'อิศรา' อัพเดตความเคลื่อนไหวสถานการณ์โคโรน่าไวรัสทั่วโลก ยอดผู้ติดเชื้อล่าสุดทะลุ 4 ล้าน เลขารอง ปธน.สหรัฐผลเลือดเป็นบวก- เฟซบุ๊ก-กูเกิ้ล ให้พนง.ทำงานที่บ้านต่อถึงสิ้นปี -'ควีนอังกฤษ' มีพระราชดำรัสวันแห่งชัยชนะสงครามโลกครั้งที่ 2 ให้กำลังใจ ปชช. -'สิงคโปร์'ตั้งเป้าตรวจโควิด 4 หมื่นรายต่อวัน -มหาวิทยาลัย'ญี่ปุ่น' 100 แห่ง เตรียมคืนค่าเทอมช่วยนักศึกษาเรียนทางไกล -'บราซิล'ยอดตายรายวันอับดับ 2 ของโลก
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด 19 หรือโคโรน่าไวรัสทั่วโลกล่าสุด ว่า ในช่วงเช้าวันที่ 9 พ.ค.2563 ตามเวลาประเทศไทย เว็บไซต์ World Meters รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลกว่า มียอดรวมทั้งสิ้น 4,005,655 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 92,011 ราย มีผู้เสียชีวิต 275,669 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 5,243 ศพ
โดยประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงอันดับ 1 ยังคงเป็นสหรัฐอเมริกา มียอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 1,318,686 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 26,063 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 78,498 ศพ ผู้เสียชีวิตรายใหม่ 1,570ศพ ทำให้สหรัฐฯ ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสม ผู้ติดเชื้อรายวัน ผู้เสียชีวิตสะสม สูงที่สุดในโลก
ที่ทำเนียบขาว มีรายงานว่า นางเคธี่ มิลเลอร์ เลขานุการส่วนตัวด้านสื่อสารมวลชนของนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด 19 หลังจากก่อนหน้านี้มีทหารอารักขาของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯถูกตรวจพบว่าติดเชื้อไปแล้ว
นางเคธี่ มิลเลอร์ (คนขวา) และนายไมค์ เพนซ์ (คนซ้าย)
สำหรับสถานการณ์ทั่วไปในสหรัฐฯ นั้น รัฐนิวยอร์ก เป็นรัฐที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของสหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 332,931 ราย และมีผู้เสียชีวิต 26,601 ศพ (ข้อมูล ณ วันที่ 7 พ.ค.)
ขณะที่กรมตำรวจนิวยอร์กในเขตท้องที่บรูคลิน เปิดเผยข้อมูลว่า นับตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค.ถึงวันที่ 4 พ.ค. มีการจับกุมผู้ฝ่าฝืนมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมได้อย่างน้อย 40 ราย ซึ่งใน 40 รายนั้น เป็นชาวอเมริกันผิวขาว 1 ราย เชื้อสายฮิสแปนิค 4 ราย และชาวแอฟริกันอเมริกันอีก 35 ราย
ในส่วนบริษัทเฟซบุ๊กและกูเกิ้ลได้อนุญาตให้พนักงานบริษัทสามารถทำงานที่บ้านได้จนถึงสิ้นปีนี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เฟซบุ๊ก ได้ให้เงินโบนัสกับพนักงานที่ทำงานที่บ้านและต้องดูแลบุตรเป็นจำนวนทั้งสิ้น 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ (32,000 บาท)
อนึ่งบริษัทเฟซบุ๊กนั้นมีกำหนดการจะเปิดที่ทำงานในวันที่ 6 ก.ค.นี้ หลังจากที่สหรัฐฯได้ออกกฎเกณฑ์ผ่อนคลายมาตรการทางสังคม อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้ออกประกาศว่า ถ้าหากพนักงานรายใดไม่สะดวกมาทำงานที่ทำงานก็สามารถทำงานที่บ้านได้
ขณะที่บริษัทกูเกิ้ล เคยกำหนดให้พนักงานทำงานที่บ้านจนถึงวันที่ 1 มิ.ย. ล่าสุดได้ขยายเวลาให้พนักงานทำงานที่บ้านออกไปจนถึงช่วงสิ้นปี
ที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งองค์การประประชาชาติหรือยูเอ็นเอสซี มีรายงานว่าสหรัฐฯ ได้ขัดขวางไม่ให้มีการนำญัตติการโหวตให้มีการยุติการหยุดยิงและยุติความขัดแย้งทั่วโลกเข้าไปโหวตในที่ประชุมยูเอ็นเอสซี เนื่องจากญัญติดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องทางอ้อมกับองค์การอนามัยโลกหรือ WHO ซึ่งกำลังถูกกล่าวหาจากนายทรัมป์ว่าปฏิบัติหน้าที่ล้มเหลวจนเป็นเหตุให้มีการแพร่ระบาดของไวรัสไปทั่วโลก
สำหรับสถานการณ์รอบโลกที่น่าสนใจนั้น ที่ประเทศอังกฤษมีรายงานตัวเลขจำนวนผู้ติดเชื้อสะสม 211,364 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4,649ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 31,241 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตใหม่ 626 ศพ ทำให้อังกฤษเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมสูงที่สุดในยุโรป และจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมยังเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากสหรัฐฯ
โดยเมื่อวันที่ 8 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันครบรอบ 75 ปี วันแห่งชัยชนะสงครามโลกครั้งที่ 2 ในสมรภูมิทวีปยุโรป สมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 ได้ทรงมีพระราชดำรัสแสดงความห่วงใยต่อประชาชนทั้งประเทศอังกฤษ
สรุปใจความได้ว่า “ประเทศอังกฤษนั้นยังคงเป็นประเทศที่มีความภาคภูมิใจจากเหล่าทหารกล้าทั้ง ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศที่เคยได้ร่วมรบอย่างไม่ยอมแพ้และไม่สิ้นหวังในสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยในวันนี้ทุกคนในประเทศอังกฤษล้วนแล้วแต่ปกป้องและคอยเกื้อกูลกันเสมอเหมือนเช่นที่ผ่านมา แล้วท้ายที่สุดเราจะได้กลับไปพบกันอีก”
พระราชดำรัสของสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 (อ้างอิงวิดิโอจากช่องบีบีซี)
