'อิศรา' อัพเดตความเคลื่อนไหวสถานการณ์โคโรน่าไวรัสทั่วโลก ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 3.7 ล้าน 'ทรัมป์' ประกาศยุบหน่วยงานพิเศษต้านไวรัส ปรับรูปแบบเน้นความปลอดภัยเตรียมตัวเปิดประเทศ -'อังกฤษ' ยอดตาย2.9 หมื่น พุ่งอันดับ 2 โลก - 'สิงคโปร์' เจอแรงงานต่างชาติติดเชื้อใหม่เพียบ 605 ราย - 'เกาหลีใต้' เปิดแข่งเบสบอลแล้วห้ามคนดูเข้าสนาม -'อินเดีย' แก้เผ็ดคนแห่แย่งซื้อเหล้า ขึ้นภาษี'โคโรน่า' 70 เปอร์เซ็นต์
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด 19 หรือโคโรน่าไวรัสทั่วโลกล่าสุด ว่า ในช่วงค่ำวันที่ 5 พ.ค.2563 เว็บไซต์ World Meters รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลกว่า มียอดรวมทั้งสิ้น 3,720,930 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 77,659 ราย มีผู้เสียชีวิต 257,853 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 5,612 ศพ
โดยประเทศที่มีผู้ติดเชื้ออันดับ 1 ยังคงเป็นสหรัฐอเมริกา มียอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 1,235,456 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 22,621 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 72,149 ศพ ผู้เสียชีวิตรายใหม่ 2,228 ศพ ทำให้สหรัฐฯ ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสม ผู้ติดเชื้อรายวัน ผู้เสียชีวิตสะสม สูงที่สุดในโลก
ส่วนสถานการณ์ทั่วไปในสหรัฐฯ นั้น รัฐนิวยอร์ก เป็นรัฐที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของประเทศ มีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 326,659 ราย และมีผู้เสียชีวิต 25,028 ศพ
ขณะที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แถลงข่าวที่ทำเนียบขาว ระบุว่า จะยุบหน่วยงานพิเศษรับมือกับสถานการณ์ไวรัสโควิด 19 ระบาดลง หลังจากที่ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงที่ผ่าน โดยนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้แนะนำว่าจะให้ยุบหน่วยงานดังกล่าวลงภายในไม่กี่สัปดาห์ต่อนี้ ส่วนรูปแบบการทำงานหลังจากนี้จะมุ่งเน้นไปในเรื่องความปลอดภัย และการเตรียมตัวเปิดประเทศ ซึ่งทางทำเนียบขาวกำลังหารือถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการจัดตั้งหน่วยงานพิเศษขึ้นมารับมือกับภารกิจด้านนี้
เมื่อผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบขาวถามว่า ขณะนี้ถือภารกิจได้จบสิ้นลงแล้วใช่หรือไม่ ประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวว่า "ภารกิจนั้นจะจบสิ้นก็ต่อเมื่อสถานการณ์ได้จบสิ้นลงไปแล้ว แต่เราไม่สามารถปิดประเทศได้ตลอดไปในช่วง 5 ปีหลังจากนี้"
การแถลงข่าวของประธานาธิบดีสหรัฐฯ (อ้างอิงวิดิโอจากช่องเดอะซัน)
สำหรับสถานการณ์รอบโลกที่น่าสนใจนั้น ที่ประเทศอังกฤษมีผู้ติดเชื้อสะสม 194,990 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4,406ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 29,427 ศพ และมีรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตใหม่ 693 ศพ ทำให้อังกฤษเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตรายวันสูงที่สุดในยุโรป และจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมของประเทศอังกฤษแซงหน้าประเทศอิตาลีขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในทวีปยุโรป และอันดับ 2 ของโลก รองจากสหรัฐฯ แล้ว
ส่วนสถานการณ์อื่นๆในเอเชียนั้น ที่สิงคโปร์ มีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสม 19,410 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 632 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 18 ศพ ไม่มีผู้เสียชีวิตรายใหม่ติดต่อกันเป็นวันที่ 2 แล้ว แต่สิงคโปร์ ยังเป็นประเทศที่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมและผู้ติดเชื้อรายวันสูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ขณะที่ผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 605 จาก 632 ราย ยังคงเป็นแรงงานต่างชาติในสิงคโปร์เช่นเดิมที่มีการตรวจพบเชื้อไปก่อนหน้านี้
ที่อินโดนีเซีย มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 12,071 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 484 ราย มีผู้เสียชีวิต 872 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 8 ศพ ทำให้อินโดนีเซีย มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงที่สุดในอาเซียน
