ประธานบอร์ด อสมท ร่อนหนังสือแจง ‘เทวัญ’ ยกข้อกฎหมายยันรัฐไม่มีอำนาจสั่งตรวจสอบผู้บริหารสูงสุด อสมท กรณีเงินเยียวยาคลื่น 2600 MHz กว่า 3.2 พันล้านบาทได้ เบรกสหภาพฯ อสมท ไม่สมควรก้าวก่ายบริหารจัดการภายใน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า จากกรณีนายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการจ่ายเงินเยียวยาคลื่น 2600 MHz จำนวน 3,235 ล้านบาท ให้กับบริษัท อสมท และบริษัท เพลย์เวิร์ค จํากัด ในสัดส่วน 50 ต่อ 50 โดยให้ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับผิดชอบนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา พล.ต.ท.จตุพล ปานรักษา ประธานบอร์ด อสมท ทำหนังสือถึงนายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องข้อร้องเรียนของสหภาพแรงงานฐวิสาหกิจ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยหนังสือดังกล่าว ระบุว่า ตามที่ท่านได้มีหนังสือให้ชี้แจงเกี่ยวกับการแต่งตั้งผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ของ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) และล่าสุดกรณีมีข่าวผ่านทางสื่อมวลชน เรื่อง การสั่งการให้ตรวจสอบผู้บริหารสูงสุดของ บมจ. อสมท เรื่องคลื่น 2600 MHz นั้น
ในนามประธานกรรมการ บมจ. อสมท ใคร่ขอเรียนให้ทราบว่า บมจ. อสมท เป็นรัฐวิสาหกิจประเภทบริษัทมหาชนจำกัด ที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติบริษัทหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม) โดยมีกระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และได้มีการกระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แล้ว
นอกจากนี้ บมจ. อสมท ยังอยู่ภายใต้การกำกับดูแลการประกอบกิจการของกระทรวงการคลัง โดยมีสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เป็นผู้ดำเนินการแทนกระทรวงการคลัง อันเป็นไปตามมาตรา 33 วรรค 3 แห่งพระราชบัญญัติการพัฒนาการกำกับดูแลและบริหารฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2562 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม)
อีกทั้ง บมจ. อสมท ยังคงต้องอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์การกำกับดูแลกิจการของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ อันเป็นไปตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 (และที่แก้ใขเพิ่มเติม) ดังนั้น บมจ. อสมท จึงไม่ได้เป็นรัฐวิสาหกิจด้วยกฎหมายจัดตั้ง หากแต่เป็นบริษัทมหาชนจำกัดที่เป็นรัฐวิสาหกิจตามนิยามในกฎหมายบางฉบับที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่าง บมจ. อสมท กับรัฐ ต้องเป็นไปในลักษณะของบริษัทกับผู้ถือหุ้นตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ.2535 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม) อย่างเคร่งครัด
โดยหน่วยงานของรัฐที่สามารถกำกับดูแล บมจ. อสมท ในฐานะผู้ถือหุ้นได้ จะต้องดำเนินการตามอำนาจที่มีทางกฎหมาย ซึ่งกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการกำกับดูแลกิจการของ บมจ. อสมท ประกอบด้วย พระราชบัญญัติการพัฒนาการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ พ.ศ.2562 (และที่แก้ไขเพิ่มติม) พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ.2561 พระราชบัญญัติสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. 2561 และพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 โดยกฎหมายที่นายกรัฐมนตรีเป็นผู้รักษาการ จะมีเพียงพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 และพระราชบัญญัติสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ต. 2561 เท่านั้น
ทั้งนี้ เมื่อนายกรัฐนตรีไต้มอบหมายและมอบอำนาจให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกำกับดูแล บมจ. อสมท ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐนตรี ที่ 165/2562 ลงวันที่ 30 กรกฎาคม 2562 ประกอบกับคำสั่งสำนักนายกรัฐนตรี ที่ 196/2562 ลงวันที่ 20 สิงหาคม 2562 โดยให้ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จึงเป็นการมอบอำนาจภายใต้พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 และพระราชบัญญัติสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพ.ศ. 2561 เท่านั้น
นอกจากนี้ ความสัมพันธ์ระหว่าง บมจ. อสมท และสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บมจ. อสมท ยังต้องเป็นไปตามพระราชบัญญัติแรงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ.2543 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม) ซึ่งเกี่ยวข้องกับสภาพการจ้างเท่านั้น ไม่สมควรก้าวก่ายการบริหารจัดการภายใน ซึ่งเป็นอำนาจของฝ่ายบริหารที่ได้รับมอบมาจากผู้ถือหุ้น เพราะจะเป็นการขัดต่อหลักการกำกับดูแลกิจการของ บมจ. อสมท โดยหากสหภาพแรงานรัฐวิสาหกิจ บมจ. อสมท มีประเด็นเกี่ยวกับสภาพการจ้างภายได้พระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ.2543 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม) ก็สามารถขอเจรจากับคณะกรรมการ บมจ. อสมท ได้โดยตรง
หรือหากมีประเด็นร้องเรียนในฐานะพนักงานบริษัท ก็สามารถยื่นเรื่องร้องเรียนไปที่ สคร. ในฐานะตัวแทนของกระทรวงการคลัง ภายใต้พระราชบัญญัติการพัฒนาการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ พ.ศ.2562 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม) หรือสามารถยื่นเรื่องร้องเรียนไปที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ซึ่งเป็นผู้รักษาการพระราชบัญญัติแรงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ.2543 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม) ได้เช่นกัน
จากที่กล่าวมาข้างตันทั้งหมด จึงขอเรียนให้ทราบว่า บมจ. อสมท จะสามารถดำเนินการตามที่ท่านร้องขอได้ หากดำเนินการตามกฎหมายและกระบวนการที่ถูกต้อง จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
อ่านประกอบ :
เบื้องลึก! กสทช. 'กลับลำ-กลับมติ' ปี 57 ว่าด้วยการใช้คลื่น 'อสมท -บ.เพลย์เวิร์ค'
‘พล.ต.ท.จตุพล’กก.อสมท ทรัพย์สิน 95 ล.รายได้ 58 ล.-‘พสุ’พ้นปลัดอุตฯเดือนเศษเพิ่ม 14 ล.
ตั้งกก.สอบข้อเท็จจริง! ปมแบ่งเงินเยียวยา ‘อสมท-เพลย์เวิร์ค’ 3.2 พันล.-'เทวัญ' ให้เวลา 15 วัน
แจงยิบปมเยียวยาคลื่น 2600! อนุกรรมการฯยึดบรรทัดฐานคลื่น 700-ยัน ‘อสมท’ ได้เปรียบ
เปิดตัว บ.เพลย์เวิร์คฯ ได้รับเงินเยียวยาคลื่นจาก 'กสทช.- อสมท' 1.6 พันล.
อาจใช้อำนาจมิชอบ! 'ปาริชาต'ท้วง’เขมทัตต์'ชง กสทช.แบ่งเงิน 1.6 พันล.ให้ ‘เพลย์เวิร์ค’
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/