ป.ป.ช.เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา 'สมศักดิ์ อัครนวเสรี' อดีตวิศวกรฯ สบส. เรียกรับเงินแลกเปลี่ยนให้ความเห็นชอบโครงสร้างอาคารผู้ป่วยโรงพยาบาลบ้านไผ่ ขอนแก่น ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 4 พิพากษาลงโทษ จำคุก 5 ปี พวกโดน 2 กระทง 10 ปี ไม่รอลงอาญา
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายสมศักดิ์ อัครนวเสรี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งวิศวกรโยธาชำนาญการพิเศษ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข กับพวก คือ นายสุรัตน์ พลเยี่ยม เรียกรับเงินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้รับจ้างเพื่อแลกเปลี่ยนกับการให้ความเห็นชอบเปลี่ยนรูปแบบรายการโครงสร้างและเพื่อเป็นค่าตอบแทนการควบคุมงานจ้างในการก่อสร้างอาคารผู้ป่วยนอกโรงพยาบาลบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 และ มาตรา 157 และ พ.ร.ป. ป.ป.ช. พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตาม พ.ร.ป. ป.ป.ช. พ.ศ.2561 มาตรา 172 ) ตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 ก.พ.2565
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 6 ก.ค.2566 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 มีคำพิพากษาว่า นายสมศักดิ์ อัครนวเสรี จำเลยที่ 1 และ นายสุรัตน์ พลเยี่ยม จำเลยที่ 2 มีความผิดตามมาตรา 149 (เดิม) พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1
การกระทำของ นายสมศักดิ์ อัครนวเสรี จำเลยที่ 1 เป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษตามมาตรา 149 (เดิม) ซึ่งเป็นกฎหมายที่มีโทษหนักที่สุดตามมาตรา 90
จำคุก 5 ปี
การกระทำของ นายสุรัตน์ พลเยี่ยม จำเลยที่ 2 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามมาตรา 91 ฐานเป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ และฐานเป็น
พนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเวันการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษตามมาตรา 149 (เดิม) ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามมาตรา 90
จำคุกกระทงละ 5 ปี รวมสองกระทง เป็นจำคุก 10 ปี
ทั้งนี้ คดียังไม่สิ้นสุด จำเลยทั้งสอง มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
เบื้องต้น ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.เมื่อวันที่ 27 ต.ค.2566 ได้พิจารณาแล้วมีมติเห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 4
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือประหารชีวิต
มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อ่านประกอบ :
- คุก 28 ปี 224 ด.! อดีตผอ.โรงเรียนพรตพิทยพยัต ทุจริตต่อหน้าที่ 3 ข้อกล่าวหา
- คุก 20 ปี! อดีตนายกเทศฯ ท่าเสา อุตรดิตถ์ สารภาพสั่งการจ้างซ่อมรถอู่ตัวเอง
- ยืนโทษ! คุก 3 ปี 9 ด. อดีตนายกอบต.ศาลายา มีส่วนได้เสียจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ไฟฟ้า-วิทยุ
- มีส่วนได้เสียจัดซื้อเอกชน! คุก 40 ปี อดีตนายกเทศฯ ถ้ำใหญ่-พวกโดน 24 ปี 32 ด.
- คุก1 ปี! พิพากษากลับลงโทษอดีตรองผอ.ขสมก.สั่งการแก้ไขบันทึกข้อตกลงสัญญาเอื้อเอกชน
- รอลงอาญา! คุก 6 ด. อดีตนายก อบต.เขากอบ ตรัง ไม่ลงนามอนุญาตก่อสร้างอาคารพักอาศัย
- ป.ป.ช.ขออุทธรณ์! รอลงอาญา คุก 9 ปี อดีตอัยการฯ ปลอมลายมือชื่อรองผู้ว่าฯ สั่งไม่ฟ้องคดี
- ยืนโทษ! คุก 5 ปี อดีตนายก อบต.โพธิ์ประสาท เรียกเงินตอบแทนอนุมัติจ่ายโบนัส พนง.-ลูกจ้าง
- คุก 50 ปี อดีตนายก อบต.หนองอึ่ง ทุจริตโครงการก่อสร้าง-พวก 4 รายโดนโทษหนักด้วย