ที่ฟิลิปปินส์ มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 9,684 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 199 ราย มีผู้เสียชีวิต 637 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 14 ศพ ทำให้ฟิลิปปินส์มีผู้เสียชีวิตรายวันสูงที่สุดในอาเซียน
ที่มาเลเซีย มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 6,383 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 30 ราย มีผู้เสียชีวิต 106 ศพ มีผู้เสียชีวิตใหม่ 1 ศพ
ที่ญี่ปุ่น มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 15,217 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 119 ราย มีผู้เสียชีวิต 553 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 8 ศพ
ขณะที่ที่กรุงโตเกียวมีรายงานผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 4,713 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 58 ราย และมีผู้เสียชีวิตสะสม 150 ศพ
ส่วนที่เกาหลีใต้มีผู้ติดเชื่อสะสม 10,804 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 254 ศพ ผู้เสียชีวิตรายใหม่ 2 ศพ และผู้ป่วยปัจจุบัน 1,267 ราย
อย่างไรก็ดี เกาหลีใต้ได้มีการเปิดฤดูกาลแข่งขันกีฬาเบสบอลในประเทศแล้ว ซึ่งรูปแบบการแข่งขันยังที่ไม่อนุญาตให้ผู้เข้าชมในสนามแข่งแต่อย่างใด
บรรยากาศการแข่งเบสบอลที่เกาหลีใต้ (อ้างอิงรูปภาพจากอัลจาซีร่า)
ส่วนสถานการณ์ที่อินเดีย มีผู้ติดเชื้อสะสม 49,400 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 2,963 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 1,693 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 127 ศพ
แต่ล่าสุดทางการอินเดียได้มีการขึ้นภาษีพิเศษที่เรียกกันว่า 'ภาษีไวรัสโคโรน่า' สำหรับสินค้าแอลกอฮอล์ ที่ขายตามร้านขายส่งด้วยอัตรา 70 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งการขึ้นภาษีดังกล่าวนั้นก็เพื่อแก้ไขปัญหาเหตุการณ์ฝูงชนได้แห่ไปซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หลังจากมีการประกาศผ่อนคลายมาตรการทางสังคม เนื่องจากมีการติดเชื้อในประเทศลดน้อยลงแล้ว
ส่วนสถานการณ์ในยุโรปนั้น ที่ประเทศสเปน มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 250,561 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 2,260ราย มีผู้เสียชีวิต 25,613 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 185ศพ
ที่อิตาลี มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 213,013 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 1,075 ราย มีผู้เสียชีวิต 29,315 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 236 ศพ
ส่วนที่ฝรั่งเศส มีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 170,551 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,089 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 25,531ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 330 ศพ
สำหรับสถานการณ์ที่เยอรมนี มีผู้ติดเชื้อสะสม 167,007 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 855 ราย มีผู้เสียชีวิต 6,993 ศพ และเป็นวันแรกที่ประเทศเยอรมันไม่พบผู้เสียชีวิตรายใหม่
ที่รัสเซีย มีผู้ติดเชื้อสะสม 155,370 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 10,102ราย มีผู้เสียชีวิต 1,451 ศพ และมีรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตใหม่ 95 ศพ ทำให้รัสเซียมีผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก และเป็นอันดับ 1 ในยุโรป
ส่วนสถานการณ์ในประเทศบราซิลนั้น มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 114,715 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 6,449ราย มีผู้เสียชีวิต 7,921 ศพ และมีรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตใหม่ 578 ศพ
เรียบเรียงจาก:https://www.aljazeera.com/,https://www.theguardian.com/world,https://www.bbc.com/news,https://mainichi.jp/english/,https://www.worldometers.info/coronavirus/,https://covid19japan.com/,https://www.nytimes.com/interactive/2020/us/coronavirus-us-cases.html
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage