บริษัท อสมท แจ้ง 3 กรรมการลาออกบอร์ดบริษัทฯ หลังปมแย้งแบ่งเงินเยียวยาคลื่น 2600 Mhz กว่า 3.2 พันล้าน ‘ศ.ปาริชาต’ ทำหนังสือทักท้วง กสทช. 1 วันก่อนลาออก ระบุ ‘เขมทัตต์’ ไม่มีอำนาจเสนอแบ่งเงินเยียวยาให้ ‘เพลย์เวิร์ค’ 50% ขณะที่กรรมการ อสมท.ถกบอร์ดขอลงมติชงเรื่องให้กสทช.ทบทวนใหม่ แต่ล่มกลางคัน หลังประธานบอร์ดสั่งปิดประชุม ด้าน ‘ผอ.อสมท’ ยันได้รับมอบอำนาจจากบอร์ดถูกต้องแล้ว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า กรรมการบริษัท 3 คน ได้มีหนังสือขอลาออกจากการเป็นกรรมการบริษัทฯและกรรมการเฉพาะ เนื่องจากมีภารกิจอื่นที่ต้องปฏิบัติ โดยกรรมการที่ลาออก ประกอบด้วย
1.นายพิเศษ จียาศักดิ์ ลาออกจากกรรมการอิสระ มีผลตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย.63
2.ศาสตราจารย์ปาริชาต สถาปิตานนท์ ลาออกจากกรรมการอิสระ มีผลตั้งแต่วันที่ 12 มิ.ย.63
และ3.นายมนตรี แสงหิรัญ ลาออกกรรมการอิสระและกรรมการตรวจสอบ มีผลตั้งแต่วันที่ 12 มิ.ย.63
บริษัท อสมท ระบุว่า บริษัทฯ จะได้ดำเนินการสรรหาและแต่งตั้งบุคคลซึ่งมีคุณสมบัติไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กำหนดในข้อบังคับบริษัท รวมถึงกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง และแจ้งผู้ถือหุ้นเพื่อทราบต่อไป
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า ก่อนการแจ้งการลาออกของกรรมการบริษัท อสมท ดังกล่าว เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.63 ศาสตราจารย์ปาริชาต สถาปิตานนท์ รองอธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ทำหนังสือถึงนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เรื่อง ขอทักท้วงหนังสือแจ้งยืนยันรายละเอียดและสัดส่วนการชดใช้ หรือจ่ายค่าตอบแทนในการเรียกคลื่นความถี่ย่าน 2500-2600 เมกะเฮิรตซ์ (นร.6100/1250 ลงวันที่ 4 มิ.ย.2563)
หนังสือดังกล่าวระบุว่า “ดิฉันนางสาวปาริชาต สถาปิตานนท์ กรรมการ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ขอทำหนังสือฉบับนี้ถึงท่าน เพื่อทักท้วงหนังสือแจ้งยืนยันรายละเอียดและสัดส่วนการชดใช้ หรือจ่ายค่าตอบแทนในการเรียกคลื่นความถี่ย่าน 2500-2600 เมกะเฮิรตซ์ (นร.6100/1250 ลงวันที่ 4 มิ.ย.2563) ซึ่งนายเขมทัตต์ พลเดช ได้ส่งถึงท่าน (เลขาธิการคณะรรมการการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ)
เนื่องด้วยหนังสือฉบับดังกล่าว อาจเป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบ และไม่เป็นไปตามข้อบังคับและระเบียบของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) รวมทั้งเป็นการกระทำที่มิได้กระทำบนพื้นฐานของการปกป้องประโยขนฺของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) และผู้ถือหุ้น ดิฉันจึงใคร่ขอทักห้วงเป็นหนังสือเพื่อให้เป็นหลักฐานไว้ ณ ที่นี้ จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ”
สำนักข่าวอิศรารายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมบอร์ดอสมท ที่มีพล.ต.ท.จตุพล ปานรักษา เป็นประธาน มีวาระพิจารณาสำคัญ คือ การพิจารณาเรื่องที่ประธานบอร์ดอสมท มอบอำนาจให้นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทำหน้าที่เจรจากับกสทช. ในการจัดสรรเงินเยียวยาคลื่น 2600 MHz ซึ่งกรรมการบางส่วนเห็นว่าการมอบอำนาจดังกล่าว อาจเป็นการกระทำอันมิชอบ
ซึ่งในการประชุมวาระดังกล่าว กรรมการหลายคนอภิปรายว่า ไม่เห็นด้วยกับการที่นายเขมทัตต์ ทำหนังสือถึงกสทช. โดยระบุว่าได้รับมอบอำนาจจากอสมท ก่อนที่ต่อมานายเขมทัตต์ จะเสนอให้กสทช.จัดสรรเงินเยียวยาที่ อสมท ได้รับผลกระทบจากการเรียกคืนคลื่น 2600 MHz วงเงิน 3,235.83 ล้านบาท ให้กับเอกชนคู่สัญญา คือ บริษัท เพลย์เวิร์ค จํากัด ในสัดส่วน 50% ของเงินที่ได้รับชดเชย หรือคิดเป็น 1,617.9 ล้านบาท
ทั้งนี้ เนื่องจากกรรมการฯเห็นว่าการมอบอำนาจให้ผู้ใดผู้หนึ่งทำหน้าที่ในฐานะตัวแทนองค์กรนั้น จะต้องมีมติของคณะกรรมการ อสมท เท่านั้น ไม่ใช่การมอบอำนาจของประธานบอร์ด อสมท
นอกจากนี้ กรรมการหลายคนได้เสนอว่า บอร์ดอสมท ควรมีมติให้ทำหนังสือไปถึงกสทช. ว่า การกระทำของนายเขมทัตต์ที่ผ่านมานั้น ไม่ได้กระทำโดยมติบอร์ดอสมท ทำให้นายเขมทัตต์ไม่มีอำนาจตามกฎหมาย พร้อมทั้งขอให้กสทช.พิจารณาเรื่องดังกล่าวใหม่ด้วย
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมวาระดังกล่าว พล.ต.ท.จตุพล ซึ่งไม่ได้อยู่กรุงเทพฯ และใช้วิธีประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเร้นท์จากจ.ขอนแก่น แจ้งว่าขอให้กรรมการพิจารณาเรื่องนี้กันเอง โดยไม่ขอร่วมพิจารณาด้วย ที่ประชุมจึงเลือกรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งมีอาวุโสสูงสุด ทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุมแทน แต่เมื่อพล.ต.ท.จตุพล กลับเข้ามาร่วมประชุมอีกครั้ง พล.ต.ท.จตุพล แจ้งขอเลื่อนการพิจารณาวาระดังกล่าวออกไป และสั่งปิดประชุม
ด้านนายเขมทัตต์ กล่าวกับสำนักข่าวอิศรา โดยยืนยันว่า ตนเองได้รับมอบอำนาจจากคณะกรรมการ อสมท ให้ทำหน้าที่ดำเนินการเจรจาเกี่ยวกับเงินเยียวยาที่ อสมท จะได้รับหลังจาก กสทช.ได้เรียกคืนคลื่น 2600 MHz ไปจากอสมท และที่ผ่านมาตนเองได้เจรจากับบริษัทคู่สัญญา เพื่อให้บริษัท อสมท ได้รับประโยชน์ตอบแทนสูงกว่าคู่สัญญา
“ผมได้รับมอบอำนาจจากคณะกรรมการฯให้ดำเนินการในเรื่องนี้ ไม่ว่าในเรื่องการเจรจากับคู่สัญญาเพื่อให้ อสมท ได้รับประโยชน์ตอบแทนที่สูงกว่าคู่สัญญา และในเรื่องการจัดส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องไปยัง กสทช. ซึ่งผมในฐานะกรรมการและหัวหน้าฝ่ายบริหารได้พิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ปกติ และเป็นไปตามมติคณะกรรมการฯที่ได้รับมอบหมาย”นายเขมทัตต์กล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากการลาออกจากการเป็นกรรมการบริษัท อสมท ทั้ง 3 คนดังกล่าว ทำให้ปัจจุบันเหลือบอร์ด อสมท 9 คน ได้แก่ พล.ต.ท.จตุพล ปานรักษา ประธานกรรมการและกรรมการอิสระ ,นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และกรรมการ ,นายบุญสน เจนชัยมหกุล กรรมการ ,นายสมหมาย ลักขณานุรักษ์ กรรมการ ,นางภัทรพร วรทรัพย์ กรรมการ
นายสุวิทย์ นาคพีระยุทธ กรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบ ,นายธนาวัฒน์ สังข์ทอง กรรมการอิสระ ,นางรัชดาภรณ์ ราชเทวินทร์ กรรมการอิสระและประธานกรรมการตรวจสอบ และนายมารุต บูรณะเศรษฐกุล กรรมการอิสระ
อ่านประกอบ :
ยันรักษาผลประโยชน์ อสมท! ‘เขมทัตต์’ แจงปมแบ่งเงินเยียวยาคลื่น 2600 ให้คู่สัญญา
เยียวยาคลื่น 2600! กสทช.จ่ายชดเชย 'อสมท' 3.2 พันล. แบ่ง 'เพลย์เวิร์ค' 50%
‘พล.ต.ท.จตุพล’กก.อสมท ทรัพย์สิน 95 ล.รายได้ 58 ล.-‘พสุ’พ้นปลัดอุตฯเดือนเศษเพิ่ม 14 ล.
โชว์ทรัพย์สิน 77 ล.‘ฐากร ตัณฑสิทธิ์’เลขาธิการ กสทช.-รายได้รวม 3 ปี 52 ล.
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/