ป.ป.ช.แพร่มติชี้มูลความผิด 'เกตุ บุญล้อม' อดีตผอ.วิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษกเชียงราย- พวก 2 ราย คดีกล่าวหา แบ่งซื้อจ้างตัดสูทให้บุคลากร เบียดบังไปเป็นปย.ส่วนตัว ดำเนินกิจกรรมไม่สอดคล้อง วัตถุประสงค์โครงการ ส่งเรื่องผู้บังคับบัญชาฟันวินัย -อัยการสูงสุด ฟ้องร้องดำเนินคดีตามขั้นตอมกม.แล้ว
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด นายเกตุ บุญล้อม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ วิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษกเชียงราย และพวก 2 ราย คือ นายอุดม จันเลน เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารทรัพยากร และ นายวีระพงษ์ ชัยประหลาด ครูประจำแผนกวิชาช่างยนต์ เมื่อครั้งปฏิบัติหน้าที่ ในตำแหน่งหัวหน้างานพัสดุ ในคดีกล่าวหา แบ่งซื้อแบ่งจ้างในการตัดชุดสูท ให้บุคลากร เบียดบังชุดสูท ไปเป็นประโยชน์ส่วนตัว และ ดำเนินกิจกรรมไม่สอดคล้อง กับวัตถุประสงค์ของโครงการ
โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า ข้อกล่าวหากรณีแบ่งซื้อแบ่งจ้าง ในการตัดชุดสูทให้บุคลากร นายเกตุ บุญล้อม นายอุดม จันเลน และนายวีระพงษ์ ชัยประหลาด มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และฐานเป็นเจ้าหน้าที่ ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใด ในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจใน ตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิด ความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554 มาตรา 123/1 ประกอบ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่า ด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 192 และ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยจงใจไม่ปฏิบัติ ตามกฎหมาย ระเบียบแบบแผนของทาง ราชการ และหน่วยงานการศึกษา อันเป็น เหตุให้เกิดความเสียหายแก่ราชการอย่าง ร้ายแรง ตามพระราชบัญญัติระเบียบ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 มาตรา 85 วรรคสอง
ข้อกล่าวหากรณีกล่าวหาเบียดบังชุดสูท ไปเป็นประโยชน์ส่วนตัว ดำเนินการโดยไม่ถูกต้องตาม วัตถุประสงค์ของโครงการที่ให้จัดหา เครื่องแบบให้ผู้บริหาร ครู บุคลากร และนักเรียน นักศึกษา ยืมใช้ในราชพิธี และวาระสำคัญต่าง ๆ นายเกตุ บุญล้อม นายอุดม จันเลน และนายวีระพงษ์ ชัยประหลาด มีมูลความผิดทางวินัยไม่ร้ายแรง ฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการให้เป็นไป ตามกฎหมาย ระเบียบแบบแผนของ ทางราชการ และหน่วยงานการศึกษา มติคณะรัฐมนตรี หรือนโยบายของรัฐบาล โดยถือประโยชน์สูงสุดของผู้เรียน และ ไม่ให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 มาตรา 85 วรรคหนึ่ง
ส่วนข้อกล่าวหากรณีดำเนินกิจกรรม ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของโครงการ เป็นการใช้จ่ายเงินงบประมาณ ผิดประเภท นายเกตุ บุญล้อม มีมูลความผิดทางวินัยไม่ร้ายแรง ฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการให้เป็นไป ตามกฎหมาย ระเบียบแบบแผนของ ทางราชการ และหน่วยงานการศึกษา มติคณะรัฐมนตรี หรือนโยบายของ รัฐบาลโดยถือประโยชน์สูงสุดของ ผู้เรียน และไม่ให้เกิดความเสียหาย แก่ทางราชการ ตามพระราชบัญญัติ ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษา พ.ศ.2547 มาตรา 85 วรรคหนึ่ง
ทั้งนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ส่งสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริง ไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณา โทษทางวินัย เมื่อวันที่ 13 มี.ค. 62 และไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญาแล้ว เมื่อวันที่ 14 มี.ค. 62
อย่างไรก็ดี การชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. คดีนี้ ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
อ่านประกอบ :
ป.ป.ช.ฟันอดีตนายก อบต.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ ย้ายการก่อสร้างถนนมาหน้าบ้านตัวเอง
ป.ป.ช.เชือดอดีตนายก อบต.ระบำ จ.อุทัยธานี-รองปลัดฯ เบิกเงินดูงานปี’55 เป็นเท็จ
ป.ป.ช.แพร่มติฟันทุจริตจำนำข้าวปี 46/47 สองคดีรวด-พนง.บ.ซัลมานฯเพียบ-'เสี่ยเปี๋ยง'โดนด้วย
ป.ป.ช.เชือดกราวรูด 'หมอ-พยาบาล' สำนักการแพทย์ กทม. 6 ราย-เอกชน 2 เอื้อปย.ซื้อชุดตรวจ