เปิดโครงสร้างรายจ่ายงบปี 68 รัฐบาลอัดฉีดลงทุน 8.65 แสนล้าน-ขาดดุลฯแตะ 4.4% ต่อ GDP

gov 12 04 24 pic

เปิดโครงสร้าง 'งบประมาณรายจ่าย' ปีงบฯ 68 รัฐบาลจัดสรรงบลงทุน 8.65 แสนล้าน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 21.9% ขณะที่ขาดดุลงบประมาณแตะ 4.4% ต่อ GDP

.................................

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา ที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบการทบทวนวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบฯ 2568 ตามที่สำนักงบประมาณ เสนอ โดยกำหนดวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบฯ 2568 เป็น 3,752,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบฯ ที่กำหนดไว้ 3,480,000 ล้านบาท เป็นจำนวน 272,700 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7.8%

สำหรับโครงสร้างงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบฯ 2568 ประกอบด้วย

1.รายจ่ายประจำ จำนวน 2,736,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบฯ จำนวน 196,431.4 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7.7% และคิดเป็นสัดส่วน 72.9% ของวงเงินงบประมาณรวม ลดลงจากปีงบฯ 2567 ซึ่งมีสัดส่วน 73.0%

2.รายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลัง ในปีงบฯ 2568 ไม่มีรายการที่ต้องเสนอตั้งงบประมาณ เทียบกับปีงบฯ 2567 ที่ตั้งงบประมาณไว้ 118,361.1 ล้านบาท

3.รายจ่ายลงทุน จำนวน 865,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบฯ 2567 จำนวน 155,619.5 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 21.9% และคิดเป็นสัดส่วน 23.1% ของวงเงินงบประมาณรวม เพิ่มขึ้นจากปีงบฯ 2567 ซึ่งมีสัดส่วน 20.4%

4.รายจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้ จำนวน 150,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบฯ 2567 จำนวน 31,780 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 26.9% และคิดเป็นสัดส่วน 4.0% ของวงเงินงบประมาณรวม เพิ่มขึ้นจากปีงบฯ 2567 ซึ่งมีสัดส่วน 3.4%

ทั้งนี้ ในงบปี 2568 รัฐบาลคาดว่าจะมีรายได้สุทธิ จำนวน 2,887,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบฯ 2567 จำนวน 100,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3.6% ส่งผลให้งบปี 2568 มีการขาดดุลงบประมาณ จำนวน 865,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบฯ จำนวน 172,700 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 24.9% และคิดเป็นสัดส่วน 4.4% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) เพิ่มขึ้นจากปีงบฯ 2567 ซึ่งมีสัดส่วน 3.7% ของ GDP

รายงานข่าวแจ้งว่า การทบทวนวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบฯ 2568 ดังกล่าว อยู่ภายใต้สมมติฐาน เศรษฐกิจไทยในปี 2568 มีแนวโน้มที่จะขยายตัวในช่วง 2.8-3.8% (ค่ากลาง 3.3%) โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวต่อเนื่องของการส่งออกสินค้าตามแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและปริมาณการค้าโลก การขยายตัวของการอุปโภคบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน รวมถึงการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อจำกัดและปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญจากความยืดเยื้อของความขัดแย้งเชิงภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและสร้างความผันผวนของตลาดเงินและตลาดทุน รวมถึงการลดลงของแรงขับเคลื่อนด้านการคลังในระยะต่อไป สำหรับเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในปี 2568 คาดว่าอัตราเงินเฟ้อในปี 2568 จะอยู่ในช่วง1.1-2.1% (ค่ากลาง 1.6%) และดุลบัญชีเดินสะพัดมีแนวโน้มเกินดุล 1.6% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ

gov 12 04 24 1