‘ศาลปกครองสูงสุด’ พิพากษายกฟ้อง คดี ‘อดีตผู้ใหญ่บ้าน’ ฟ้องขอเพิกถอน ‘คำสั่งจังหวัดขอนแก่น’ ที่ให้พ้นจากตำแหน่งฯ ศาลฯชี้พฤติการณ์มีมูลเชื่อได้ว่าร่วมเล่น ‘ไฮโลว์’ โดยมอบเงิน-สั่งให้ ‘บุคคลอื่น’ เล่นพนันไฮโลว์แทน
....................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็วๆนี้ ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาในคดีที่นายบุญเลิศ ติวเฮือง อดีตผู้ใหญ่บ้าน บ้านเต่านอ หมู่ 7 ต.ศิลา อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น (ผู้ฟ้องคดี) ยื่นฟ้องผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น และรมว.มหาดไทย (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และ 2) กรณีมีคำสั่งให้นายบุญเลิศ พ้นจากตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน เนื่องจากปรากฏพฤติการณ์อันเชื่อได้ว่านายบุญเลิศร่วมลักลอบเล่นพนันไฮโลว์ ซึ่งเป็นการพนันประเภทที่กฎหมายห้ามเด็ดขาด
โดยศาลปกครองสูงสุดพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้น ให้ยกฟ้องในคดีนี้ โดยศาลฯวินิจฉัยว่า การที่ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น มีคำสั่งจังหวัดขอนแก่นที่ 4506/2562 ลงวันที่ 8 ต.ค.2562 ให้นายบุญเลิศ พ้นจากตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 7 ต.ศิลา อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น เป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมาย และคำวินิจฉัยของ รมว.มหาดไทย ที่มีคำวินิจฉัยให้ยกอุทธรณ์ของนายบุญเลิศ เป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมายเช่นกัน
“…คดีนี้ปรากฏข้อเท็จจริงตามรายงานการสอบสวนของคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ตามคำสั่งอำเภอเมืองขอนแก่นที่ 137/2562 ลงวันที่ 29 เม.ย.2562 ว่า เมื่อวันที่ 28 เม.ย.2562 มีการเล่นการพนันไฮโลว์บริเวณศาลดอนปู่ตา (ข้างคลองชลประทาน) บ้านศิลา หมู่ที่ 1 ตำบลศิลา อำเภอเมืองชอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ซึ่งมีพื้นที่ติดต่อกับบ้านเต่านอ หมู่ที่ 7 ตำบลศิลา อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ตามภาพถ่ายที่ปรากฏในสำนวนการสอบสวนจริง
โดยคณะกรรมการฯ ได้สอบสวนบันทึกถ้อยคำบุคคลที่ระบุเป็นบุคคลในภาพถ่ายและอยู่ในบริเวณวงพนัน จำนวน 4 รายได้แก่ นาง ร. นาง จ. นางสาว ค. และและนางสาว อ. และพยานบุคคลที่ผู้ฟ้องคดีกล่าวอ้างเป็นพยาน จำนวน 6 ราย ได้แก่ นาย ณ นาง ด. นาย ณ นาง อ. นาย ว. และนาย จ. รวมทั้งผู้ฟ้องคดีด้วยแล้ว
กลุ่มพยานบุคคลทั้งสี่รายให้ถ้อยมีสาระสำคัญเช่นเดียวกันว่า ผู้ฟ้องคดี (นายบุญเลิศ) ได้อยู่ร่วมในวงพนันไฮโลว์และได้ร่วมเล่นการพนันด้วย โดยผู้ฟ้องคดีจะเป็นคนสั่งและมอบเงินให้บุคคลที่ใส่เสื้อยืดคอกลมสีเทา ซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ภายในวงพนัน (นาย พ.) โดยนั่งอยู่ด้านหน้าติดกับผู้ฟ้องคดี (ผู้ฟ้องคดียืนด้านหลัง) เล่นแทน
และผู้ฟ้องคดีให้ถ้อยคำยอมรับว่าภาพถ่ายผู้ชายซึ่งสวมเสื้อลายดอกสีแดงพื้นสีฟ้า (ที่บริเวณคอเสื้อคล้องพวงมาลัยและมีผ้าเช็ดหน้าคล้องคอ) ที่อยู่ร่วมในวงพนันไฮโลว์ คือ ผู้ฟ้องคดี แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้ร่วมเล่นการพนันด้วย เพียงแต่เดินเข้าไปทักทายพูดคุยกับนาย พ. ซึ่งเป็นญาติของผู้ฟ้องคดีที่กำลังเล่นการพนันไฮโลว์เท่านั้น
เมื่อผู้ฟ้องคดีได้พูดคุยกับนาย พ. เสร็จแล้ว ก่อนที่จะออกจากวงเล่นการพนันไฮโลว์ ผู้ฟ้องคดีได้ร้องบอกกับคนในวงเล่นการพนันไฮโลว์ว่า “อย่าเล่นกันหลายเด้อเพราะมันผิดกฎหมาย” โดยผู้ฟ้องคดีไม่ได้ดำเนินการใดกับกลุ่มบุคคลที่กำลังเล่นการพนันไฮโลว์ ไม่ได้แจ้งกำนันตำบลศิลา
แต่อ้างว่าได้ดำเนินการแจ้งต่อ นายเกรียงศักดิ์ ผู้ใหญ่บ้าน บ้านศิลา หมู่ที่ 1 ตำบลศิลา อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ว่า พบเห็นการกระทำความผิด คือ มีบุคคลร่วมกันเล่นการพนันไฮโลว์ เมื่อวันที่ 28 เม.ย.2562 เวลา ประมาณ 14 ถึง 16 นาฬิกา ณ บริเวณ ศาลดอนปูตา (ข้างคลองชลประทาน) บ้านศิลา หมู่ที่ 1
สำหรับพยานบุคคลที่ผู้ฟ้องคดีกล่าวอ้างเป็นพยานทั้งหกรายให้ถ้อยคำมีสาระสำคัญเช่นเดียวกันว่า ผู้ฟ้องคดี (นายบุญเลิศ) ได้อยู่ร่วมในวงพนันไฮโลว์ตามข้อกล่าวหาจริง เพียงแต่เป็นการเข้าไปพูดคุยทักทายกับนาย พ. เท่านั้น (บุคคลที่ใส่เสื้อยึดคอกลมสีเทา นั่งอยู่บนเก้าอี้ด้านหน้าฟ้องคดีที่ผู้ร้องเรียนกล่าวอ้างว่าเป็นผู้เล่นพนันไฮโลว์แทนผู้ฟ้องคดี) แต่ผู้ฟ้องคดีไม่ได้ร่วมเล่นพนันไฮโลว์แต่อย่างใด
นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ ได้สอบสวนบันทึกถ้อยคำ นายเกรียงศักดิ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 1 ตำบลศิลา โดยนายเกรียงศักดิ์ให้ถ้อยคำว่าว่า ตนไม่ทราบว่ามีการเล่นการพนันไฮโลว์ในวันที่ 28 เม.ย.2562 และไม่ได้รับแจ้งจากผู้ฟ้องคดีว่ามีการลักลอบเล่นการพนันไฮโลว์ในบริเวณดอนปู่ตา (ข้างคลองชลประทาน) แต่อย่างใด
เมื่อพิจารณาจากถ้อยคำพยานบุคคคลที่คณะกรรมการฯ ทำการสอบสวนก่อนการแจ้งสรุปพยานหลักฐานและพยานบุคคลที่ผู้ฟ้องคดีอ้างอิง เห็นได้ว่า มีการให้ถ้อยคำขัดแย้งกัน แต่เมื่อพิจารณาจากภาพถ่ายที่คณะกรรมการฯ รวบรวมในสำนวนการสืบสวนสอบสวน ซึ่งเป็นภาพถ่ายประกอบหนังสือร้องเรียนแล้ว ปรากฏพฤติการณ์ของผู้ฟ้องคดีหลายอิริยาบถ
อันได้แก่ ผู้ฟ้องคดี (นายบุญเลิศ) ยืนอยู่ใกล้ชิดในวงพนันไฮโลว์ติดกับบุคคลในเสื้อยืดคอกลมสีเทาที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ โดยบุคคลดังกล่าวถือธนบัตรหลายใบในมือ และมีเงินเดิมพันวางอยู่บนแผ่นกระดาษบอกแต้มเสี่ยงทายอยู่ตรงหน้า มองดูด้วยสายตาเห็นได้ชัดเจนว่า เป็นผู้ร่วมเล่นการพนันไฮโลว์ ส่วนผู้ฟ้องคดีที่ยืนด้านหลังชายคนดังกล่าวหันหน้าเข้าวงเล่นการพนันไฮโลว์ ในมือไม่มีธนบัตร
และมีภาพถ่ายที่ปรากฏว่า มือของผู้ฟ้องคดีจับแขนของชายคนดังกล่าว หรือชายคนดังกล่าวก้มลงเอาธนบัตรลงไปวางบนแผ่นกระดาษบอกแต้มเสี่ยงทาย โดยมีผู้ฟ้องคดียืนดูอยู่อย่างสนใจและจดจ่อ รวมถึงลักษณะของผู้ฟ้องคดีที่ก้มลงดูหรือร่วมลุ้นผลเสี่ยงทาย เสมือนเป็นส่วนหนึ่งของการร่วมเล่นการพนันอย่างใกล้ชิด
สอดคล้องกับถ้อยคำของพยานที่คณะกรรมการฯ ได้ทำการสอบสวนบันทึกถ้อยคำประกอบเรื่องที่กล่าวหาในเบื้องต้น จำนวน 4 ราย ที่ยืนยันว่า ผู้ฟ้องคดีได้อยู่ร่วมในวงพนันไฮโลว์และได้ร่วมเล่นการพนันด้วย โดยเล่นผ่านบุคคลที่ใส่เสื้อยืดคอกลมสีเทาที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ภายในวงพนัน (นั่งอยู่ด้านหน้าติดกับผู้ฟ้องคดี) โดยการมอบเงินให้บุคคลดังกล่าวเล่นแทน โดยผู้ฟ้องคดีจะเป็นคนสั่งและบอกให้เล่น ซึ่งพยานบุคคลดังกล่าวเป็นบุคคลในท้องที่หมู่ที่ 3 ตำบลศิลา และยืนยันว่ารู้จัก และเคยร่วมกิจกรรมกับผู้ฟ้องคดี และไม่เคยมีเหตุโกรธเคืองกับผู้ฟ้องคดี
โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคคลทั้งสี่ มีฐานะเป็นลูกบ้านของผู้ฟ้องคดี ย่อมไม่มีเหตุและไม่กล้าให้ถ้อยคำในทางร้ายแก่ผู้ฟ้องคดี ประกอบกับพยานบุคคลดังกล่าวบางรายยืนยันว่า ตนเป็นผู้ร่วมเล่นการพนันดังกล่าว ซึ่งเป็นถ้อยคำในทางที่เป็นผลร้ายแก่ตนเอง ข้อเท็จจริงตามบันทึกถ้อยคำพยานบุคคลดังกล่าว จึงสอดคล้องกับภาพถ่ายประกอบสำนวนสืบสวนข้างต้น
ส่วนพยานบุคคลที่ผู้ฟ้องคดีอ้างอิง ซึ่งยืนยันว่าผู้ฟ้องคดีได้อยู่ร่วมในวงพนัน แต่ไม่ได้ร่วมเล่นการพนัน นั้น เมื่อพยานดังกล่าวเป็นบุคคลที่ผู้ฟ้องคดีอ้างอิง เพื่อสนับสนุนข้อโต้แย้งของตน ย่อมเป็นธรรมดาที่ต้องให้ถ้อยคำในทางเป็นประโยชน์และสนับสนุนข้อปฏิเสธของผู้ฟ้องคดี ซึ่งย่อมมีน้ำหนักให้รับฟังได้น้อย เมื่อข้ออ้างของผู้ฟ้องคดีและพยานที่ผู้ฟ้องคดีอ้างอิงเป็นดังที่กล่าว จึงเป็นข้อเท็จจริงที่ไม่มีน้ำหนักรับฟังหักล้างข้อกล่าวหาและพยานหลักฐานที่สนับสนุนข้อกล่าวหาได้
พฤติการณ์ของผู้ฟ้องคดีดังกล่าว จึงมีมูลเพียงพอให้เชื่อได้ว่า ผู้ฟ้องคดีได้ร่วมเล่นการพนันไฮโลว์ อันเป็นการพนันตามบัญชี ก. ท้าย พ.ร.บ.การพนัน พุทธศักราช 2487 อันดับที่ 23 เมื่อวันที่ 28 เม.ย.2562 ในช่วงเวลา 14 นาฬิกา ถึง 16 นาฬิกา จริง ซึ่งเป็นพฤติการณ์ที่มิชอบด้วยกฎหมาย ตามมาตรา 4 วรรคหนึ่ง แห่ง พ.ร.บ.การพนัน พุทธศักราช 2478
และเป็นพฤติการณ์ที่ย่อมอาจก่อความเสื่อมศรัทธาของราษฎรต่อฐานะหน้าที่ของผู้ฟ้องคดี ที่เป็นผู้นำของท้องที่ เกิดความเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์ของตำแหน่งหน้าที่ราชการของตนในฐานะผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็นหัวหน้าราษฎรอันมีลักษณะเป็นความผิดวินัยอีกส่วนหนึ่งด้วย
เมื่อโดยสถานะของผู้ฟ้องคดีที่ต้องกระทำตนให้เป็นตัวอย่างที่ดีแก่ราษฎรในหมู่บ้านและบุคคลทั่วไป ตามนัยมาตรา 27 แห่ง พ.ร.บ.ลักษณะปกครองท้องท้องที่ พระพุทธศักราช 2457 และยังมีอำนาจหน้าที่ในการที่เกี่ยวด้วยความอาญา ผู้ฟ้องคดีย่อมต้องทราบดีว่า การเล่นการพนันไฮโลว์เป็นการกระทำผิดกฎหมาย ซึ่งเมื่อผู้ฟ้องคดีทราบหรือพบเห็นก็ควรดำเนินการในทางป้องปรามหรือแก้ไข โดยแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้าน บ้านศิลา หมู่ที่ 1 หรือผู้มีอำนาจหน้าที่ในการป้องกันปราบปรามทราบ เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำความผิด
การที่ผู้ฟ้องคดีเข้าเป็นผู้ร่วมเล่นการพนันไฮโลว์เสียเอง ซึ่งนอกจากจะมิชอบด้วยกฎหมายแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของสถาบัน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และความเชื่อมั่นศรัทธาของประชาชนและบุคคลทั่วไป พฤติการณ์ดังกล่าวของผู้ฟ้องคดีจึงถือได้ว่า ผู้ฟ้องคดีบกพร่องในหน้าที่และประพฤติตนไม่เหมาะสมกับตำแหน่ง
ดังนั้น การที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 (ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น) มีคำสั่งจังหวัดขอนแก่น ที่ 4506/2562 ลงวันที่ 8 ต.ค.2562 ให้ผู้ฟ้องคดี (นายบุญเลิศ) พ้นจากตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 7 ตำบลศิลา อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ตามนัยมาตรา 14 (7) แห่งพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พระพุทธศักราช 2457 จึงเป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว
และเมื่อได้วินิจฉัยแล้วว่า การที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 มีคำสั่งจังหวัดขอนแก่นที่ 4506/2562 ลงวันที่ 8 ต.ค.2562 ให้ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 7 ตำบลศิลา อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น เป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมาย
การที่ผู้ถูกฟ้องคดี 2 (รมว.มหาดไทย) ที่มีคำวินิจฉัยให้ยกอุทธรณ์ของผู้ฟ้องคดีตามหนังสือ (บันทึกข้อความ) สำนักกฎหมาย ลับ ที่ มท 0208.1/218 ลงวันที่ 29 พ.ย.2562 ซึ่งแจ้งตามหนังสือกรมการปกครอง ลับ ที่ มท 0310.2/2296ลงวันที่ 13 ธ.ค.2562 โดยอาศัยข้อเท็จจริงและเหตุผลเดียวกัน จึงเป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมายเช่นกัน อุทธรณ์ของผู้ฟ้องคดีฟังไม่ขึ้น” คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด คดีหมายเลขดำที่ อร 90/2564 คดีหมายเลขแดงที่ อร 39/2567 ลงวันที่ 22 มี.ค.2567 ระบุ
อ่านประกอบ :
พลิกคำพิพากษา‘ศาล ปค.สูงสุด’ยืนคำสั่ง‘มท.’เด้ง‘อดีตนายกเทศฯสะแก’เล่น‘ไฮโลว์’ในสำนักงานฯ