ใกล้เป็นศูนย์! ติดโควิด-19 เพิ่ม 1 ราย เป็นชาย จ.นราธิวาส ไม่มีผู้เสียชีวิต ศบค. เผยผลสำรวจออนไลน์ พบมาตรการเว้นระยะห่าง- กินร้อน ช้อนตนเอง -ล้างมือด้วยสบู่ ยังต่ำมาตรฐาน 90% ผ่านเเค่ใส่หน้ากากอนามัย/ผ้า ขอปชช.ช่วยกันให้ความร่วมมือ
วันที่ 5 พ.ค. 2563 ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การติดเชื้อโรคไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในประเทศไทย พบว่า มีผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ 1 ราย รวมผู้ป่วยยืนยันสะสม 2,988 ราย ผู้ป่วยรักษาหาย 7 ราย รวมรักษาหาย 2,747 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต เท่ากับมีผู้เสียชีวิตสะสม 54 ราย อายุเฉลี่ยของผู้ติดเชื้อ 39 ปี ซึ่งเป็นวัยทำงานออกจากบ้านมากที่สุดในช่วงผ่อนปรน
สำหรับผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ 1 ราย นั้น เป็นผู้ป่วยชายไทย อายุ 45 ปี ชาวจ.นราธิวาส มีโรคประจำตัวเบาหวาน โดยวันที่ 25 เม.ย. 2563 มีอาการไอ ไข้ น้ำมูก เจ็บคอ มีเสมหะ หายใจเหนื่อย เเละได้รักษาในโรงพยาบาล ทำให้พบว่าปอดอักเสบ เมื่อเเพทย์เก็บตัวอย่างส่งตรวจหาเชื้อไวรัสฯ ปรากฎว่า เป็นผู้ป่วยยืนยันเมื่อวันที่ 4 พ.ค. 2563 ทั้งนี้ มีปัจจัยเสี่ยงเกิดจากการเดินทางไปศาสนสถานเเละศาสนพิธีในต่างประเทศ รวมถึงประวัติสัมผัสในครอบครัวหรือชุมชน ซึ่งต้องหาสาเหตุต่อไป ขณะนี้ยังไม่เจาะจงไปยังสาเหตุใดสาเหตุหนึ่ง
โฆษก ศบค. กล่าวต่อถึงการตรวจหาเชื้อไวรัสฯ ของกลุ่มผู้อาจติดเชื้อ 40 ราย ก่อนหน้านี้ ว่าขอให้รอผลการตรวจ เนื่องจากเหตุเกิดขึ้นในจังหวัดชายเเดนภาคใต้ ดังนั้น ต้องมีการเก็บตัวอย่างเเละทบทวนกระบวนการทั้งหมด ซึ่งในช่วงบ่าย กระทรวงสาธารณสุข โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีเเละรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รมว.สธ.) พร้อมด้วยปลัดกระทรวงสาธารณสุข อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การเเพทย์ จะเเถลงข่าวเกี่ยวกับผลการประชุมปรึกษาเเละเเนวทางดูเเล เพราะเป็นกลุ่มก้อนที่มีจำนวนมากเเละเพื่อคลายข้อสงสัย รวมถึงมาตรฐานการดูเเลห้องปฏิบัติการด้วย
"สองสัปดาห์ที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อไวรัสฯ ในศูนย์กักกันมากที่สุด 60 ราย รองลงมา สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยเดิมยืนยันรายก่อนหน้านี้ 49 ราย การค้นหาเชิงรุก 32 รายผู้ป่วยเดินทางกลับจากต่างประเทศ 13 ราย เเละไปสถานที่ชุมชน เช่น ตลาดนัด 8 ราย"
สำหรับประเด็นการตรวจในห้องปฏิบัติการ นายเเพทย์ทวีศิลป์ กล่าวว่า ตั้งเเต่วันที่ 7 เม.ย.-ปัจจุบัน มีการเฝ้าระวังเเละสอบสวนโรค (Patient Under Investigation : PUI) 50,741 ราย เเละเป็นผู้ป่วยยืนยันเพิ่มมา 767 ราย เท่ากับมีความสามารถในการค้นหา ร้อยละ 1.51 ยืนยันว่า ห้องปฏิบัติการมีความสามารถในการตรวจกระจายไปทั่วประเทศเเล้ว ทำให้ดึงผู้ป่วยที่มีอาการของโรคไม่มากรับการตรวจมากขึ้น
นายเเพทย์ทวีศิลป์ ยังกล่าวถึงเที่ยวบินนำคนไทยตกค้างกลับไทย ว่าวันนี้ (5 พ.ค.) จากฝรั่งเศส 16 ราย เที่ยวบิน TG933 ถึงสุวรรณภูมิ 13.35 น. อินเดีย 220 ราย เที่ยวบิน FD9154 ถึงดอนเมือง 23.55 น. เเละวันที่ 6 พ.ค. เมียนมา 65 ราย เที่ยวบิน 8M331 ถึงสุวรรณภูมิ 18.15 น. เยอรมนี 110 ราย เที่ยวบิน LH772 ถึงสุวรรณภูมิ 23.00 น. เเละ ปากีสถาน 122 ราย เที่ยวบิน FD9787 ถึงดอนเมือง 23.20 น. สรุปตั้งเเต่วันที่ 4 เม.ย.- 4 พ.ค. 2563 เดินทางกลับเเล้ว 4,401 ราย จาก 26 ประเทศ ทั้งนี้ ในห้วง 6-31 พ.ค. 2563 มีเเผนนำคนไทยกลับอีก 7,000 ราย
เว้นระยะห่าง- กินร้อน ช้อนตนเอง -ล้างมือด้วยสบู่ ยังต่ำมาตรฐาน
โฆษก ศบค. กล่าวถึงผลการสำรวจออนไลน์ การปฏิบัติตามมาตรการ อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ ในเดือน เม.ย. จัดทำโดยกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานสถิติเเห่งชาติ เเละกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจเเละสังคม จากจำนวนผู้ตอบเเบบสอบถาม 99,865 ราย เเบ่งเป็นผู้หญิง ร้อยละ 71.6 เเละผู้ชาย ร้อยละ 28.4 ปรากฎว่า ในเรื่องของทัศนคติเเละความตระหนัก ร้อยละ 99.8 เข้าใจว่าควรทำมาตรการ อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ อย่างไร เเละร้อยละ 93.8 คิดว่ามาตรการอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ ช่วยลดการระบาดของโรคได้
เมื่อถามถึงพฤติกรรมในการป้องกันตนเอง ร้อยละ 91.2 ใส่หน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้า ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานเกินกว่าร้อยละ 90 เเต่สำหรับการล้างมือด้วยสบู่/ใช้เจลล้างมือ ร้อยละ 87.2 การกินร้อน ช้อนตนเอง ร้อยละ 86.1 การรักษาระยะห่าง 1-2 เมตร ร้อยละ 65.3 เเละไม่เอามือจับหน้า จมูก ปาก ร้อยละ 62.9 ยังไม่ผ่าน ฉะนั้นขอให้ช่วยกัน โดยเฉพาะในช่วงการผ่อนปรน จะมีการใกล้ชิดมากขึ้น ขอให้ระมัดระวัง
นายเเพทย์ทวีศิลป์ กล่าวต่อถึงผลการสำรวจสถานที่ประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่าสมควรเปิด ร้อยละ 69.9 ตลาดสด ร้านสะดวกซื้อ เเละห้างสรรพสินค้า (ยังไม่เปิด) รองลงมา ร้อยละ 45.7 ร้านตัดผม คลินิกเสริมความงาม นวดเเผนไทย สปา (ยังไม่เปิด)
ขณะที่สถานที่ประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่าไม่สมควรเปิด ร้อยละ 90.5 สนามมวย สนามกีฬา (เปิดเเล้ว) สนามเเข่งขัน สนามม้า รองลงมา ร้อยละ 89.9 ผับ สถานบริการ สถานที่เเสดงมหรสพ สถานประกอบการอาบ อบ นวด ร้อยละ 64.6 ศูนย์เด็กเล็ก โรงเรียนประถม มัธยม ร้อยละ 54.5 มหาวิทยาลัย ที่เหลือต่ำกว่าร้อยละ 50 หนึ่งในนั้น คือ ร้านอาหาร จึงขอความร่วมมือสร้างเครื่องป้องกันร่างกาย เพราะไม่ใช่วิถีชีวิตปกติ เเต่เป็นวิถีชีวิตใหม่
ในเรื่องความกังวลของประชาชนยินยอมให้รัฐจัดสถานที่ควบคุม เพื่อสังเกตอาการเริ่มป่วยในชุมชน โฆษก ศบค. ระบุมีเพียงร้อยละ 20 ไม่ยินยอมให้รัฐจัด ที่เหลือร้อยละ 80 ยินยอม อย่างไรก็ตาม มีความกังวลว่า ผู้กักกันจะออกมาในชุมชน ผู้ปฏิบัติงานในสถานที่ควบคุมจะนำเชื้อออกมา การทำความสะอาดสถานที่เเละบริเวณโดยรอบจะไม่ปลอดเชื้อ เเละพาหนะหรือวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในสถานที่ควบคุมจะปนเปื้อนเชื้อออกมา
นายเเพทย์ทวีศิลป์ กล่าวถึงข้อมูลจากศูนย์ปฏิบัติการสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงเกี่ยวกับการตรวจกิจการหรือกิจกรรมที่ได้รับการผ่อนคลาย (ข้อมูล ณ วันที่ 4 พ.ค.) หลังจากลงพื้นที่ตรวจสอบ 9,383 กิจกรรม/กิจการ พบว่า ปฏิบัติตามมาตรการ 9,032 กิจกรรม/กิจการ ไม่ปฏิบัติตามมาตรการ 351 กิจกรรม/กิจการ เเบ่งเป็น ร้านอาหารเเละเครื่องดื่ม 3,156 เเห่ง ปฏิบัติ 2,942 เเห่ง ไม่ปฏิบัติ 214 เเห่ง, ห้างสรรพสินค้า 573 เเห่ง ปฏิบัติ 563 เเห่ง ไม่ปฏิบัติ 10 เเห่ง, ตลาด ร้านค้าปลีก 2,680 เเห่ง ปฏิบัติ 2,639 เเห่ง ไม่ปฏิบัติ 41 เเห่ง เเละร้านเสริมสวย 1,943 เเห่ง ปฏิบัติ 1,882 ไม่ปฏิบัติ 61 เเห่ง
สนามกอล์ฟ 77 เเห่ง ปฏิบัติ 77 เเห่ง ไม่มีไม่ปฏิบัติ, สนามกีฬา 254 เเห่ง ปฏิบัติ 242 เเห่ง ไม่ปฏิบัติ 12 เเห่ง, สวนสาธารณะ 352 เเห่ง ปฏิบัติ 346 เเห่ง ไม่ปฏิบัติ 6 เเห่ง เเละร้านสัตว์เลี้ยง 348 เเห่ง ปฏิบัติ 341 เเห่ง ไม่ปฏิบัติ 7 เเห่ง
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage