ศาลฎีกาฯฟัน 4 ราย ปกปิดทรัพย์สิน รองนายกเทศฯ ต.พรรณานิคม สกลนคร -รองนายก อบต.สวนพริก จ.พระนครศรีฯ -สท.เมืองมุกดาหาร -นายก อบต.ไกรใน สุโขทัย ขณะที่ รองนายก อบต.รมณีย์ จ.พังงา จงใจไม่ยื่น จำคุก 1-3 เดือน ปรับเงิน 4,000-12,000 บาท รอลงโทษ 4 คน พ้นทันที 1
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า วันที่ 28 มี.ค.2562 ,วันที่ 29 มี.ค.2562 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษา ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีความผิดจงใจ ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ 4 ราย และ จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ 1 ราย ในจำนวนนี้ 4 ราย สั่งจำคุกคนละ 1-3 เดือน ปรับเงินคนละ 4,000-12,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษ มีกำหนด 1 ปี โดย 1 ราย คือ นายปรีชา ทองชื่นตระกูล นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ไกรใน อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย ให้พ้นจากตำแหน่งนายก อบต.ไกรใน ที่ดำรงอยู่ในปัจจุบันนับแต่วันที่ 11 ก.พ.2562 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่ ดังนี้
1. นางจงจิต สกัญญา รองนายกเทศมนตรีตำบลพรรณานิคม อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบกรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีตำบลพรรณานิคม ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 32 และมาตรา 33 ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 1 ก.พ.2559 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีตำบลพรรณานิคมตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคสอง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี
ทั้งนี้ ผู้ถูกกล่าวหาได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีตำบลพรรณานิคม เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2555 และพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 ก.พ.2559 ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีตำบลพรรณานิคม โดยไม่แสดงรายการที่ดินโฉนดเลขที่ 4425 ตำบลพรรณา ผู้ร้องมีหนังสือแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงข้อเท็จจริงและเหตุผลของการไม่แสดงรายการทรัพย์สินดังกล่าวแล้ว ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงทำนองว่าได้กรรมสิทธิ์ที่ดินมาเพราะต้องการช่วยเหลือหลานซึ่งต้องการเงินไปลงทุน เมื่อโอนกรรมสิทธิ์แล้วจึงเก็บเอกสารไว้โดยไม่ได้สนใจและหลงลืมว่าที่ดินมีชื่อผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ (คดีหมายเลขแดงที่ อม.65/2562 วันที่ 28 มี.ค.2562)
2. นายสันติ ขันธนิกร รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) สวนพริก อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา จงใจยื่นบัญชีฯเท็จ กรณีพ้นจาก ตำแหน่งรองนายก อบต.สวนพริก ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใด ในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 6 ก.ย.2556 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี
คดีนี้ ผู้ถูกกล่าวหาได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองนายก อบต.สวนพริก เมื่อวันที่ 22 ต.ค.2552 และพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 6 ก.ย.2556
ผู้ถูกกล่าวหา ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯกรณีพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 ต.ค.2556 โดยไม่แสดงรายการทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่ บัญชีเงินฝาก 2 บัญชี เป็นเงิน 107.94 บาท เงินลงทุนในสหกรณ์การเกษตรพระนครศรีอยุธยา เป็นเงิน 23,700 บาท และไม่แสดงรายการทรัพย์สินของคู่สมรส ได้แก่ บัญชีเงินฝาก 3 บัญชี เป็นเงิน 2,046.79 บาท สลากออมสินพิเศษ เป็นเงิน 162,000 บาท และรถจักรยานยนต์ 1 คัน
