื้อใหม่จำนวน 117 รายในเมืองลูโก
อ้างอิงรูปภาพจากบีบีซี
ทวีปเอเชีย อินเดีย ยังคงมีผู้ติดเชื้อเป็นอันดับ 1 ของทวีป มีผู้ติดเชื้อสะสม 697,836 ราย ติดเชื้อใหม่ 23,932 ราย เสียชีวิตสะสม 19,700 ราย เสียชีวิตใหม่ 412 ราย
ส่วนที่ประเทศจีน มีการระบาดใหม่จำนวน 8 ราย โดยเป็นการติดเชื้อในประเทศในกรุงปักกิ่ง 2 ราย
ที่ประเทศญี่ปุ่น มีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่จำนวน 208 ราย ในจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งหมด 111ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ในกรุงโตเกียว
ขณะที่สถานการณ์เพิ่มเติมที่กรุงโตเกียว มีรายงานว่า นางยูริโกะ โคอิเกะ ผู้ว่าการกรุงโตเกียวได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งต่ออีก 1 สมัย ภารกิจเร่งด่วนหลังจากการเลือกตั้งจะเป็นการจัดการกับการระบาดของไวรัสโควิด 19 พร้อมกับการประสานงานกับคณะกรรมการจัดการโอลิมปิกกรุงโตเกียว เพื่อให้กรุงโตเกียวสามารถเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกได้ในช่วงเดือน ก.ค. 2564
สำหรับสถานการณ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน นั้น อินโดนีเซีย ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้ออันดับ 1 ในภูมิภาค มีผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุด 63,749 ราย ติดเชื้อใหม่ 1,607ราย เสียชีวิตสะสม 3,171 ราย เสียชีวิตใหม่ 8 ราย ทำให้อินโดนีเซีย ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตสะสม และผู้เสียชีวิตรายใหม่สูงที่สุดในอาเซียน
ที่ประเทศฟิลิปปินส์มีผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งสิ้น 2,424 ราย ถือว่าสูงสุดนับแต่ที่มีการระบาดมา และยังทำให้ทำให้ฟิลิปปินส์มีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่สูงที่สุดในอาเซียน โดยยอดผู้ติดเชื้อสะสมของฟิลิปปินส์อยู่ที่ 44,254ราย
ส่วนประเทศเพื่อนบ้านของไทยนั้น ประเทศมาเลเซีย มีผู้ติดเชื้อใหม่ 5 ราย
ทวีปแอฟริกาประเทศแอฟริกาใต้ ยังเป็นประเทศที่ติดเชื้ออันดับ 1 ในทวีป มีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 196,750 ราย ติดเชื้อใหม่ 8,773 ราย เสียชีวิต 3,199 ราย เสียชีวิตรายใหม่ 173 ราย
ส่วนความเคลื่อนไหวในภูมิภาคโอเชียเนีย ออสเตรเลีย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 87 ราย ขณะที่ประเทศนิวซีแลนด์มีผู้ติดเชื้อใหม่ 3 ราย
เรียบเรียงจาก:https://www.aljazeera.com/topics/events/coronavirus-outbreak.html,https://www.worldometers.info/coronavirus/,https://www.theguardian.com/world/coronavirus-outbreak,https://www.bbc.com/news/coronavirus,https://www.nytimes.com/2020/07/04/health/239-experts-with-one-big-claim-the-coronavirus-is-airborne.html
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage