เผยมติ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด นายแพทย์-พยาบาล สังกัดสำนักการแพทย์ กทม. 6 ราย พร้อมกก.บริษัท-หุ้นส่วนหจก. 2 ราย คดีเอื้อปย.จัดซื้อชุดตรวจวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ ล่าสุดส่งสำนวนไต่สวนให้ผู้บังคับบัญชาโทษทางวินัย -ยื่นอัยการสูงสุดฟ้องร้องดำเนินคดีอาญาตามขั้นตอนกม.แล้ว
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.2562 ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่มติ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด ข้าราชการสังกัดสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร (กทม.) และตัวแทนบริษัทเอกชน จำนวนรวม 8 ราย ประกอบไปด้วย 1. นายสุรชัย ทรัพย์โมกข์ นายแพทย์ 7 วช. สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร 2. นายพิพัฒน์ เกรียงวัฒนศิริ นายแพทย์ 7 วช. สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร 3. นายประเสริฐ โอภาสเมธีกุล นายแพทย์ 7 วช. สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร 4. นางสาวสุภคณา การุณ นายแพทย์ 6 วิทยาลัยแพทย์ศาสตร์และวชิรพยาบาล สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร 5. นางขวัญใจ พรรณมณีทอง พยาบาลวิชาชีพ 6ว. วิทยาลัยแพทย์ศาสตร์ และวชิรพยาบาล สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร 6. นางสาวกนกวรรณ บางเสงี่ยม พยาบาลวิชาชีพ 6 ว. วิทยาลัยแพทย์ศาสตร์ และวชิรพยาบาล สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร 7. นายไพบูลย์ หาญดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพร์ม เมดิคอล จำกัด 8. นายอนุวัชร ปิยพงศ์ผาติ หุ้นส่วนผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ไอ.ซี.อุปกรณ์การแพทย์
ในคดี เอื้อประโยชน์ให้ผู้เสนอราคาบางราย ได้มีสิทธิทำสัญญาในการจัดซื้อชุดตรวจ และบันทึกสัญญาณทางสรีรวิทยา แบบศูนย์รวมสำหรับ 7 เตียง และ เครื่องเฝ้าติดตามการทำงานของหัวใจ พร้อมวัดอัตราการหายใจ ความดันโลหิตแบบภายในและ ภายนอก พร้อมวัดปริมาณก๊าซ ในขณะดมยาสลบและความผิดปกติ ของสมองพร้อมอุปกรณ์และ ระบบบันทึก
โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดผู้ถูกกล่าวหา ทั้ง 8 ราย แยกเป็นกลุ่มตามความผิด จำนวน 3 กลุ่ม ดังนี้
กลุ่มแรก นายสุรชัย ทรัพย์โมกข์ นายพิพัฒน์ เกรียงวัฒนศิริ และนายประเสริฐ โอภาสเมธีกุล ในฐานะคณะกรรมการพิจารณากำหนด รายละเอียดหรือคุณลักษณะเฉพาะ และ คณะกรรมการพิจารณาผลการ ประกวดราคาการจัดซื้อชุดตรวจและ บันทึกสัญญาณทางสรีรวิทยาแบบศูนย์รวม สำหรับ 7 เตียง จำนวน 2 ชุด มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 มาตรา 157 และ ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐ ซึ่งมีอำนาจหรือหน้าที่ในการอนุมัติ การพิจารณาหรือการดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเสนอราคาครั้งใด รู้หรือมีพฤติการณ์ปรากฏแจ้งชัดว่าควรรู้ ว่าการเสนอราคาในครั้งนั้นมีการกระทำความผิด ตามพระราชบัญญัตินี้ ละเว้นไม่ดำเนินการ เพื่อให้มีการยกเลิกการดำเนินการเกี่ยวกับ การเสนอราคา ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงาน ของรัฐหรือผู้ได้รับมอบหมายจากหน่วยงานของรัฐ โดยทุจริตทำการออกแบบ กำหนดราคา กำหนดเงื่อนไข หรือกำหนดผลประโยชน์ตอบแทน อันเป็นมาตรฐานในการเสนอราคา โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันในการ เสนอราคาอย่างเป็นธรรม หรือเพื่อช่วยเหลือ ให้ผู้เสนอราคารายใดได้มีสิทธิเข้าทำสัญญา กับหน่วยงานของรัฐโดยไม่เป็นธรรม หรือเพื่อกีดกันผู้เสนอราคารายใดมิให้ มีโอกาสเข้าแข่งขันในการเสนอราคาอย่าง เป็นธรรม และฐานเป็นเจ้าหน้าที่ใน หน่วยงานของรัฐกระทำการใด ๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคา อย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้า ทำการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิ ทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยว กับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 10 มาตรา 11 และมาตรา 12 ประกอบ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือ ผู้อื่นได้ประโยชน์ที่มิควรได้ เป็นการทุจริต ต่อหน้าที่ราชการ และฐานปฏิบัติหน้าที่ ราชการโดยจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบของทางราชการ มติคณะรัฐมนตรี หรือนโยบายของรัฐบาล อันเป็นเหตุให้ เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการ พลเรือน พ.ศ.2535 มาตรา 82 วรรคสาม และมาตรา 85 วรรคสอง ประกอบ พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการ กรุงเทพมหานคร พ.ศ.2528 มาตรา 8
กลุ่มสอง นางสาวสุภคณา การุณ นางขวัญใจ พรรณมณีทอง และนางสาวกนกวรรณ บางเสงี่ยม ในฐานะคณะกรรมการกำหนดรายละเอียด และคุณลักษณะเฉพาะของเครื่องเฝ้าติดตาม การทำงานของหัวใจ พร้อมวัดอัตราการหายใจ ความดันโลหิตแบบภายในและภายนอก พร้อมวัดปริมาณก๊าซขณะดมยาสลบและ ความผิดปกติทางสมอง พร้อมอุปกรณ์และ ระบบบันทึก จำนวน 1 ชุด มีมูลความผิดทางวินัยไม่ร้ายแรง ฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วย ความอุตสาหะ เอาใจใส่ และ ประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการ ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการ พลเรือน พ.ศ.2535 มาตรา 84 วรรคหนึ่ง และ มาตรา 85 วรรคหนึ่ง ประกอบ พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการ กรุงเทพมหานคร พ.ศ.2528 มาตรา 8
กลุ่มสาม เอกชน มี 2 ราย คือ 1. นายไพบูลย์ หาญดำรงศักดิ์ ในฐานะกรรมการผู้จัดการบริษัท ไพร์มเมดิคอล จำกัด มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 และมาตรา 91 และ ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ ในหน่วยงานของรัฐหรือผู้ได้รับ มอบหมายจากหน่วยงานของรัฐ โดยทุจริต ทำการออกแบบ กำหนดราคา กำหนดเงื่อนไข หรือกำหนดผลประโยชน์ตอบแทน อันเป็นมาตรฐานในการเสนอราคา โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันในการ เสนอราคาอย่างเป็นธรรม หรือ เพื่อช่วยเหลือให้ผู้เสนอราคารายใด ได้มีสิทธิเข้าทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ โดยไม่เป็นธรรม หรือเพื่อกีดกันผู้เสนอราคา รายใดมิให้มีโอกาสเข้าแข่งขันในการ เสนอราคาอย่างเป็นธรรม และฐานเป็น ผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐ กระทำการใด ๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการ แข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่ ผู้เข้าทำการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิ ทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิด เกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 11 มาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 และมาตรา 91
2. นายอนุวัชร ปิยพงศ์ผาติ ในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ไอ.ซี.อุปกรณ์การแพทย์ - มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 และ ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ในหน่วยงาน ของรัฐกระทำการใด ๆ โดยมุ่งหมายมิให้มี การแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรมเพื่อ เอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายใด ให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับ การเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 12 ประกอบ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 และมาตรา 91
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ส่งสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริง ไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณา โทษทางวินัย และไปยังอัยการ สูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญาแล้ว เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2562 อย่างไรก็ดี การชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/