เผยมติ ป.ป.ช.ตีตกข้อกล่าวหา 'วิโรจน์ นวลแข' อดีตปธ.กรุงไทย พร้อมบิ๊ก 3 ราย 'ชัยณรงค์-อุตตม-มัชฌิมา' กรณีทุจริตอนุมัติวงเงินสินเชื่อ ให้ บ.เพรซิเดนท์ อะกริเทรดดิ้ง รวมธนาคารอีก 9 แห่ง วงเงิน 9.7 พันล้าน ผู้ชนะการประมูลซื้อข้าวในสต๊อก ปี 2546 โดยใช้สัญญาปลอม หลังพิจารณาสำนวนไต่สวนเบื้องต้น ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงพยานหลักฐานฟังได้ว่ากระทำความผิดตามที่กล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่มติคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ ตีตกข้อกล่าวหา นายอุตตม สาวนายน กรรมการธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) นายชัยณรงค์ อินทรมีทรัพย์ กรรมการธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) นายมัชฌิมา กุญชร ณ อยุธยา กรรมการธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และนายวิโรจน์ นวลแข ประธานกรรมการธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กรณีทุจริตอนุมัติวงเงินสินเชื่อ Packing Credit ปี 2545 - 2550 แก่บริษัท เพรซิเดนท์ อะกริเทรดดิ้ง จำกัด ผู้ชนะการประมูลซื้อข้าวในสต๊อก ปี 2546 จากกรมการค้าต่างประเทศ จำนวน 1.688 ล้านตัน โดยบริษัท เพรซิเดนท์ อะกริเทรดดิ้ง จำกัด ได้นำสัญญาการค้าข้าวที่ทำกับบริษัท Ascot Commodities NV จำกัด ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ จำนวน 26 ฉบับ ซึ่งเป็นสัญญาปลอมมาขอสินเชื่อกับผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 และธนาคารพาณิชย์อื่น รวม 9 แห่ง วงเงินอนุมัติ 9,700 ล้านบาท
หลังพิจารณาสำนวนไต่สวนเบื้องต้น ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่จะฟังได้ว่า นายวิโรจน์ นวลแข ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 นายชัยณรงค์ อินทรมีทรัพย์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 นายอุตตม สาวนายน ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 และนายมัชฌิมา กุญชร ณ อยุธยา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 ได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
สำนักงาน ป.ป.ช. ระบุพฤติการณ์ที่กล่าวหาว่ากระทำผิดโดยสรุป ว่า นายวิโรจน์ นวลแข ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ทุจริตอนุมัติวงเงินสินเชื่อ Packing Credit ปี 2546 - 2550 แก่บริษัท เพรซิเดนท์ อะกริเทรดดิ้ง จำกัด ผู้ชนะการประมูลซื้อข้าวในสต๊อก ปี 2546 จากกรมการค้าต่างประเทศ จำนวน 1.688 ล้านตัน โดยบริษัท เพรซิเดนท์ อะกริเทรดดิ้ง จำกัด ได้นำสัญญาการค้าข้าวที่ทำกับบริษัท Ascot Commodities NV จำกัด ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ จำนวน 26 ฉบับ ซึ่งเป็นสัญญาปลอมมาขอสินเชื่อ กับ นายวิโรจน์ นวลแข ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 และธนาคารพาณิชย์อื่น รวม 9 แห่ง วงเงินอนุมัติ 9,700 ล้านบาท ต่อมาในปี 2549 บริษัท เพรซิเดนท์ฯ เริ่มผิดนัดชำระหนี้ส่งผลกระทบต่อระบบธนาคารในวงกว้าง
นายชัยณรงค์ อินทรมีทรัพย์ ผู้ถูกกลาวหาที่ 2 ร่วมกับบริษัท เพรซิเดนท์ฯ ผู้ชนะการประมูลข้าวในสต๊อกจากกรมการค้าต่างประเทศ จำนวน 1.688 ล้านตัน เป็นเงิน 14,281.12 ล้านบาท ได้แก้ไขสัญญาซื้อขายข้าวสาร เลขที่ ครก.ขข.02/2547 ลว.18 พ.ค. 47 โดยตัดคำว่า "เพื่อส่งออกไปนอกราชอาณาจักร" ซึ่งเป็นสาระสำคัญของสัญญา เป็นช่องว่าง ให้ผู้ซื้อสามารถยกขึ้นอ้างว่า สามารถนำข้าวจำหน่ายภายในประเทศ ซึ่งผิดวัตถุประสงค์ของการเปิดประมูลตลอดจน เงื่อนไขในสัญญาที่มีวัตถุประสงค์และเงื่อนไขในการส่งออก
ผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่ประชุมพิจารณาแล้ว มีมติเป็นเอกฉันท์ ด้วยคะแนนเสียง 5 เสียง เห็นชอบตามความเห็นของคณะผู้ไต่สวนเบื้องต้น ว่า จากการไต่สวนเบื้องต้น ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่จะฟังได้ว่า นายวิโรจน์ นวลแข ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 นายชัยณรงค์ อินทรมีทรัพย์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 นายอุตตม สาวนายน ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 และนายมัชฌิมา กุญชร ณ อยุธยา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 ได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
กล่าวสำหรับ บริษัท เพรซิเดนท์ อะกริเทรดดิ้ง จำกัด เป็นบริษัทของนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือ “เสี่ยเปี๋ยง” อดีตนักธุรกิจค้าข้าวชื่อดัง เป็นตัวละครสำคัญในคดีทุจริตประมูลข้าวของรัฐ และโครงการบ้านเอื้ออาทร สมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปัจจุบันนายอภิชาติ ถูกศาลพิจารณาลงโทษคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ตัดสินลงโทษเป็นระยะเวลากว่า 48 ปี นอกจากนี้ ยังถูกสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหาย พร้อมกับพวกเป็นจำนวนเงินกว่า 1.69 หมื่นล้านบาท
ขณะที่ นายวิโรจน์ นวลแข ตกเป็นจำเลยในคดีทุจริตธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้สินเชื่อแก่เครือกฤษดามหานครวงเงินนับหมื่นล้านบาท โดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาลงโทษจำคุก 18 ปี ไปแล้ว