‘เผ่าภูมิ’ ยอมรับยังไม่ได้ถาม ‘กฤษฎีกา’ กรณีล้วงเงินทำ ‘ดิจิทัลวอลเลต’ ชี้ต้องทำเป็นแพคเกจทีเดียวถาม ก่อนกางไทม์ไลน์ประชุมอนุฯ 10 ก.ค. / บอร์ดเงินหมื่น 15 ก.ค. และแถลงใหญ่อีกครั้ง 24 ก.ค.นี้ ก่อนเมิน ‘World Bank - ธปท.’ ติงแจกเงินไม่ช่วยฟื้นเศรษฐกิจ ด้านนายกฯชี้คุยกันตลอดปม ธ.ก.ส. ขอให้รอแถลงชี้แจงทีเดียว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 8 กรกฎาคม 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า กรณีที่ฝ่ายค้านมีความกังวลที่รัฐบาลจะนำงบของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ใช้ในโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเลต ซึ่งงบของ ธ.ก.ส. อาจไม่เพียงพอนั้น จริงๆมีการพูดคุยตลอดเวลาในเรื่องนี้ ก็เข้าใจในความกังวล เดี๋ยวจะมีการชี้แจงแถลงให้ทราบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า การใช้งบของ ธ.ก.ส. ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันใช่หรือไม่ และเห็นว่า ยังไม่ได้มีการส่งเรื่องให้กฤษฎีกา นายกรัฐมนตรีตอบว่า มีการพูดคุยกันตลอด หากเรียบร้อยแล้วจะแจ้งให้ทราบ
เมื่อถามย้ำว่า ยังไม่มีการสอบถามเรื่องนี้กับคณะกรรมการกฤษฎีกาใช่หรือไม่ ในการใช้งบ ธ.ก.ส. นายเศรษฐากล่าวปฏิเสธว่า เรื่องนี้ต้องถาม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง อีกที แต่ถ้าเกิดพร้อมแล้วก็จะมีการส่งสอบถามทุกเรื่อง ส่วนยังยืนยันแหล่งที่มาของเงินจาก 3 แหล่ง ใช่หรือไม่นั้น ทุกอย่างจะต้องถูกต้องและเป็นไปตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวซักอีกว่า มีการมองกันว่า นายกฯ ทำงานหนักแต่เริ่มถูกคดีตามมาเป็นหางว่าว ตรงนี้ทำอย่างไร นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ก็ตื่นเช้าไปทำงานเหมือนเดิมทุกวัน ก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย หากมีความข้องใจหรือไม่สบายใจเรามีองค์กรอิสระที่ต้องมาตรวจสอบการทำงานของนักการเมือง ก็ต้องยอมรับในกระบวนการที่เราก้าวเข้ามาเป็นนักการเมือง ก็ไม่ได้เสียกำลังใจอะไร ก็ทำงานต่อไป
เผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง
@นายกฯ เตรียมแถลงอัพเดท 24 ก.ค.นี้
ด้านนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง ให้สัมภาษณ์ว่า การที่นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้ข้อสังเกตว่า คณะกรรมการ (บอร์ด) ธ.ก.ส. ยังไม่อนุมัติ งบประมาณ 1.7 แสนล้านบาท สำหรับโครงการดิจิทัลวอลเลต หมายความว่ารัฐบาลยังไม่ได้ส่งโครงการให้คณะกรรมการกฤษฎีกา ตีความว่าการนำเงินไปใช้ขัดวัตถุประสงค์ธกส.ใช่หรือไม่นั้น ยืนยันว่า การส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความต้องส่งเป็นแพคเกจ ทุกเงื่อนไขทุกข้อจำกัดต้องเคลียร์ ต้องเสร็จสิ้นหมดแล้ว เช่น ธ.ก.ส.จะต้องเสนอมาว่าจะแจงเงินประชาชนเท่านี้ ด้วยเงื่อนไขแบบนี้ ระบบแบบนี้ สินค้าต้องห้ามมีอะไรบ้าง เงื่อนไขอะไรต่างๆต้องครบแล้วให้ตีความเป็นก้อนไม่ใช่เป็นชิ้น แต่ยืนยันวันนี้ทุกอย่างยังอยู่ในไทม์ไลน์
โดยการจะส่งไปนั้นต้องรอระยะเวลาที่เหมาะสม และขอชี้แจงไทม์ไลน์ของโครงการว่า วันที่ 10 ก.ค. จะประชุมอนุกรรมการดิจิทัลวอลเล็ต เพื่อสรุปเงื่อนไขทั้งหมด วันที่ 15 ก.ค. คณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ชุดใหญ่ที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯเป็นประธานจะมีการประชุม และวันที่ 24 ก.ค. นายกฯจะแถลงข่าวสรุปโครงการรวมถึงขั้นตอนการลงทะเบียนและยืนยันตัวตน ก่อนจะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 30 ก.ค.
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะนำเรื่องปรึกษาคณะกรรมการกฤษฎีกา ก่อนหรือหลังวันที่ 30 ก.ค. นายเผ่าภูมิ ตอบว่า หลังจากวันที่ 30 ก.ค.
เมื่อถามว่าหากสุดท้ายคณะกรรมการกฤษฎีกา ตีความว่าการนำเงินมาใช้สำหรับโครงการดิจิทัลวอลเลต ขัดวัตถุประสงค์ธกส. มีแผนสำรองไว้หรือไม่ หรือจะจ่ายเฉพาะวงเงินที่มี นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า มีเสนอ แผนสองสองแผนสาม มีอยู่แล้ว แต่จะเดินในแผนหนึ่งก่อน ซึ่งการลงทะเบียนยืนยันตัวตนจะเกิดขึ้นในไตรมาส 3 และยืนยันว่าเงินจะถึงมือประชาชนไตรมาส 4 ส่วนจะได้วันใดนั้น ขอยังไม่ระบุเพื่อความยืดหยุ่น
@แย้ม ‘มือถือ-สินค้าไอที’ อาจไม่ได้ร่วมใช้เงินหมื่น
ส่วนข้อกังวลของประชาชนหลังมีฝ่ายค้านออกมาท้วงติง อยากให้ประชาชนแยกคิดเป็นเงินก้อนๆ ก้อนเงินจากงบประมาณปี 67 และ 68 อยู่ในกระบวนการ ส่วนก่อนที่เกี่ยวกับ ธ.ก.ส. ก็อยู่ในกระบวนการ ในเรื่องของงบประมาณไม่มีปัญหาอะไร ข่าวที่ตีออกไปถือเป็นความเห็นที่เรารับฟัง แต่รัฐบาลก็เดินตามกระบวนการ กรอบระยะเวลาและกฎหมายทุกอย่าง สำหรับสินค้าอะไรบ้างที่จะไม่เข้าเงื่อนไขนั้น ยกตัวอย่างมือถือและสินค้าอิเลคทรอนิก มีความเป็นไปได้สูงที่จะถูกตัดออก แต่ตอนนี้อยู่ในการพิจารณาของกระทรวงพาณิชย์ เพื่อดูว่าสินค่าอะไรทำให้เงินออกไปนอกประเทศโดยจะสรุปในที่ประชุมคณะอนุกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตวันที่ 10 ก.ค.
เมื่อถามย้ำว่าเสียงท้วงติงของ นางสาวศิริกัญญา จะกระทบความเชื่อมั่นโครงการหรือไม่ นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า เป็นทุกความเห็นที่ต้องรับฟัง และนำมาไตร่ตรองว่าสิ่งที่ทำถูกต้องตรงตามหลักการณ์ข้อกฎหมายหรือไม่ ถ้าตรงตามกฎหมายต้องทำต่อแล้วชี้แจงความเห็นต่าง
เมื่อถามอีกว่า หากราคาสินค้าเกิน 10,000 บาท จะสามารถนำเงินในครอบครัว 2 คนมาใช้ร่วมกันได้หรือไม่ นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า รวมกันได้ นี่คือสิ่งที่รัฐบาลอยากให้เกิดด้วยซ้ำ 5 คนมารวมกันเป็น 5 หมื่น ท่านสามารถเอาไปซื้อรถเข็นมาขายของได้ นี่คือสิ่งที่เราอยากให้เกิด
@เมิน World Bank-ธปท.ติง ‘แจกหมื่น’ ไม่ช่วยปั้มศก.
สื่อมวลชนถามว่า มีความคิดเห็นอย่างไรกรณี ธนาคารโลก รายงานผลประเมินว่าโครงการดิจิทัลวอลเลตจะสามารถกระตุ้นกระตุ้นจีดีพีได้แค่ 0.5-1.0% นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า อย่างที่บอกว่าตรงนี้คือโครงการใหม่ ที่ไม่เคยมีมาก่อน ไม่เคยมีการจำกัดรัศมี ไม่เคยมีการทำให้เงินหมุนอยู่หมู่บ้านในชุมชน ฉะนั้นการประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจหลากหลาย ซึ่งกระทรวงการคลังก็ประเมินจากหน่วยงานต่างๆที่ประเมิน ซึ่งตัวเลขการประเมินก็มีความหลากหลายขึ้นอยู่กับเงื่อนไข เช่น สินค้าต้องห้ามที่ยังไม่นิ่ง จึงยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะมีผลต่อระบบเศรษฐกิจเท่าไหร่ ทั้งนี้รัฐบาลมีหน้าที่รับฟัง รับข้อห่วงใย และข้อประเมิน และมาพิจารณาร่วมกัน
เมื่อถามต่อว่า ข้อสังเกตธนาคารโลก ระบุว่าถ้าไม่ทำโครงการดิจิทัลวอลเลต ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)อาจจะสามารถลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายได้ถึง 0.25-0.5 % ต่อปี นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า มาตรการทางการเงินก็ต้องทำหน้าที่ในส่วนของมาตรการทางการเงินอยู่แล้ว อย่าเอามาผูกกันในมิติต่างๆ ธปท. เคยผูกมาแล้วครั้งหนึ่ง ที่คาดการว่าเงินดิจิทัลวอลเลตจะเกิดปีนี้ และมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปรอ เพราะกลัวเงินเฟ้อ ธปท.เคยทำมาแล้ว เมื่อเอาผูกกันอย่างนี้ ผูกเสร็จแล้วก็มีปัญหา ในที่สุดธปท.ขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยที่เงินดิจิทัลฯยังไม่ออก และเงินเฟ้อก็ไม่ได้ขึ้น ทำให้มีปัญหาและเห็นเงินเฟ้อตกขอบในปัจจุบัน
อ่านประกอบ :