'อิศรา' อัพเดตความเคลื่อนไหวสถานการณ์โคโรน่าไวรัสทั่วโลกล่าสุด ยอดติดเชื้อสะสม 7.1 ล้าน แต่จำนวนรักษาคนหายมากกว่าป่วยอยู่ที่ 3.5 ล้านคน - รมว.อังกฤษ เตือน 'บอริส จอห์นสัน' มีความเสี่ยงสูงคนตกงานธุรกิจบริการพุ่ง 3.5 ล้าน - 'กาตาร์' เผย 4 ขั้นตอนคลายล็อก ปท.เริ่ม 15 มิ.ย.ถึง ก.ย. - 'ญี่ปุ่น' เสี่ยงภัยจากมะเร็งหลังมาตรการปิดเมืองทำเสียโอกาสตรวจโรคระยะเริ่มต้น
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าล่าสุดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หรือโคโรน่าไวรัส ว่า เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ที่ประเทศอังกฤษ นาย อล๊อก ชาร์มา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงธุรกิจ ได้ออกมาเตือนนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ว่า ณ เวลานี้มีความเสี่ยงที่ภาคส่วนแรงงานจากธุรกิจด้านการให้บริการจำนวนกว่า 3.5 ล้านคน อาจจะต้องตกงานจากสภาวะการปิดเมืองในช่วงที่โรคโควิด 19 ระบาด
ขณะที่ผู้ประกอบการธุรกิจผับและร้านอาหารในอังกฤษนั้นออกมาเรียกร้องให้มีการผ่อนปรนการเปิดกิจการก่อนช่วงเดือน ก.ค. ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง แม้ว่าจะสร้างความแตกต่างได้เพียงเล็กน้อยก็ตาม แต่อย่างน้อยก็สามารถสร้างผลดีทางด้านจิตวิทยาในการประกอบธุรกิจขึ้นมาได้
ส่วนความเคลื่อนไหวที่ประเทศกาตาร์นั้น ได้มีการเปิดเผยถึงขั้นตอนการการคลายล็อกมาตรการปิดเมืองจากโรคโควิด 19 แบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอนตามช่วงเวลา โดยขั้นตอนแรกในวันที่ 15 มิ.ย.จะเริ่มมีการเปิดมัสยิดบางแห่ง ร้านในห้างสรรพสินค้าบางร้าน ถ้าสถานที่เหล่านี้สามารถทำตามเงื่อนไขการเฝ้าระวังการติดเชื้อได้ และจะมีการเปิดสวนสาธารณะบางแห่งเพื่อให้ประชาชนได้ออกกำลังกาย แต่ว่าในขั้นตอนนี้นั้นจะยังไม่อนุญาตให้เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีเข้าไปใช้บริการ
นอกจากนี้ ในวันที่ 15 มิ.ย. ทางการจะอนุญาตให้มีการเปิดบริการคลินิกด้วยความจุ 40 เปอร์เซ็นต์ ของช่วงเวลาปกติด้วยเช่นกัน
ขั้นตอนที่ 2 ที่จะเริ่มในวันที่ 1 ก.ค. เป็นการอนุญาตให้ร้านอาหารบางสามารถดำเนินธุรกิจได้ แต่ต้องจำกัดจำนวนผู้มาใช้บริการ และจะอนุญาตให้ห้างสรรพสินค้าเปิดให้บริการ พร้อมกับการจำกัดจำนวนและเวลาของผู้มาใช้บริการต่อไป
ขั้นตอนที่ 3 ที่จะเริ่มในวันที่ 1 ส.ค. เปิดให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ อนุญาตให้มีการเปิดห้างสรรพสินค้าเต็มรูปแบบ ขณะที่คลับสุขภาพ,ยิม สระว่ายน้ำ และร้านทำผมนั้นก็จะเปิดให้บริการได้เช่นกัน แต่ต้องมีการจำกัดจำนวนผู้มาใช้บริการ
ขั้นตอนที่ 4 จะเริ่มในวันที่ 1 ก.ย. เป็นการอนุญาตให้จัดงานแต่งงาน กิจกรรมทางธุรกิจ นิทรรศการต่าง ๆ และอาจจะรวมถึงโรงภาพยนตร์ พิพิธภัณฑ์ และห้องสมุดด้วย
ที่ประเทศญี่ปุ่น มีรายงานข่าวจากผู้เชี่ยวชาญว่า สถานการณ์การปิดเมืองในช่วงที่ผ่านมา อาจทำให้มีประชาชนต้องเสี่ยงชีวิตจากโรคมะเร็งเพิ่มขึ้นไปอีก เพราะว่าโรงพยาบาลนั้นต้องยุติการให้บริการตรวจหามะเร็งในระยะเริ่มต้น เนื่องจากความกังวลว่าจะมีการติดเชื้อในโรงพยาบาล พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนที่มีความเสี่ยงไปตรวจหามะเร็งทันที ถ้าหากโรงพยาบาลนั้นมีการปลดล็อกให้มีการตรวจมะเร็งได้แล้ว
สำหรับความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิดทั่วโลกนั้น ในช่วงเช้าวันที่ 9 มิ.ย. ตามเวลาประเทศไทย เว็บไซต์ World Meter ได้รายงานจำนวนตัวเลขผู้ป่วยทั้งสิ้นว่า มีจำนวน 7,189,868 ราย เป็นผู้ป่วยรายใหม่ 107,270 ราย เสียชีวิต 408,240 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 3,157 ศพ
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การรักษาผู้ป่วยสะสมให้หายได้มากกว่าผู้ป่วยที่ยังมีอาการอยู่ในขณะนี้ มีแนวโน้มดีขึ้น โดยสามารถรักษาหายไปแล้ว 3,532,224 ราย มากกว่าจำนวนผู้ป่วยที่ยังมีอาการอยู่ในขณะนี้ 3,249,404 ราย
ทวีปอเมริกาเหนือ สหรัฐฯยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสมและรายวันสูงสุดทั้งในทวีปและในโลก ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อ 2,026,493 ราย ติดเชื้อรายใหม่ 19,044 ราย เสียชีวิต 113,055 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 586 ศพ
ทวีปอเมริกาใต้ บราซิล มียอดผู้ติดเชื้ออันดับ 1 ของทวีปและอันดับ 2 ของโลก โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 710,887ราย ติดเชื้อใหม่ 18,925 ราย เสียชีวิต 37,312 ศพ เสียชีวิตใหม่ 813 ศพ โดยจำนวนผู้เสียชีวิตใหม่นั้นถือว่าเป็นอันดับหนึ่งของโลก
ทวีปยุโรป รัสเซียมีผู้ติดเชื้อ 476,658 ราย ติดเชื้อใหม่ 8,985 ราย เสียชีวิต 5,971 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 112 ศพ
ทวีปเอเชีย อินเดีย ยังคงมีผู้ติดเชื้อเป็นอันดับ 1 ของทวีป โดยมีผู้ติดเชื้อสะสม 265,928 ราย ติดเชื้อใหม่ 8,442 ราย เสียชีวิต 7,473 ศพ เสียชีวิตใหม่ 266 ศพ
ส่วนสถานการณ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน นั้น สิงคโปร์ ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุด 38,296 ราย ติดเชื้อใหม่ 386 ราย เป็นแรงงานต่างชาติติดเชื้อจำนวน 383 ราย เสียชีวิตสะสม 25 ศพ
ขณะที่อินโดนีเซีย มียอดติดเชื้อรายวันสูงสุดในอาเซียนอยู่ที่ 847 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อทั้งประเทศอยู่ที่ 32,033 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมและรายวันสูงสุดในอาเซียนอยู่ที่ 1,883 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตใหม่ 32 ศพ
ทวีปแอฟริกา ประเทศแอฟริกาใต้นั้นเป็นประเทศที่ติดเชื้ออันดับ 1 โดยมีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 50,879 ราย และเสียชีวิต 1,080 ศพ
เรียบเรียงจาก:https://www.aljazeera.com/news/2020/06/qatar-lift-coronavirus-restrictions-phases-200608200635130.html,https://www.bbc.com/news,https://www.japantimes.co.jp/news/2020/06/08/national/science-health/covid-19-cancer-screenings/#.Xt7fmkUzZPY,https://www.worldometers.info/coronavirus/
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage