ทูตอิสราเอลยืนยันค่าแรงขั้นต่ำแรงงานไทยเป็นไปตามกฎหมายกำหนด ยอมรับทุกอย่างไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่ได้ดูแล ให้ข้อมูลที่จำเป็นแก่คนไทยในช่วงสงคราม-แจงตอนนี้เร็วไปพูดเรื่องอยู่ร่วมกันกับปาเลสไตน์เห็นเพราะการโจมตีของกลุ่มฮามาสทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน
สืบเนื่องจากที่สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้นำเสนอรายงานข่าวจากสำนักข่าวไฟแนนเชียลไทม์สและสำนักข่าว The Forward ที่ระบุตอนหนึ่งว่าแรงงานไทยถูกปฏิบัติเยี่ยงชนชั้นสองในประเทศอิสราเอลโดยเฉพาะตอนที่เกิดสงครามกับกลุ่มฮามาส
- สื่ออิสราเอลเผย แรงงานไทยถูกปฏิบัติจาก รบ.เยี่ยงชนชั้นสอง-ขณะยอดตัวประกันแตะ 25 รายแล้ว
- เจาะลึกปัญหาสิทธิแรงงานไทย หลังสงครามอิสราเอล-ฮามาสปะทุ ทำยอดตายพุ่ง 32 ราย
จากกรณีดังกล่าวผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศราได้สอบถามเรื่องนี้ไปยังนางออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลประจำประเทศไทยในประเด็นคำถามที่ว่ามีรายงานข่าวระบุว่าสถานะของแรงงานไทยในช่วงก่อนสงครามนั้นย่ำแย่มาก อาทิ มีแรงงานไทยในพื้นที่ฉนวนกาซ่ากว่า 1,000 คนที่ไม่ได้ลงทะเบียน และแรงงานจำนวนมากก็ได้รับค่าแรงต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด
นางซาร์กิฟกล่าวว่ายังไม่ทราบรายละเอียดตรงนี้มากนักเพราะว่าไม่ได้เห็นรายงานข่าว แต่ขอเรียนว่าในประเด็นเรื่องค่าแรงนั้นขอเรียนว่าเราไม่เคยจ่ายค่าแรงขั้นต่ำ ต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนดแต่อย่างใด อัตราค่าแรงขั้นต่ำที่แรงงานไทยในอิสราเอลได้รับนั้นถือว่าสูงกว่ามากเมื่อเทียบกับในสถานที่อื่นๆโดยเฉพาะที่ๆกำลังมีสงครามอยู่
นางซาร์กิฟกล่าวต่อว่าเราไม่เคยพูดว่าทุกอย่างนั้นสมบูรณ์แบบ แต่ถ้าหากว่ามีสิ่งที่มันควรจะต้องทำให้ถูกต้อง เราก็จะทำสิ่งนั้น
“ตามที่ดิฉันเรียนไปแล้วเราได้ให้ชุดข้อมูลที่จำเป็นซึ่งเป็นภาษาไทยแก่แรงงานไทยไป อาทิ ข้อมูลว่าจะต้องติดต่อใครบ้าง ความช่วยเหลือที่จำเป็น เพราะเราต้องการให้มั่นใจว่าเมื่อแรงงานไทยมีปัญหาเขาสามารถจะโทรมาหาใครเพื่อให้ได้รับการช่วยเหลือ ซึ่งตรงนี้เราก็มีเจ้าหน้าที่ในกระทรวงมหาดไทยที่ประสานรับเรื่องอยู่”นางซากิฟกล่าว
เอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลกล่าวต่อไปด้วยว่าสาเหตุที่เรารับเอาแรงงานไทยไปเป็นจำนวนมากก็เพราะว่าเรามีข้อตกลงระหว่างรัฐบาลหรือว่าจีทูจี ดังนั้นเราจึงมีการประสานงานระหว่างกันตลอดเวลา แล้วสิ่งที่เราต้องทำตอนนี้ก็คือการทำให้มั่นใจว่าแรงงานไทยจะได้รับการปล่อยตัวโดยเร็ว
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรายังได้ถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักการของประเทศอิสราเอลว่าตอนนี้อิสราเอลได้ยอมรับวิธีการแก้ปัญหาด้วยทางออกสองรัฐ (Two-state solution) ที่บัญญัติให้มีรัฐของปาเลสไตน์คู่กับรัฐอิสราเอลหรือไม่ นางซากิฟกล่าวในประเด็นนี้ว่าตอนนี้เรากำลังมีสงครามที่ต่อสู้อยู่ ซึ่งตัวเธอคิดว่าหลังจากสงครามจบก็จะมีวิธีการตามมา จะเป็นวิธีการที่เราจะต้องตัดสินใจว่าจะอยู่ร่วมกันได้อย่างไร
“สิ่งสำคัญที่ต้องตระหนักตอนนี้ก็คือว่าการโจมตีของกลุ่มฮามาส ได้บ่อนทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจของอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างรุนแรง และคงเป็นเรื่องยากที่จะพูดถึงอนาคตได้ถ้าเราไม่มีความไว้เนื้อเชื่อใจ และมีความกลัวระหว่างกัน ซึ่งเรื่องนี้คือสิ่งที่กลุ่มฮามาสต้องการมาโดยตลอด ดังนั้นตอนนี้สิ่งที่เราจะพูดถึงจึงไม่ใช่เรื่องของอนาคต แน่นอนว่าตอนนี้เราหวังว่าในอนาคตเราจะสามารถหาวิธีที่จะมีชีวิตที่ดีร่วมกันได้ระหว่างชาวปาเลสไตน์และชาวอิสราเอล” นางซากิฟกล่าว