ส่วนสถานการณ์ในเอเชียนั้น ที่สิงคโปร์ มีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสม 21,707 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 768 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 20 ศพ และไม่มีผู้เสียชีวิตใหม่ ทำให้สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมและผู้ติดเชื้อรายวันสูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)
มีรายงานว่าล่าสุดทางการสิงคโปร์ได้รักษาคนไข้หายและปล่อยตัวออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว 328 ราย
ขณะที่นายลอว์เรนซ์ หว่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาประเทศ แถลงข่าวว่า สิงคโปร์จะตั้งเป้าการตรวจหาผู้ป่วยโควิดให้ได้วันละ 40,000 รายต่อวัน โดยจะมุ่งเน้นไปที่ 3 จุดใหญ่ๆก็คือ 1. ที่บ้านพักคนชรา 2. ที่โรงพยาบาลและสถานที่บุคลากรด้านสาธารณสุขได้ทำหน้าที่รักษาผู้ป่วย และ 3.สถานที่พักของแรงงานต่างชาติในสิงคโปร์
ที่อินโดนีเซีย มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 13,112 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 336 ราย มีผู้เสียชีวิต 943 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 13 ศพ ทำให้อินโดนีเซีย มีผู้เสียชีวิตสะสมและผู้เสียชีวิตรายวันสูงที่สุดในอาเซียน
ที่ฟิลิปปินส์ มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 10,463 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 120 ราย มีผู้เสียชีวิต 696 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 11 ศพ
ที่มาเลเซีย มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 6,535 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 68 ราย มีผู้เสียชีวิต 107 ศพ ไม่มีผู้เสียชีวิตรายใหม่
ที่ญี่ปุ่น มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 15,512ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 80 ราย มีผู้เสียชีวิต 580 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 9 ศพ
ขณะที่กรุงโตเกียวมีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 4,813 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 39 ราย และมีผู้เสียชีวิตสะสม 170 ศพ นับเป็นวันที่ 6 ติดต่อกันที่กรุงโตเกียวมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่ำกว่า 100 ราย
นอกจากนี้มีรายงานว่ามหาวิทยาลัยในญี่ปุ่นจำนวนกว่า 100 แห่ง ได้เตรียมหาแนวทางคืนค่าเทอมให้กับนักศึกษา เพื่อให้นักศึกษานำเงินค่าเทอมที่ได้รับคืนมาไปใช้ในการดำรงชีวิต และใช้ซื้ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่จำเป็นสำหรับการศึกษาทางไกล
ตัวอย่างเช่น มหาวิทยาลัยฮิเมจิดกเคียว กำหนดให้มีการคืนค่าเทอมจำนวน 1 แสนเยน (29,830 บาท) ให้กับนักศึกษาจำนวน 8,600 คน เพื่อนำไปใช้จ่ายสำหรับการเรียนออนไลน์ และมหาวิทยาลัยวาเซดะได้คืนเงินค่าเทอมจำนวน 1 แสนเยนสำหรับการใช้ชีวิตของนักศึกษา
ส่วนสถานการณ์ที่ประเทศจีน มีรายงานว่าได้อนุมัติให้มีการเปิดสถานบันเทิง โรงภาพยนตร์ และศูนย์กีฬาต่างๆทั่วประเทศได้แล้ว
สำหรับสถานการณ์ในยุโรป ที่ประเทศสเปน มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 260,117 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 3,262ราย มีผู้เสียชีวิต 26,299 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 229 ศพ
ที่อิตาลี มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 217,185 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 1,327 ราย มีผู้เสียชีวิต 30,201ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 243 ศพ
ที่รัสเซียมีรายงานผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 187,859 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 10,699 ราย มีผู้เสียชีวิต 1,723 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 98 ศพ นับเป็นประเทศที่ 2 รองจากสหรัฐฯที่มีผู้ติดเชื้อรายวันมากที่สุดในโลก
ที่ฝรั่งเศส มีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 176,079 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,288 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 26,230 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 243 ศพ
สำหรับสถานการณ์ที่เยอรมนี มีผู้ติดเชื้อสะสม 170,678 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,248 ราย มีผู้เสียชีวิต 7,510 ศพ และผู้เสียชีวิตรายใหม่ 118 ศพ
ส่วนสถานการณ์ในบราซิลนั้น มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 145,328 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 9,635 ราย มีผู้เสียชีวิต 9,897 ศพ และมีรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตใหม่ 709 ศพ
ทั้งนี้ ตัวเลขดังกล่าวทำให้บราซิลกลายเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตรายวันสูงเป็นอันดับ 2 ของโลกแซงหน้าประเทศอังกฤษไปแล้ว
เรียบเรียงจาก:https://www.aljazeera.com/,https://www.theguardian.com/world,https://www.bbc.com/news,https://mainichi.jp/english/,https://www.worldometers.info/coronavirus/,https://covid19japan.com/,https://www.nytimes.com/interactive/2020/us/coronavirus-us-cases.html,https://www.japantimes.co.jp/,https://www.straitstimes.com/singapore,https://edition.cnn.com/,https://mainichi.jp/english/
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage