แพร่มติ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด 'ปทมา นุ่นประสิทธิ์' ขณะปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีตำบลโพนางดำออก ชัยนาท พ่วง 'อดีตปลัด-ผอ.กองคลัง -จนท.ธุรการ' เบิกจ่ายเงินโครงการฝึกอบรมเพิ่มประสิทธิภาพทัศนศึกษาผู้บริหาร-ผู้ช่วย เป็นเท็จ ส่งเรื่องผู้บังคับบัญชาโทษทางวินัย -อสส.ฟ้องร้องดำเนินคดีอาญาแล้ว 24 พ.ค. 62
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่มติคณะกรรมการป.ป.ช. ชี้มูลความผิด นางสาวปทมา นุ่นประสิทธิ์ ขณะปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีตำบลโพนางดำออก อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท และพวก 3 ราย ประกอบไปด้วย นายก้าน ทิพวรรณ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ปลัดเทศบาลโพนางดำออก อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท นางสาวพิกุล กลิ่นแก้ว ผู้อำนวยการกองคลัง อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท นางสาวธนภรณ์ กลมเกลียว เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง เจ้าหน้าที่ธุรการ 4 อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท กรณีถูกกล่าวหา เบิกจ่ายเงินโครงการฝึกอบรม เพิ่มประสิทธิภาพ ทัศนศึกษาของผู้บริหาร ผู้ช่วยผู้บริหารฯ เป็นเท็จ
ดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาสำนวนไต่สวนแล้ว มีมติเห็นชอบว่า นางสาวปทมา นุ่นประสิทธิ์ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 มาตรา 151 มาตรา 157 และมาตรา 162 (4) และฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ปฏิบัติหรือ ละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือ หน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่ โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการ ปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554 มาตรา 123/1 ประกอบพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 192 และ มีมูลความผิด ฐานปฏิบัติการฝ่าฝืนต่อ ความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของ ประชาชน ละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือ ปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ หรือมีความประพฤติในทางจะนำมาซึ่ง ความเสื่อมเสียแก่ศักดิ์ตำแหน่ง หรือ แก่เทศบาล หรือแก่ราชการ ตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ.2496 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 73
ส่วน นายก้าน ทิพวรรณ์ และนางสาวพิกุล กลิ่นแก้ว มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และมาตรา 162 (1), (4) และฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ปฏิบัติหรือ ละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือ หน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือ หน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหาย แก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการ ปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554 มาตรา 123/1 ประกอบพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 192 และ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือ ผู้อื่นได้ประโยชน์ที่มิควรได้ เป็นการ ทุจริตต่อหน้าที่ราชการ ฐานปฏิบัติ หน้าที่ราชการโดยจงใจไม่ปฏิบัติตาม กฎหมาย ระเบียบของทางราชการ มติคณะรัฐมนตรี หรือนโยบายของ รัฐบาล อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ ราชการอย่างร้ายแรง และ ฐานกระทำการอื่นใดอันได้ชื่อว่าเป็น ผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ตามประกาศคณะกรรมการ พนักงานเทศบาล จังหวัดชัยนาท เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการ สอบสวน การลงโทษทางวินัย การให้ออกจากราชการ การอุทธรณ์ และการร้องทุกข์ ลงวันที่ 27 พฤศจิกายน 2544 ข้อ 3 วรรคสาม ข้อ 6 วรรคสอง และข้อ 19 วรรคสอง
นางสาวธนภรณ์ กลมเกลียว มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 มาตรา 151 มาตรา 157 และมาตรา 162 (1), (4) และฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่ง หรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่ง หรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิด ความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554 มาตรา 123/1 ประกอบ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 192 และ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือ ผู้อื่นได้ประโยชน์ที่มิควรได้ เป็นการทุจริต ต่อหน้าที่ราชการ ฐานปฏิบัติหน้าที่ราชการ โดยจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ของทางราชการ มติคณะรัฐมนตรี หรือ นโยบายของรัฐบาล อันเป็นเหตุให้เสียหาย แก่ราชการอย่างร้ายแรง และ ฐานกระทำการอื่นใดอันได้ชื่อว่าเป็น ผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ตามประกาศ คณะกรรมการพนักงานเทศบาล จังหวัดชัยนาท เรื่อง หลักเกณฑ์และ เงื่อนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินัย การให้ออกจากราชการ การอุทธรณ์ และ การร้องทุกข์ ลงวันที่ 27 พฤศจิกายน 2544 ข้อ 3 วรรคสาม ข้อ 6 วรรคสอง และข้อ 19 วรรคสอง
เบื้องต้น ได้ส่งสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริง ไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อดำเนิน คดีอาญาแล้ว เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 62
อย่างไรก็ดี การชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
อ่านประกอบ :
ป.ป.ช.ชี้มูลคดีอาญา หน.คลัง อบต.คลองสวนพลู อยุธยา เบียดบังเงินไปเป็นปย.ส่วนตน
ป.ป.ช.ฟันอดีตนายกอบต.กมลา ภูเก็ต-พวก บูรณะเขื่อนแพงเกินจริง 3.2 ล.
ป.ป.ช.ฟันอดีตนายกอบต. บ้านสิงห์ บุรีรัมย์-พวก 5 ราย ทุจริตส่งเสริมอาชีพเพาะเห็ด ปี 53
ป.ป.ช.ชี้มูลอาญา-วินัยร้ายแรง ลูกจ้างสาว สนง.อัยการสูงสุด ยักยอกเงิน 3.5 ล.
ป.ป.ช. เชือด อดีตนายกอบต.บางไทรป่า นครปฐม จัดเล่นพนันไฮโลในอาคารสนง.
ป.ป.ช.ฟันนายก อบต.เกาะหลัก-ประจวบฯ พ่วงเอกชน มีส่วนได้เสียจัดซื้อจัดจ้าง 49 โครงการ
ป.ป.ช.ชี้มูลผิด ผอ.การเลือกตั้ง เขต 6 จ.ร้อยเอ็ด ปลอมเอกสาร-เบิกงบประมาณเท็จ
ป.ป.ช.ชี้มูลผิด นายก อบต.ยายชา จ.นครปฐม-พวก เบิกจ่ายค่าอาหารงานสัมมนาเท็จ
ป.ป.ช.ฟันนายกเทศมนตรีบางริ้น จ.ระนอง นำรถราชการใช้ส่วนตัว-ส่ง อสส.ฟ้องศาลแล้ว
ป.ป.ช.ฟันอดีตผอ.วิทยาลัยเทคนิคกาญจนาฯเชียงราย-พวก แบ่งซื้อจ้างตัดสูทเบียดบังใช้ส่วนตัว
ป.ป.ช.ฟันอดีตนายก อบต.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ ย้ายการก่อสร้างถนนมาหน้าบ้านตัวเอง
ป.ป.ช.เชือดอดีตนายก อบต.ระบำ จ.อุทัยธานี-รองปลัดฯ เบิกเงินดูงานปี’55 เป็นเท็จ
ป.ป.ช.แพร่มติฟันทุจริตจำนำข้าวปี 46/47 สองคดีรวด-พนง.บ.ซัลมานฯเพียบ-'เสี่ยเปี๋ยง'โดนด้วย
ป.ป.ช.เชือดกราวรูด 'หมอ-พยาบาล' สำนักการแพทย์ กทม. 6 ราย-เอกชน 2 เอื้อปย.ซื้อชุดตรวจ