ป.ป.ช.ขออุทธรณ์! รอลงอาญาคุก 5 ปี อดีตนายก อบต.สายห้วยแก้ว-พวก เบิกจ่ายเงินซ้ำซ้อน

เขียนวันที่

วันศุกร์ ที่ 08 ธันวาคม 2566 เวลา 06:09 น.

เขียนโดย

isranews

Hits

14232 views

picppckewdsdasas8 12 66

เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา 'ฉลวย นาน้ำเชี่ยว' อดีตนายก อบต.สายห้วยแก้ว ลพบุรี เบิกจ่ายเงินซ้ำซ้อนขุดลอกคลองส่งน้ำ ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 1 พิพากษาลงโทษจำคุกคนละ 5 ปี พร้อมพวก แต่พยายามชดใช้เงินคืนแล้ว ถือว่าบรรเทาผลเสียหาย ให้รอลงอาญา 2 ปี - ป.ป.ช.ขอ อสส.อุทธรณ์คำพิพากษา

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายฉลวย นาน้ำเชี่ยว เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) สายห้วยแก้ว อำเภอบ้านหมี่จังหวัดลพบุรี กับพวก คือ นายเชน มีคุณ นายมงคล คำวงศ์ นางสาวกิตติมาวดี ตันตะสิ และนายกิตติคม นาคแผ่น เบิกจ่ายเงินซ้ำซ้อนในโครงการขุดลอกคลองส่งน้ำ หมู่ที่ 6 บ้านคลองสิบเอ็ด ตามใบสั่งจ้างเลขที่ 91/2559 ลงวันที่ 14 มิถุนายน 2559 ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 , 151 , 157 ประกอบมาตรา 86 และตาม พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 ประกอบ ป.อ. มาตรา 86 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 ต.ค.2564

ล่าสุด เมื่อวันที่ 20 ก.ค.2566 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 มีคำพิพากษาดังนี้

1.นายฉลวย นาน้ำเชี่ยว จำเลยที่ 1 นายเชน มีคุณ จำเลยที่ 2 นายมงคล คำวงศ์ จำเลยที่ 3 นางสาวกิตติมาวดี ตันตะสิ จำเลยที่ 4 และนายกิตติคม นาคแผ่น จำเลยที่ 5 มีความผิดตามกฎหมาย

2. ลงโทษ นายฉลวย นาน้ำเชี่ยว จำเลยที่ 1 นายเชน มีคุณ จำเลยที่ 2 นายมงคล คำวงศ์ จำเลยที่ 3 และ นายกิตติคม นาคแผ่น จำเลยที่ 5 จำคุกคนละ 5 ปี และปรับคนละ 30,000 บาท

3. ลงโทษ นางสาวกิตติมาวดี ตันตะสิ จำเลยที่ 4 จำคุก 3 ปี 4 เดือน และปรับ 20,000 บาท

4. จำเลยได้พยายามชดใช้เงินคืนแล้ว ถือเป็นการพยายามบรรเทาผลเสียหายจากการกระทำ ให้รอลงโทษ จำคุกคนละ 2 ปี ถ้าไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามมาตรา 29,30

อย่างไรก็ดี คดีนี้ยังไม่สิ้นสุด จำเลยทั้งหมด มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้

เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2566 ได้พิจารณาแล้วไม่เห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 และเห็นควรอุทธรณ์คำพิพากษาดังกล่าว

สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท

picpppckedsxfvvv8 12 66

อ่านประกอบ :

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage