'อิศรา' อัพเดตความเคลื่อนไหวสถานการณ์โคโรน่าไวรัสทั่วโลกล่าสุด ยอดติดเชื้อสะสมเฉียด 8.4 ล้าน- 'เยอรมนี' เจอติดเชื้อเกิน 1.7 พันคน จากโรงงานสัตว์ สั่งงดกิจกรรมยาวถึงสิ้นเดือน ต.ค. - 'อินโดนีเซีย' วิกฤตเจอระบาด 41,431 ราย แซงหน้า 'สิงคโปร์' ขึ้นอันดับ 1 อาเซียน - WHO ประกาศยุติทดลองยาไฮดรอกซีคลอโรควิน หนุน 'อังกฤษ' ใช้ยาสเตียรอยด์ช่วยชีวิตผู้ป่วย - 'หมอญี่ปุ่น' เตือนแอร์บ้านมีส่วนแพร่เชื้อโควิดในที่ปิด
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าล่าสุดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หรือโคโรน่าไวรัส ว่า ในช่วงเช้าวันที่ 18 มิ.ย. ตามเวลาประเทศไทย เว็บไซต์ World Meter ได้รายงานจำนวนตัวเลขผู้ป่วยทั้งสิ้นว่า มีจำนวน 8,391,416ราย เป็นผู้ป่วยรายใหม่ 140,192ราย เสียชีวิต 450,436 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 5,248ศพ
ทวีปอเมริกาเหนือ สหรัฐอเมริกา ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสม และผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุดในโลก จำนวนผู้ติดเชื้อ 2,233,482 ราย ติดเชื้อรายใหม่ 25,082 ราย เสียชีวิต 119,939 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 807 ศพ
โดยที่รัฐนิวยอร์ก มีผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 17 ศพ ในวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา ถือว่าน้อยที่สุดนับตั้งแต่มีการระบาด
ทวีปอเมริกาใต้ บราซิล มียอดผู้ติดเชื้ออันดับ 1 ของทวีปและอันดับ 2 ของโลก จำนวนผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 960,309 ราย ติดเชื้อใหม่ 31,475 ราย เสียชีวิต 46,665 ศพ เสียชีวิตใหม่ 1,209 ศพ ทำให้บราซิลมีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตใหม่มากเป็นอันดับ 1 ของโลก
ทวีปยุโรป รัสเซีย มีผู้ติดเชื้อ 553,301 ราย ติดเชื้อใหม่ 7,843 ราย เสียชีวิต 7,478 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 194 ศพ
ส่วนที่ประเทศเยอรมนี มีรายงานว่า มีผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งสิ้น 1,797 ราย ถือว่าเป็นอันดับ 2 ในทวีปยุโรปรองจากประเทศรัสเซีย โดยเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีการตรวจสอบพบแหล่งแพร่เชื้อจากโรงงานแปรรูปเนื้อสัตว์ที่ชื่อว่า Rheda-Wiedenbrück ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศเยอรมนี เบื้องต้น มีผู้ติดเชื้อจากโรงงานนี้ไปแล้วทั้งสิ้น 657 ราย
โดยนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีได้หารือกับผู้นำแคว้นเยอรมนีทั้ง 16 แคว้นจนได้ข้อสรุปว่าจะห้ามการจัดกิจกรรมต่างๆ ออกไปจนถึงปลายเดือน ต.ค. นี้
ทวีปเอเชีย อินเดีย ยังคงมีผู้ติดเชื้อเป็นอันดับ 1 ของทวีป มีผู้ติดเชื้อสะสม 367,264 ราย ติดเชื้อใหม่ 13,103 ราย เสียชีวิต 12,262 ศพ เสียชีวิตใหม่ 341 ศพ
ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน มีผู้ติดเชื้อโควิด 19 ตลอดระยะ 6 วันนับตั้งแต่เกิดการระบาดใหม่ที่ตลาดอาหารซินฟาตี้ เป็นจำนวนทั้งสิ้น 137 ราย และได้คำสั่งให้ระงับเที่ยวบินเข้าออกเมืองนับร้อยเที่ยว และปิดโรงเรียนหลายแห่งเพื่อทางเจ้าหน้าที่จะได้ทำการตรวจหาผู้ติดเชื้อโควิด 19 โดยละเอียดแล้ว
