เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา 'มานิต สิทธิผล' อดีตอัยการจังหวัดกันทรลักษณ์ รับสำนวนแล้วไม่พิจารณา มีคำสั่งไม่ฟ้องคดีย้อนหลังปลอมลายมือชื่อรองผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ เห็นชอบคำสั่งไม่ฟ้องคดี ทั้งที่มิได้เสนอสำนวน ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 3 พิพากษาลงโทษจำคุก 9 ปี ได้แต่รอลงอาญา - ป.ป.ช.ขออสส.อุทธรณ์สู้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายมานิต สิทธิผล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอัยการจังหวัดกันทรลักษณ์ สำนักงานอัยการสูงสุด รับสำนวนแล้วไม่พิจารณา โดยมีคำสั่งไม่ฟ้องคดีย้อนหลังและปลอมลายมือชื่อรองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ว่าเห็นชอบกับคำสั่งไม่ฟ้องคดี ทั้งที่มิได้เสนอสำนวนพร้อมกับคำสั่งไม่ฟ้องแต่อย่างใด ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 มาตรา 161 ประกอบมาตรา 91 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.2564
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.2566 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 มีคำพิพากษาว่า นายมานิต สิทธิผล จำเลยผิดตามมาตรา 157 (เดิม), 161 (เดิม)
การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามมาตรา 91 ความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดและฐานเป็นเจ้าพนักงานปลอมเอกสาร เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท
ให้ลงโทษฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตาม มาตรา 90
จำคุกกระทงละ 2 ปี และปรับกระทงละ 10,000 บาท รวม 9 กระทง จำคุก 9 ปี และปรับ 44,000 บาท
พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้วเห็นว่า จำเลยรับราชการมานานทำคุณประโยชน์ให้แก่ราชการไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน อีกทั้งไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าการกระทำของจำเลยเป็นการแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายอันเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ สมควรให้โอกาสกลับตนเป็นพลเมืองดี
โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี ตามมาตรา 56 (ที่แก้ไขใหม่) หากไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามมาตรา 29, 30
อย่างไรก็ดี คดีนี้ยังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
เบื้องต้น ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 27 ต.ค.2566 ได้พิจารณาแล้วมีมติเห็นควรมีหนังสือขอความอนุเคราะห์อัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาอุทธรณ์คำพิพากษาดังกล่าว
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อ่านประกอบ :
- คุก 28 ปี 224 ด.! อดีตผอ.โรงเรียนพรตพิทยพยัต ทุจริตต่อหน้าที่ 3 ข้อกล่าวหา
- คุก 20 ปี! อดีตนายกเทศฯ ท่าเสา อุตรดิตถ์ สารภาพสั่งการจ้างซ่อมรถอู่ตัวเอง
- ยืนโทษ! คุก 3 ปี 9 ด. อดีตนายกอบต.ศาลายา มีส่วนได้เสียจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ไฟฟ้า-วิทยุ
- มีส่วนได้เสียจัดซื้อเอกชน! คุก 40 ปี อดีตนายกเทศฯ ถ้ำใหญ่-พวกโดน 24 ปี 32 ด.
- คุก1 ปี! พิพากษากลับลงโทษอดีตรองผอ.ขสมก.สั่งการแก้ไขบันทึกข้อตกลงสัญญาเอื้อเอกชน
- รอลงอาญา! คุก 6 ด. อดีตนายก อบต.เขากอบ ตรัง ไม่ลงนามอนุญาตก่อสร้างอาคารพักอาศัย