และยื่นบัญชีฯกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปีเมื่อวันที่ 23 ม.ค.2558 โดยไม่แสดงรายการทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่ บัญชีเงินฝาก 2 บัญชี เป็นเงินจำนวน 36.36 บาท และไม่แสดงรายการทรัพย์สินของคู่สมรส ได้แก่ บัญชีเงินฝาก 4 บัญชี เป็นเงิน 143,137.47 บาท สลากออมสินพิเศษ เป็นเงิน 152,000 บาท
และรถจักรยานยนต์ 1 คัน ผู้ร้องมีหนังสือแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงข้อเท็จจริงและเหตุผลของการไม่แสดงรายการทรัพย์สินดังกล่าวแล้ว ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงทำนองว่า สำหรับบัญชีเงินฝากสหกรณ์การเกษตรพระนครศรีอยุธยาผู้ถูกกล่าวหาเข้าใจว่าสหกรณ์ได้ออกหนังสือรับรองโดยระบุเงินฝาก หุ้น ทรัพย์สิน และหนี้สินทั้งหมดที่มีเพื่อนำมายื่นแก่ผู้ร้องแล้ว และเข้าใจว่าบัญชีเงินฝากธนาคารออมสินบัญชีถูกปิดไปแล้ว ส่วนบัญชีเงินฝากและสลากออมสินพิเศษของคู่สมรสนั้น ผู้ถูกกล่าวหาแยกกันอยู่กับคู่สมรสตั้งแต่ต้นปี 2552 จึงไม่ได้ สอบถามว่าคู่สมรสมีทรัพย์สินหรือหนี้สินใดบ้าง และคู่สมรสมอบเพียงบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และธนาคารออมสินมาให้เท่านั้น ส่วนรถจักรยานยนต์สภาพเก่าชำรุดทรุดโทรม ไม่ได้ใช้งานแล้วจึงเข้าใจว่าไม่ต้องแจ้ง (คดีหมายเลขแดงที่ อม.66/2562 วันที่ 28 มี.ค.2562)
3. นางเกษรินทร์ พันธุ์สุข สมาชิกสภาเทศบาลเมืองมุกดาหาร อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร จงใจยื่นบัญชีฯเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบกรณีพ้นจากตำแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองมุกดาหาร ครั้งที่ 1 กรณีเข้ารับตำแหน่งสมาชิกสภาเทศบาล เมืองมุกดาหาร ครั้งที่ 2 กรณีพ้นจากตำแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองมุกดาหาร ครั้งที่ 2 และกรณี เข้ารับตำแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองมุกดาหาร ครั้งที่ 3 ห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 21 ก.ย.2561 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองมุกดาหาร ครั้งที่ 3 กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 กรณีพ้นจากตำแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองมุกดาหาร ครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 และกรณีเข้ารับตำแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองมุกดาหารครั้งที่ 3 จำคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 3กระทง จำคุก 6 เดือน และปรับ 24,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 3 เดือน และปรับ 12,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยก.
คดีนี้ผู้ถูกกล่าวหาได้รับเลือกตั้ง ให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองมุกดาหาร ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 15 ก.ค.2550 และพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 19 ส.ค.2553 ต่อมาได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองมุกดาหาร ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 14 พ.ย.2553 และพ้นจากตำแหน่งวันที่ 14 พ.ย.2557 ผู้ถูกกล่าวหาได้รับแต่งตั้งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองมุกดาหาร ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 9 ก.พ.2558 โดยปฏิญาณตนเพื่อเข้ารับหน้าที่เมื่อวันที่ 16 พ.ย.2558 และดำรงตำแหน่งอยู่จนถึงปัจจุบัน
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่นับแต่วันที่ 21 ธ.ค.2561 ซึ่งเป็นวันที่ศาลมีคำสั่งให้รับคำร้องไว้พิจารณา ต่อมาวันที่ 25 ธ.ค.2561 ผู้ร้องยื่นคำร้องขอเพิ่มเติมคำร้องว่าผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองมุกดาหาร ครั้งที่ 3 โดยการลาออกมีผลตั้งแต่วันที่ 21 ก.ย.2561
ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีฯกรณีพ้นจากตำแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองมุกดาหาร ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 16 พ.ย.2558 โดยไม่แสดงรายการทรัพย์สิน ได้แก่ ที่ดิน จำนวน 6 แปลง และไม่แสดงรายการหนี้สิน ได้แก่ เงินกู้ 1 บัญชี
ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีฯกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปีในการดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองมุกดาหาร ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 16 พ.ย.2558 โดยไม่แสดงรายการทรัพย์สิน ได้แก่ ที่ดิน จำนวน 7 แปลง และไม่แสดงรายการหนี้สิน ได้แก่ เงินกู้ 2 บัญชี
ผู้ถูกกล่าวหา ยื่นบัญชีฯเข้ารับตำแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองมุกดาหาร ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 26 ส.ค./2554 โดยไม่แสดงรายการทรัพย์สินได้แก่ ที่ดิน จำนวน 7 แปลง และไม่แสดงรายการหนี้สิน ได้แก่ เงินกู้ 2 บัญชี
ผู้ถูกกล่าวหา ยื่นบัญชีฯ กรณีพ้นจากตำแหน่งสมาชิก สภาเทศบาลเมืองมุกดาหาร ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.2557 โดยไม่แสดงรายการทรัพย์สิน ได้แก่ ที่ดิน จำนวน 7 แปลง ที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ 1 แปลง และรถยนต์ 1 คัน และไม่แสดงรายการหนี้สิน ได้แก่ เงินกู้ 2 บัญชี รายการเช่าซื้อรถยนต์ 1 คัน
ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีฯ กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปีในการดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองมุกดาหาร ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.2558 โดยไม่แสดงรายการทรัพย์สิน ได้แก่ ที่ดิน 7 แปลง ที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ 1 แปลง และรถยนต์ 1 คัน และไม่แสดงรายการหนี้สิน ได้แก่ เงินกู้ 3 บัญชี รายการเช่าซื้อรถยนต์ 1 คัน
ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีฯ กรณีเข้ารับตำแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองมุกดาหาร ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 16 มี.ค.2558 โดยไม่แสดงรายการทรัพย์สิน ได้แก่ ที่ดิน จำนวน 7 แปลง ที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ 1 แปลง รถยนต์ 1 คัน และไม่แสดงรายการหนี้สิน ได้แก่ เงินกู้ 3 บัญชี รายการเช่าซื้อรถยนต์ 1 คัน สำหรับกรณีเข้ารับตำแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองมุกดาหาร ครั้งที่ 2 ขาดอายุความทางอาญาแล้ว (คดีหมายเลขแดงที่ อม.68/2562 วันที่ 29 มี.ค.2562)
4.นายปรีชา ทองชื่นตระกูล นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ไกรใน อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีเข้ารับตำแหน่งนายก อบต.ไกรใน ครั้งที่ 2 ให้ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่งนายก อบต.ไกรใน ครั้งที่ 2 ที่ดำรงอยู่ในปัจจุบันนับแต่วันที่ 11 ก.พ.2562 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 17 วรรคสอง และห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 29 มี.ค.2562 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองวินิจฉัย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคหนึ่ง คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก.
ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายก อบต.ไกรใน อ.กงไกรลาศ ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 24 ส.ค.2551 โดยแถลงนโยบายเพื่อเข้ารับหน้าที่เมื่อวันที่ 8 ต.ค.2551 และพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 24 ส.ค.2555 ต่อมาผู้ถูกกล่าวหาได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่ง นายก อบต.ไกรใน ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 30 ก.ย.2555 โดยแถลงนโยบายเพื่อเข้ารับหน้าที่เมื่อวันที่ 12 พ.ย.2555 และยังดำรงตำแหน่งจนถึงปัจจุบัน
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่นับแต่วันที่ 11 ก.พ.2562 ซึ่งเป็นวันที่ศาลมีคำสั่งให้รับคำร้องไว้พิจารณา
ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีฯ กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งนายก อบต.ไกรใน ครั้งที่ 1 โดยไม่แสดงรายการทรัพย์สิน ของผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่ เงินฝากธนาคารออมสิน 1 บัญชี จำนวนเงิน 27.28 บาท รถยนต์ 1 คัน ราคา 180,241.50 บาท ไม่แสดงรายการทรัพย์สินของ นางประดับ ทองชื่นตระกูล คู่สมรส ได้แก่ เงินฝากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) 1 บัญชี จำนวนเงิน 15,347.44 บาท เงินฝากสหกรณ์ออมทรัพย์ครูสุโขทัย จำกัด 1 บัญชี จำนวนเงิน 13,722.98 บาท เงินลงทุนสหกรณ์ออมทรัพย์ครูสุโขทัย จำกัด 1 รายการ จำนวนเงิน 319,400 บาท ที่ดินโฉนดเลขที่ 15199 ต.ไกรใน เนื้อที่ 4 ไร่ 3 งาน 25 ตารางวา ราคา 192,500 บาท ที่ดินโฉนดเลขที่ 7607 ต.บ้านคลอง อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก เนื้อที่ 31 ตารางวา ราคา 150,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง บ้านเลขที่ 236/6 ถนนดำริพัฒนา ต.บ้านคลอง อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก ราคา 831,600 บาท ไม่แสดงรายการทรัพย์สินของบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ได้แก่ เงินฝากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) 1 บัญชี จำนวนเงิน 43.73 บาท
และกรณีเข้ารับตำแหน่งนายก อบต.ไกรใน ครั้งที่ 2 ไม่แสดงรายการทรัพย์สิน ของผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่ เงินฝากธนาคารกรุงไทย 1 บัญชี จำนวนเงิน 695.94 บาท รถยนต์ 1 คัน ราคา 180,241.50 บาท ไม่แสดงรายการหนี้สินของผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่ เงินกู้ธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์การเกษตร 2 รายการ จำนวน 50,000 บาท และ 100,000 บาท สัญญาเช่าซื้อ รถยนต์ 1 คัน จำนวน 7,488.50 บาท ไม่แสดงรายการทรัพย์สินของคู่สมรส ได้แก่ เงินลงทุน สหกรณ์ออมทรัพย์ครูสุโขทัย จำกัด จำนวนเงิน 324,500 บาท ที่ดินโฉนดเลขที่ 7607 ต.บ้านคลอง อ.เมืองพิษณุโลก เนื้อที่ 31 ตารางวา ราคา 150,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง บ้านเลขที่ 236/6 ถนนดำริพัฒนา ต.บ้านคลอง อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก ราคา 831,600 บาท ไม่แสดงรายการหนี้สินของคู่สมรส ได้แก่ เงินกู้สหกรณ์ออมทรัพย์ ครูสุโขทัย จำกัด 1 รายการ จำนวน 1,422,831.55 บาท ไม่แสดงรายการทรัพย์สินของบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ได้แก่ เงินฝากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) 1 บัญชี จำนวนเงิน 47.06 บาท สำหรับกรณีเข้ารับตำแหน่งนายก อบต.ไกรใน ครั้งที่ 2 คดีขาดอายุความทางอาญาแล้ว (คดีหมายเลขแดงที่ อม.69/2562 วันที่ 29 มี.ค.2562)
จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ
นายสกล บัวทอง รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) รมณีย์ อ.กะปง จ.พังงา จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดกรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายก อบต.รมณีย์ อ.กะปง ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 16 ม.ค.2559 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือนและปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.67/2562 วันที่ 29 มี.ค.2562)
อ่านประกอบ:
13 นักการเมืองท้องถิ่นรอด! ศาลยกคำร้อง คดีบัญชีทรัพย์สิน เหตุยื่นฟ้องหลัง กม.ใหม่
รับสารภาพ!คุก1 เดือน รอลงโทษ1 ปี 'ชญาดา'เมีย 'พลภูมิ'ส.ส.เพื่อไทย ยื่นบัญชีฯเท็จ
เงินลงทุน 2 แห่ง 2.3 ล. นายก อบต.หนองปรือ จ.กาญจนบุรี-เมีย คดียื่นเท็จ ป.ป.ช.