ส่วนสถานการณ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน อินโดนีเซีย กลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้ออันดับ 1 ในภูมิภาคแทนที่ประเทศสิงคโปร์ที่มีผู้ติดเชื้อ 41,216 รายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยอินโดนีเซียนั้นมีผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุด 41,431 ราย ติดเชื้อใหม่ 1,031 ราย เสียชีวิตสะสม 2,276 ศพ เสียชีวิตใหม่ 45 ศพ จึงทำให้อินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ ผู้เสียชีวิตสะสม และผู้เสียชีวิตรายใหม่สูงที่สุดในอาเซียน
ทวีปแอฟริกา ประเทศแอฟริกาใต้ เป็นประเทศที่ติดเชื้ออันดับ 1 ในทวีป มีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 80,412 ราย ติดเชื้อใหม่ 4,078 ราย เสียชีวิต 1,674 ศพ เสียชีวิตใหม่ 49 ศพ
ส่วนที่ภูมิภาคโอเชียเนีย ประเทศออสเตรเลียมีรายงานการติดเชื้อใหม่ 23 ราย ขณะที่ สายการบินแควนตัสของออสเตรเลียนั้นก็ได้มีการยกเลิกเที่ยวบินระหว่างประเทศเกือบทั้งหมดแล้ว
สำหรับสถานการณ์ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อประเทศต่างๆ รอบโลก นั้น เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่องค์การอนามัยโลก นายทีโดรส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยกรองค์การอนามัยโลกหรือ WHO ได้ออกมาเปิดเผยทาง WHO ได้ยุติการทดลองยาไฮดรอกซีคลอโรควินทั้งหมดแล้ว เนื่องจากข้อกังวลเกี่ยวกับผลข้างเคียงที่อันตราย และหลายประเทศที่ใช้ยาดังกล่าวก็ไม่ปรากฏว่ามีผลที่เป็นบวกแต่อย่างใด
นายทีโดรส ยังได้แสดงความยินดีกับประเทศอังกฤษที่ค้นพบว่ายาสเตียรอยด์ที่ชื่อว่าเด็กซาเมทาโซนนั้นมีแนวโน้มที่จะรักษาผู้ป่วยที่อาการหนักให้มีโอกาสรอดชีวิตเพิ่มมากขึ้นได้ ซึ่งการวิจัยดังกล่าวให้ความหวังที่ดีเกี่ยวกับการช่วยชีวิตผู้ป่วยโควิด 19
ส่วนที่ประเทศญี่ปุ่น มีการเปิดเผยจาก นพ.มาซายูกิ อิชิดะ นายแพทย์ด้านโรคติดต่อ โรงพยาบาลชิกาโมริ เมืองโกจิ ว่า การใช้เครื่องปรับอากาศอาจจะเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด 19 ให้มากขึ้นไปอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้ป่วยไอหรือจามในที่ปิด ละอองที่ถูกปล่อยออกจากผู้ป่วยจะทำให้เชื้อแพร่กระจายไปได้ไกลขึ้นและนานขึ้นผ่านการใช้เครื่องปรับอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเครื่องปรับอากาศตามบ้านที่ไม่ได้ให้อากาศจากภายนอกเข้ามามานัก แต่ใช้อากาศที่หมุนเวียนอยู่ภายในบ้านนั่นเอง
นพ.มาซายูกิ ยังกล่าวต่อไปว่า ดังนั้นวิธีป้องกัน ก็คือ ต้องให้อากาศถ่ายเท อาทิ การเปิดหน้าต่างให้อากาศภายนอกไล่อากาศเก่าออกไปในทุกๆ 5-10 นาที
เรียบเรียงจาก:https://www.theguardian.com/world/series/coronavirus-live,https://www.dw.com/en/top-stories/s-9097,https://www.aljazeera.com/topics/events/coronavirus-outbreak.html,https://www.worldometers.info/coronavirus/
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage