‘นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวฯ’ มองปี 68 ไทยส่งออกข้าว 7.5 ล้านตัน หลัง ‘อินเดีย’ กลับมาส่งออกข้าว ‘อินโดนีเซีย’ ประกาศไม่นำเข้าข้าว ด้าน ‘นายกสมาคมโรงสีฯ’ มองสวนทาง ชี้ปริมาณส่งออกข้าวลดลงเล็กน้อย จากปีก่อน 10 ล้านตัน ขณะที่ราคา ‘ข้าวเปลือก’ มีแนวโน้มดีต่อเนื่อง
......................................
ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยกับสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ถึงแนวโน้มการส่งออกข้าวในปี 2568 ว่า สมาคมฯประเมินว่า ปริมาณการส่งออกข้าวไทยในปี 2568 จะลดลงมาอยู่ที่ 7.5 ล้านตัน จากปี 2567 ที่คาดว่าไทยจะส่งออกข้าวได้เกือบ 10 ล้านตัน เนื่องจากในปีหน้าจะมีผลผลิตข้าวออกสู่ตลาดค่อนข้างมาก โดยเฉพาะจากอินเดีย ในขณะที่อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นผู้ซื้อข้าวรายใหญ่ประกาศว่าจะไม่นำเข้าข้าวในปีหน้า
“ปีหน้าคงลำบากหน่อย เพราะผู้ซื้อรายใหญ่อย่างอินโดนีเซีย ที่นำเข้าข้าวถึง 4-5 ล้านตันในปีนี้ ก็ออกมาพูดแล้วว่า เขาอาจไม่ต้องการนำเข้าข้าว เพราะเขาเองก็พยายามพึ่งพาตัวเองให้ได้อยู่แล้ว ผู้ซื้อรายใหญ่จึงหายไป แต่ถ้าไปดูในแง่ผลผลิต ปี 2568 ผลผลิตทุกประเทศน่าจะดี ของเราก็ดี เนื่องจากฝนฟ้าดี น้ำไม่ท่วม และตอนนี้เราก็มีน้ำเต็มเขื่อนมากกว่าปีที่น้ำเต็มๆเสียอีก ทั้งเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนทั่วประเทศก็ค่อนข้างดี ผลผลิตเราก็น่าจะดี ของจะเยอะ
ส่วนอินเดียที่เพิ่งเก็บเกี่ยวไป ผลผลิตก็ออกมามากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในรอบหลายสิบปี โดยมีผลผลิตออกมามากกว่าปีปกติ 4-5 ล้านตันข้าวสาร ในขณะที่เวียดนามที่จะเก็บเกี่ยวในช่วง ก.พ.2568 น่าจะเป็น Crop ที่ดี ฉะนั้น เมื่อซัพพลายออกมาเยอะ แต่ดีมานด์ค่อนข้างน้อย อินโดนีเซียไม่ซื้อเจ้าเดียว ตลาดก็หายไปหลายล้านตัน ส่วนประเทศที่ซื้อปกติ เช่น ฟิลิปปินส์ก็ยังซื้ออยู่ แต่ซัพพลายมันเยอะ ดังนั้น ในปี 2568 เราก็ตั้งไว้ว่าจะส่งออก 7.5 ล้านตัน” ร.ต.ท.เจริญ กล่าว
ร.ต.ท.เจริญ ระบุว่า การส่งออกข้าวไทยที่คาดว่าจะอยู่ที่ 7.5 ล้านตัน ในปี 2568 นั้น ได้รวมปัจจัยที่อินเดียจะกลับมาส่งออกข้าวขาวและข้าวหักออกสู่ตลาดโลกเอาไว้ในประมาณการแล้ว แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่าไทยจะส่งออกได้มากกว่า 7.5 ล้านตัน หากเกิดภัยพิบัติที่ส่งผลกระทบต่อผลผลิตข้าวในโลก อย่างไรก็ดี ในขณะที่ผลผลิตข้าวออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น แต่ความต้องการซื้อข้าวลดลง ย่อมจะมีผลทำให้ราคาข้าวส่งออกและราคาข้าวเปลือกในประเทศปรับตัวลดลง
“อินเดียขายข้าวขาวถูกกว่าเรา 50-60 เหรียญต่อตัน ข้าวนึ่งก็เหมือนกัน ถูกกว่าเรา 50-60 เหรียญ กลายเป็นว่าของเราแพง ถ้าจะสู้เขาได้ เราก็ต้องลงมาใกล้เคียงเขาหน่อย” ร.ต.ท.เจริญ กล่าวและว่า “ตอนนี้เขา (อินเดีย) กลับมาแล้ว ก็ต้องยอมรับว่าราคาข้าวต้องลง เพราะสินค้าโภคภัณฑ์ ราคาขึ้นอยู่กับดีมานด์และซัพพลาย ซึ่งไทยมีอยู่อย่างเดียวที่ชนะหลายๆประเทศ คือ เรามีชื่อเสียง เราส่งออกตรงเวลา ไม่เบี้ยว เขาซื้อเราแพงหน่อย เขาก็ซื้อ เพราะซื้อแล้วนอนตาหลับ”
ร.ต.ท.เจริญ กล่าวว่า หากทางการ โดยเฉพาะธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ต้องการช่วยเหลืออุตสาหกรรมข้าวไทย ต้องดูแลอย่าให้ค่าเงินบาทแกว่งมากเกินไป ส่วนการใช้กลไกป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนนั้น ในความเป็นจริงแล้ว ยังมีอุปสรรคที่ทำให้ผู้ส่งออกข้าวใช้กลไกดังกล่าวได้ไม่เต็มที่
“บ้านเรา ค่าเงินบาทสามารถแกว่งขึ้นลงถึง 3% ซึ่งไม่มีที่ไหนในโลกเป็นอย่างนี้ ทำไมเวียดนาม เขาสามารถควบคุมเงินให้มี movement น้อยมาก คือ ความมีเสถียรภาพสำคัญที่สุด เพราะไม่อย่างนั้น เราจะตั้งราคาซื้อขายไม่ได้ ส่วนที่บอกให้ใช้กลไกในการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนนั้น ผมบอกเราว่า มันไม่มี พูดมาเป็นสิบปีแล้ว จะป้องกันอย่างไร คือ ข้าว ซึ่งเป็นสินค้าโภคภัณฑ์นั้น มาร์จินต่ำมาก ไม่ใช่กำไรเป็น 10% กำไรแค่ 50 เซนต์ 1 เหรียญก็ดีใจแล้ว
ถ้าบาทเหวี่ยงทีหนึ่ง 3-4% มันไม่ไหว บางทีขาดทุนเละเทะเลย บางคนอาจโชคดี ขายในช่วงบาทอ่อน และการขายข้าว มันไม่มี L/C (Letter of Credit) ที่จะเอาไปค้ำประกันกับแบงก์ได้ พวกผมเหมือนกับธนาคาร คือ เราขายเชื่อให้เขา ข้าว 90% ส่งออกวันนี้ เป็นการขายเชื่อทั้งหมด เขาเชื่อในลักษณะที่ว่า ผมส่งของให้คุณแล้ว คุณได้รับสินค้าแล้ว ถ้าไม่มีปัญหา คุณก็จ่ายเงินให้เรา เช่น ถ้าส่งออกข้าวหอมไปสหรัฐ เร็วที่สุดที่จะได้เงิน คือ 2 เดือน
หรือสมมติว่าเราขายไปแอฟริกา ถ้าขายแบบเป็นเรือใหญ่ เก่งที่สุด คือ หลังจากเซ็นสัญญาเรียบร้อยแล้ว เขาโอนเงินมัดจำให้คุณ 20% เมื่อโหลดสินค้าให้เขาจบแล้ว อาจจะให้เงินคุณอีก 20-30% และเมื่อเรือออกไป แล้วเขาได้รับสินค้าเรียบร้อยแล้ว เขาถึงจ่ายที่เหลือให้คุณ ฉะนั้น เราไม่มี L/C ไม่มีอะไรซักอย่างที่อยู่ในมือ แต่ก็ยังชอบบอกให้เราไปป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน
อีกอย่าง ถ้าไปทำกับแบงก์ แบงก์ไม่ได้ทำให้ฟรี มันมี discount เดือนละ 12-15 สตางค์ เช่น วันนี้บาทอยู่ที่ 35 บาท/ดอลลาร์ฯ ถ้าคุณไปล็อกอัตราแลกเปลี่ยนกับแบงก์ไว้ที่ 35 บาท แต่สิ้นเดือนหน้า คุณต้องจ่ายให้เขา 12-15 สตางค์ คุณก็ได้ 34.85 บาท/ดอลลาร์ฯ ถ้า 2 เดือน คุณก็หายไป 30 สตางค์ บางทีเราจึงคิดว่า เราเสี่ยงดีกว่า และทางแบงก์เอง ถ้าคุณมี 10 ล้านดอลลาร์ฯ ก็ไม่ได้หมายความว่า แบงก์จะรับทั้งหมด เพราะมันอยู่ที่เครดิตด้วย” ร.ต.ท.เจริญ ระบุ
ร.ต.ท.เจริญ ระบุด้วยว่า สำหรับการส่งออกข้าวในปี 2567 นั้น คาดว่าไทยจะส่งออกข้าวได้ในปริมาณใกล้เคียง 10 ล้านตัน ตัวเลขอาจจะออกมาประมาณ 9.8 ล้านตัน เนื่องจากเป็นปีที่ไม่ปกติ เพราะในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา อินเดียห้ามส่งออกข้าว ตลาดข้าวจึงหันมาที่ไทยและเวียดนาม แต่หากเป็นปีปกติ ไทยจะส่งออกข้าวได้สูงสุด 7-8 ล้านตัน
รายงานข่าวแจ้งว่า ในการแถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยเดือน พ.ย.2567 เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) ระบุว่า แม้ว่าในเดือน พ.ย.2567 ไทยส่งออกข้าวได้ 7.86 ล้านตัน ลดลง 22% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่หากพิจารณาตัวเลขส่งออกข้าวในช่วง 11 เดือนของปี 2567 ไทยส่งออกข้าวได้ 9.18 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 15.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
“ในเดือน พ.ย.2567 ไทยส่งออกข้าวลดลง 22% เนื่องจาก หนึ่ง ประเทศคู่ค้าสำคัญอย่างฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เขามีสต๊อกสำรองพอควรแล้ว สอง อินเดียกลับมาส่งออกข้าว และสาม ราคาข้าวของประเทศผู้ขายรายอื่นๆ ถูกกว่าราคาข้าวไทย อย่างไรก็ดี ตอนนี้เราส่งออกข้าวได้ 9.18 ล้านตันแล้ว เหลืออีก 8 แสนตัน ก็จะได้ 10 ล้านตัน” นายพูนพงษ์ กล่าว
@‘นายกฯโรงสี’มองปี 68 ราคา‘ข้าวเปลือก’ดีต่อเนื่อง
ขณะที่ นายบรรจง ตั้งจิตรวัฒนากุล ซึ่งได้รับเลือกจากที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 สมาคมโรงสีข้าวไทย เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.2567 ให้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมโรงสีข้าวไทยคนใหม่ และจะเข้าทำหน้าที่นายกสมาคมโรงสีข้าวไทยอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนกลางเดือน ม.ค.2568 กล่าวกับสำนักข่าวอิศรา ถึงแนวโน้มราคาข้าวเปลือกในประเทศว่า มีโอกาสที่ราคาข้าวเปลือกในปี 2568 จะทรงตัวอยู่ในระดับปัจจุบัน และเป็นปีทองของราคาข้าวอีกปีหนึ่ง
“เรื่องราคาข้าว ปีหน้าน่าจะยังเป็นปีทองต่อเนื่อง จากปี 2567 ที่มีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้เราส่งออกข้าวได้ 10 ล้านตัน ส่วนปี 2568 ถ้าเราจะส่งออกลดลง ก็คิดว่าจะต่ำกว่าปี 2567 นิดเดียว ไม่เยอะ เรามองไม่เหมือนสมาคมผู้ส่งออกข้าวฯที่บอกว่าข้าวส่งออกจะหายไป 2 ล้านตัน เรามองว่าไม่ถึง เพราะบางประเทศ เช่น เวียดนาม อาจมีผลผลิตข้าวลด เพราะปัญหาน้ำท่วมจากปรากฎการณ์ลานีญา อินโดนีเซียก็น่าจะใช้ข้าวอยู่ มีเพียงปัจจัยอินเดียเท่านั้นที่ต้องติดตาม
อีกทั้งราคาสินค้าเกษตรร่วมต่างก็มีระดับสูง เช่น เมื่อข้าวสาลีน้อยลงก็หันมาใช้ปลายข้าว ข้าวโพดเองก็แพงมาก วันนี้ราคากิโลกรัมละ 11 บาท ขณะเดียวกัน การบริโภคข้าวในประเทศน่าจะยังสูงอยู่ จากการบริโภคข้าวแรงงานต่างด้าวหลายล้านคน และจะเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งคนกลุ่มนี้บริโภคข้าวมากกว่าคนไทย บริโภคข้าว 100 กว่ากิโลกรัม/คน/ปี เทียบกับคนไทยที่บริโภคข้าว 72 กิโลกรัม/คน/ปี แล้วยังมีการบริโภคข้าวจากนักท่องเที่ยวต่างชาติอีก” นายบรรจง กล่าว
นายบรรจง กล่าวต่อว่า อีกหนึ่งปัจจัยที่จะส่งผลให้ราคาข้าวเปลือกในประเทศทรงตัวอยู่ในระดับสูง แม้ว่าอินเดียจะกลับมาส่งออกข้าวขาวแล้ว คือ ขณะนี้ชาวนาไทยได้ปรับเปลี่ยนการเพาะปลูกข้าวมาแล้วระดับหนึ่ง โดยหันไปปลูกข้าวนิ่มและข้าวอ่อนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งข้าวที่ผลิตได้มีมาตรฐานและเป็นที่ต้องการของตลาดโลก ทำให้ในขณะนี้การผลิตข้าวนิ่ม ข้าวอ่อน ในประเทศไทยกำลังไล่ตามเวียดนามมาติดๆ
“ราคาข้าวหอมมะลิจากนี้ไป ไม่มีอะไรน่ากังวล ตอนนี้ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิอยู่ที่เกินตันละ 15,000 บาทอยู่แล้ว และรัฐบาลยังมีโครงการสนับสนุนให้ชาวนาเก็บข้าวในสต๊อก มีการจำนำยุ้งฉางอีก ส่วนราคาข้าวเปลือกเจ้า วันนี้มีการเปลี่ยนพันธุ์ไปปลูกข้าวนุ่มกันมากแล้ว ซึ่งข้าวชนิดนี้ถูกปากผู้บริโภค เป็นข้าวที่ต่างประเทศชอบ คนไทยเองก็นิยม เมื่อเราเพิ่มตัวนี้ขึ้นมา ข้าวก็ไม่ล้น ดังนั้น ในปีหน้าราคาข้าวเปลือกเจ้า ไม่น่าจะต่ำกว่า 10,000 บาท/ตัน” นายบรรจง ระบุ
อ่านประกอบ :
‘สมาคมผู้ส่งออกฯ’ชี้‘บาท’แข็งค่า-ผันผวนสูง ทำ‘ข้าวไทย’แข่งขันยาก-ส่อฉุดราคาในประเทศร่วง
สมาคมฯขยับเป้าส่งออกข้าวปี 67 แตะ 8.2 ล.ตัน จับตา‘ผลผลิตเพิ่ม-อินเดียเลิกแบน’ฉุดราคาร่วง
6 เดือนส่งออกข้าวไทยโต 25.3%-‘สมาคมฯ’จ่อปรับเป้าเกิน 8 ล.ตัน รับอานิสงส์‘อินโดฯ’นำเข้า
ส่งออกข้าว พ.ค.67 ดิ่งหนัก 22.5% หดตัวในรอบ 11 เดือน หลังรัฐบาลประกาศโละสต๊อก'ข้าว10 ปี'
3 เดือนแรกปี 67 ไทยส่งออกข้าว 2.46 ล้านตัน รั้งอันดับ 2 ของโลก-ราคาเฉลี่ยเพิ่ม 19.9%
เอกชนประเมินปี 67 ไทยส่งออกข้าว 7.5 ล้านตัน-โอดปัญหา‘ทะเลแดง’ดันค่าระวางเรือพุ่ง 4 เท่า
ขายได้ราคาดี-ยอดซื้อเพิ่ม! ปี 66 ไทยส่งออกข้าว 8.76 ล้านตัน สร้างรายได้เข้าปท. 1.78 แสนล.
ซัพพลายมาก-คนซื้อน้อย! ‘ส.ส่งออกข้าวฯ’คาดปี 67 ไทยส่งออกข้าว 7.5 ล้านตัน-ราคากลับสู่ปกติ
ไม่มั่นใจมาตรฐานประกวด! ‘ส.ผู้ส่งออกฯ’แจงเบื้องหลังไม่ส่ง‘ข้าวไทย’ชิงแชมป์โลกปี 66
สายพันธุ์ ST25 ของเวียดนาม คว้าแชมป์ประกวดข้าวโลกปี 66-ไทยไม่ติดอันดับ 1 ใน 3
10 เดือนส่งออกข้าวโลก‘ไทย’รั้งอันดับ 3-ราคาขายแพ้‘เวียดนาม’ สมาคมฯชี้‘บาทแกว่ง’ทำงานยาก
ครม.อนุมัติ 780 ล้าน ชดเชยดอกเบี้ย‘โรงสี’ซื้อข้าวเก็บสต๊อก-'ภูมิธรรม'กดปุ่มโอนไร่ละพัน
‘เศรษฐา’คิกออฟจ่ายชาวนาไร่ละ 1 พัน 28 พ.ย.นี้-นบข.เคาะ 780 ล.ชดเชยโรงสีซื้อข้าวเก็บสต็อก