เจาะไส้ใน 10 นักการเมืองท้องถิ่นซุกทรัพย์สินอย่างไร? ก่อนศาลฎีกาฯฟันยื่นบัญชีฯเท็จ
ศาลฎีกาฯฟัน 10 นักการเมืองท้องถิ่น ยื่นบัญชีฯเท็จ-ให้พ้นตำแหน่งทันที 6 คน
สรรพากรสอบภาษี ห้างรับเหมา นายกเทศฯพรหมบุรี จ.สิงห์บุรี- คู่สัญญารัฐ 26 ล้าน
ดูชัดๆ นายกเทศมนตรีพรหมบุรี จ.สิงห์บุรี-เมีย โยกหุ้น 2 บ.12 ล้าน - ไม่แจ้ง ป.ป.ช.
โผล่อีกบริษัท! นายกเทศมนตรี ต.พรหมบุรี สิงห์บุรี ถือหุ้น 9.8 ล. ไม่แจ้ง ป.ป.ช.
นายกเทศมนตรีพรหมบุรี ถือหุ้น หจก. 2 ล.ไม่แจ้ง ป.ป.ช.- อ้าง จนท.ขอดูแค่ทรัพย์สินบุคคล
นายกเทศมนตรีพรหมบุรี สิงห์บุรี คดียื่นบัญชีฯเท็จ มีทรัพยสิน 172 ล.- รายได้ 427.2 ล.
ศาลฎีกาฯฟันนายกเทศมนตรีพรหมบุรี จ.สิงห์บุรี ซุก ป.ป.ช. เงินฝาก 10 ล. ที่ดิน 3 แปลง
4 คดีทรัพย์สินนักการเมืองท้องถิ่น ศาลฎีกายกคำร้อง เหตุ ป.ป.ช.ยื่นหลัง กม.ใหม่บังคับ
สรุปคำพิพากษาฟัน 4 นักการเมืองท้องถิ่น จ.ปัตตานี สกลนคร กาญจนบุรี ตาก ไม่ยื่นบัญชีฯ
พฤติกรรม ส.อบจ.ลำปาง ซุกเงินฝาก เงินกู้ยืม ป.ป.ช.-ศาลจำคุก 1 เดือน รอลงโทษ 1 ปี
ศาลฎีกาฯสั่งจำคุก 2 เดือน ไม่รอลงโทษ นักการเมืองท้องถิ่น จ.อุตรดิตถ์ ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน
ศาลฎีกาฯคุก 1 เดือน รอลงโทษ 1 ปี 2 นักการเมืองท้องถิ่น จ.สุราษฎร์ฯ-ร้อยเอ็ดไม่ยื่นบัญชีฯ
ศาลฎีกาฯสั่งคุก 1 เดือน-รอลงโทษ 1 ปี รองฯเทศมนตรี จ.นครสวรรค์ ซุกหุ้น-เงินฝาก 13 บัญชี
ศาลฎีกาฯยกคำร้อง 2 นักการเมืองท้องถิ่น จ.ลำพูน-นราฯ ซุกบัญชีฯ เหตุ ป.ป.ช.ยื่นหลัง กม.บังคับ
ดูชัดๆ อดีตปธ.สภา อบจ.สมุทรสาคร ซุกหุ้น 2 บ. ศาลฎีกาฯฟันยื่นบัญชีฯเท็จ
อย่าลืมฉัน! สมบัติ-นพ.วีระวุฒิ-เมียอริสมันต์ มีคดีรวยผิดปกติในศาลฎีกาฯปี 62
รายชื่อ 190 คนไม่ยื่นบัญชีฯ-ซุกทรัพย์สินรอบปี 61 - รองนายก อบต.อื้อ 93 ราย
เผยปี 2561 คดีไม่ยื่นบัญชีฯ-ซุกทรัพย์สิน ทะลัก 190 คน ‘ธาริต-พงศ์พัฒน์-ชูวิทย์’ติดกลุ่ม